svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"พิธา" เชื่อใจเพื่อไทย ไม่ถอนตัวพรรคร่วม โยนทีมเจรจาต่อรอง ปมชิงประธานสภา

26 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พิธา" ย้ำ เชื่อใจเพื่อไทย ไม่ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล หลังเกิดปัญหาแย่งที่นั่งประธานสภา โยนทีมเจรจาร่วมหาทางออก เชื่อก้าวไกล-เพื่อไทย สมานรอยร้าวได้ ตอบไม่ชัดกรณีพรรคที่ 3 นั่งประธานสภา หรือแบ่งคนละ 2 ปี

26 พฤษภาคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงปัญหาตำแหน่งประธานสภาที่ยังขัดแย้งกัน ระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย และกรณีที่มีนักวิชาการเสนอให้นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภา หรือให้พรรคก้าวไกลและเพื่อไทย แบ่งกันคนละ 2 ปี นั้น มองว่า ทั้ง 8 พรรคที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลจะต้องร่วมมือ ปรับจูนกัน ต้องมีการพูดคุยกัน ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันนี้

โดยทั้งตน และประชาชนก็ได้ยินแล้วว่า แต่ละพรรคมีความต้องการ มีเหตุผลอย่างไร มีความตั้งใจอย่างไร คิดว่าทางที่ดีที่สุดคือน่าจะกลับไปพูดคุยกันผ่านทีมเจรจาที่เคยตั้งไว้ และเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชน พยายามเดินหน้าเรื่องนโยบายในช่วงเวลา 1-2 เดือน ที่จะต้องทำนโยบายร่วมกัน และแถลงต่อรัฐสภา จึงคิดว่าตอนนี้น่าจะเหมาะสมที่จะกลับไปพูดคุยกัน 

"พิธา" เชื่อใจเพื่อไทย ไม่ถอนตัวพรรคร่วม โยนทีมเจรจาต่อรอง ปมชิงประธานสภา

 

ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้นขึ้นอยู่กับทีมเจรจา แต่คิดว่าคงมีการพูดคุยกันอยู่ได้เรื่อยๆ เชื่อว่าจะคุยกันอย่างรอบคอบ เอาประชาชนเป็นที่ตั้งและหาทางออกร่วมกันได้ เพราะยังมีงานที่ท้าทาย ที่ประชาชนไว้วางใจเราอยู่แล้ว เรื่องที่พูดคุยนี้อาจจะเป็นเพียงจุดหนึ่งเท่านั้น ต้องพยายามทำงานให้ประชาชนมีความหวัง ต้องจับมือกันให้แน่น ขอให้ทีมเจรจาได้มีโอกาสทำงานไปก่อน

เมื่อถามย้ำว่า ตำแหน่งประธานสภา ยังต้องเป็นของพรรคก้าวไกล หรือไม่ นายพิธา ระบุว่า ต้องให้ทีมเจรจาเป็นคนพูดคุย

"พิธา" เชื่อใจเพื่อไทย ไม่ถอนตัวพรรคร่วม โยนทีมเจรจาต่อรอง ปมชิงประธานสภา

"ย้ำว่ายังคงเชื่อใจพรรคเพื่อไทย เชื่อใจทุกท่าน เวลาทำงานร่วมกันต้องเริ่มต้นด้วยความเชื่อใจซึ่งกันและกัน และเชื่อว่ารอยร้าวระหว่างพรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทย สามารถสมานกันได้แน่นอน คิดว่าเป็นเรื่องปกติของการทำงานที่อาจจะมีความเห็นไม่ตรงกัน และมีการพูดคุยกัน แต่ถ้าสามารถเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และสามารถพูดคุยกันอย่างมีเหตุมีผล คิดว่าทุกอย่างมีทางออก" นายพิธา ระบุ 

ส่วนกรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่าง ความขัดแย้งระหว่างนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย พรรคก้าวไกลจะเป็นทีมเจรจาพูดคุยให้ด้วยหรือไม่ นายพิธา ระบุว่า คงจะต้องกลับไปใช้ทีมเจรจาในการพูดคุยโดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง

ส่วนที่จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมไปเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย ถอนตัวจากการรัฐบาลในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม นี้นั้น มองว่า ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการวิพากษ์วิจารณ์ เป็นส่วนหนึ่งของระบบประชาธิปไตย แต่เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกันแล้วและตอนนี้มีคนฝากความหวังไว้เยอะก็ขอให้เป็นหนึ่งในกระบวนการ ซึ่งกระบวนการสำคัญคือการพูดคุย ปรับจูนกัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อได้เหมือนที่ประชาชนไว้วางใจมีงานใหญ่รออยู่อีกเยอะ

เมื่อถามย้ำว่า มีทางออกเรื่องตำแหน่งประธานสภาไว้ในใจหรือไม่นั้น นายพิธา ระบุว่า คิดว่าทุกท่านมีทางออก คงไม่ใช่แค่ตนคนเดียว แต่ต้องให้เกียรติพรรคร่วมอีก 7 พรรคด้วย นี่เป็นการตั้งรัฐบาลครั้งที่ 30 ก็คงมีเรื่องอย่างนี้ทุกครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าจะพูดคุยแสดงเหตุผลกันอย่างไร จะทำอย่างไรให้ประชาชนไม่เสียกำลังใจ ไม่เสียความหวัง ไม่เสียสมาธิกับเรื่องใหญ่ของประเทศ

"พิธา" เชื่อใจเพื่อไทย ไม่ถอนตัวพรรคร่วม โยนทีมเจรจาต่อรอง ปมชิงประธานสภา

ส่วนเตรียมยื่นข้อเสนอให้กับพรรคร่วมเร็ว ๆ นี้หรือไม่ นายพิธา ระบุว่า มีโอกาสที่จะพูดคุยกัน แต่ทุกฝ่ายก็มีโอกาสที่จะเอาข้อเสนอมาวางบนโต๊ะเจรจาและใช้เหตุผลพูดคุยกัน ก็น่าจะหาทางออกได้ ส่วนจะต้องใช้วิธีการโหวตหรือหรือไม่ นั้น ตอนนี้คงไม่ต้องถึงจุดนั้น

ส่วนกรณี กกต. รับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้วการเดินหน้าของรัฐบาลใหม่ จะเป็นอย่างไรต่อนั้น นายพิธา ระบุว่า ก็เหมือนเดิม คณะกันเจรจาต้องทำงานให้หนักขึ้น ในส่วนของตนพยายามเดินหน้าทำให้การถ่ายโอนอำนาจไร้รอยต่อมากที่สุด สัปดาห์นี้เน้นไปที่ภาคเศรษฐกิจ โดยช่วงเช้าวันนี้ก็ไปสภาอุตสาหกรรมใหม่ เกี่ยวกับนวัตกรรม ช่วงบ่ายก็มาพบกับกลุ่มสุราไทยและคราฟท์เบียร์ ส่วนช่วงเย็นก็จะไปสภาแรงงาน เพื่อให้ทำงานไร้รอยต่อเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลต่อก็จะได้ทำงานได้ทันที

logoline