20 มิถุนายน 2566 นายธีระพงศ์ วงศ์ศิวะวิลาศ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับสัญญาบริษัทไอทีวี ว่า คำพิพากษาของศาลไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะออกมาเมื่อใด ตนเห็นเพียงในข่าว ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ให้ข่าวไปว่า จะตัดสินเมื่อใด ซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรีไม่ทราบเรื่อง
รวมไปถึงการฟ้องร้องดำเนินคดีในเรื่องนี้ เป็นการฟ้องร้องเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และเริ่มแรกไม่ได้เริ่มจากสำนักงานปลัด เป็นเรื่องคู่แข่งสัมปทานเข้ามา จึงเป็นเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบ เป็นเรื่องการจ่ายค่าสัมปทาน การปรับผัง
สุดท้ายเรื่องไปที่อนุญาโตตุลาการ ซึ่งสุดท้ายเห็นว่า มีหนี้มีสินต่อกันก็เสมอกันไป นี่คือคำตัดสินสุดท้าย ซึ่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีการอุทธรณ์คำพิพากษาไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ขณะนี้ก็ยังรอคำตัดสินอยู่
ส่วนหากบริษัทไอทีวีชนะการฟ้องร้องแล้ว จะกลับมาเป็นสื่อหรือไม่นั้น นายธีระพงศ์ กล่าวว่า ไม่มีประเด็นนี้ในการฟ้องร้อง แต่เป็นเรื่องการเปลี่ยนผัง โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นเรื่องเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งผลจะแพ้หรือชนะเป็นเรื่องของค่าเสียหาย ซึ่งต้องย้อนไปดูคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ พร้อมย้ำว่า มีประเด็นอยู่แค่นั้น ไม่ได้มีประเด็นใหม่อะไรเลย
นายธีระพงศ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มีการปลุกผีไอทีวีแต่อย่างใด รวมไปถึงไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลแต่อย่างใด ซึ่งไม่เคยกลับไปแตะต้องอะไรอีกเลยกับไอทีวี จนกระทั่งเป็นข่าว ตนจึงขอว่าอย่าเอาทั้ง 2 เรื่องมาผูกโยงกัน เนื่องจากอาจจะเกิดความสับสน และไม่เคยมีอะไรเพิ่มเติมจาก 2 ปีที่ผ่านมา สถานะอยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น ซึ่งต้องรอให้ศาลเป็นผู้พิจารณาคดี