หลังจากวานนี้ (13 ก.ค.) ในการประชุมสภาเพื่อพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรี ผลปรากฎว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ห้วหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกฯ ได้รับคะแนนเสียง 324 เสียง ต่อคะแนนไม่เห็นด้วย 182 เสียง ขณะที่งดออกเสียง 199 เสียง ไม่มาลงคะแนน 45 คน รวมทั้งหมด 749 คน
ทำให้คะแนนเสียงสนับสนุน "พิธา" ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภาที่มี 749 คน หรือ 375 เสียง จึงไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศ ซึ่งต้องลุ้นว่าวันที่ 19 ก.ค.ที่จะถึงนี้ บทสรุปของ "พิธา" จะเป็นไปในทิศทางใด
หลังประธานรัฐสภา มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยมีเรื่องเสนอใหม่ คือ พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (โหวตนายกฯ รอบ2)
14 กรกฎาคม 2566 นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงความเป็นไปได้ในการเป็นนายกฯของนายพิธา โดยระบุว่า มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่า…มันไม่เกี่ยวกับเรื่องจงรักภักดีอะไรหรอก……
พวกมึงเล่นจะลดกองทัพ ลดนายพล ลดข้าราชการ ลดกฎหมาย ลดอำนาจ ลดทุนผูกขาด ลดทุกอย่างของอภิสิทธิ์ชน เพิ่มแค่อย่างเดียว คือ ภาษีคนรวย…ใครเขาจะยอมมึง