svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ชูวิทย์" เตือน "ก้าวไกล" ให้เลือกผลประโยชน์ระหว่างร้านค้ากัญชา กับประชาชน

25 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ชูวิทย์" เตือน "ก้าวไกล" ให้เลือกผลประโยชน์ระหว่างร้านค้ากัญชา กับประชาชน ชี้ มีคนทำ 'ก้าวไกล' และ 'เพื่อไทย' แตกกัน

25 พฤษภาคม 2566 เมื่อเวลา 15.00 น.นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง นัดสื่อมวลชนแถลงข่าวที่ศูนย์ต่อต้านกัญชาเสรี โรงแรมเดอะเดวิส ซอยสุขุมวิท 24 เกี่ยวกับกรณีการทำ MOU ตั้งรัฐบาล ประเด็นมาตรการนำ กัญชา กลับไปเป็นยาเสพติดของพรรคก้าวไกล และพรรคร่วมรัฐบาล 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

"ชูวิทย์" เตือน "ก้าวไกล" ให้เลือกผลประโยชน์ระหว่างร้านค้ากัญชา กับประชาชน  

นายชูวิทย์ กล่าวว่า เรื่องแรกการนำกัญชา กลับไปเป็นยาเสพติด สืบเนื่องมาจากช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงถึงความชัดเจน เกี่ยวกับนโยบาย ที่จะมีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และมีการพูดถึงการคุ้มครองประชาชน รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้น กับผู้ประกอบการ - ผู้ปลูก ที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล  

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนต่อต้านเรื่องกัญชามาตลอด จึงจำเป็นต้องนำเรื่องนี้มาพูด ทั้งนี้ยังได้นำภาพสถานศึกษา และวัดในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมด 8 แห่ง ที่พบว่า มีเด็กนักเรียนเข้าไปในร้านกัญชา ซึ่งเด็กคนดังกล่าว แต่งกายคล้ายกับชุดพละ ของโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง รวมถึงยังนำใบขออนุญาต ให้เพิกถอนร้านกัญชา ที่มีการรวบรวมรายชื่อ ผู้ปกครองนักเรียน ที่ร่วมลงชื่อกว่า 3,000 คน ใน 1 โรงเรียน มาโชว์ 
"ชูวิทย์" เตือน "ก้าวไกล" ให้เลือกผลประโยชน์ระหว่างร้านค้ากัญชา กับประชาชน  

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนพยายามส่งสัญญาณเตือนว่า พรรคก้าวไกลควรห่วงผลประโยชน์ของใคร ระหว่างสังคมกับร้านค้า และที่ออกมาแถลงข่าวในวันนี้ ก็เพื่อจะพิสูจน์ให้เห็นว่า ร้านกัญชาที่เปิดอยู่ตอนนี้ กำลังขาดทุนทั้งหมด เพราะปัจจุบันมีร้านกัญชาเปิดกันเยอะจนเกินไป พรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องเลือก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่สามารถประนีประนอมได้ 

นายชูวิทย์ยังเสนอแนะไปถึงพรรคก้าวไกลว่า ต้องให้กัญชาเป็นยาเสพติด และใช้ทางการแพทย์เท่านั้น และควรมีการสอบถามชุมชนรอบข้างด้วยว่า การมาเปิดร้านแบบนี้ ชุมชนโอเคหรือไม่ จึงไม่ควรจะมาพูดถึงการประนีประนอมใด ๆ เลย
"ชูวิทย์" เตือน "ก้าวไกล" ให้เลือกผลประโยชน์ระหว่างร้านค้ากัญชา กับประชาชน

- ชี้ มีคนทำ 'ก้าวไกล' และ 'เพื่อไทย' แตกกัน 

นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย มีการพูดถึงประเด็นตำแหน่งประธานสภาฯ ว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล ต้องเดินไปด้วยกัน เท่าที่สังเกตมาวันสองวันนี้เชื่อว่า มีคนต้องการให้ทั้ง 2 พรรคแตกแยกกัน เพราะเริ่มมีข่าวการทะเลาะเบาะแว้ง กันในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งพรรคก้าวไกลกับเพื่อไทย ต้องอยู่คู่กัน เหมือนทีมคนแก่กับหนุ่มสาว ถ้ามีใครทำให้แก้วแตกร้าว คนนั้นแหล่ะจะเป็นคนไปรวมกับขั้วใหม่ ทำให้เกิดรูปแบบของการจัด ตั้งรัฐบาลสูตรที่ 2 

ส่วนเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ตนอยากถามว่า ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล จะต้องมาทะเลาะเรื่องนี้หรือ และตำแหน่งนี้ก็เป็นตำแหน่งแรก ของการตั้งรัฐบาล ปกติไม่มีใครมาโหวต เพื่อเลือกประธานสภาฯ มีแต่การตกลงมาก่อนแล้วทั้งสิ้น แต่ตอนนี้ยังไม่ทันเริ่มต้นเลย ก็ทะเลาะแย่งตำแหน่งนี้กันแล้ว ส่วนเหตุผลที่ตำแหน่งประธานสภาฯ มีความสำคัญ เพราะประธานสภาฯ จะต้องเสนอวาระนายกรัฐมนตรี ในการพิจารณา
"ชูวิทย์" เตือน "ก้าวไกล" ให้เลือกผลประโยชน์ระหว่างร้านค้ากัญชา กับประชาชน

ซึ่งก็ต้องดูกันอีกว่า นายพิธาลิ้ม เจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะผ่านด่าน ส.ว. ไปได้หรือไม่  ซึ่งตอนนี้ ส.ว.หลายคน ก็ยืนยันที่จะโหวตให้กับ นายพิธา และตัวของ นายพิธา ก็มีประเด็นเรื่องการถือหุ้นสื่ออยู่ ซึ่งกรณีหุ้นสื่อ มีคนนำไปถามเป็นวาระสุดท้าย ในการประชุมผู้ถือหุ้น ของ บริษัทไอทีวี ว่า ยังมีการประกอบกิจการสื่ออยู่หรือไม่ ซึ่งประธานในที่ประชุมบอกว่า ยังมีการประกอบกิจการอยู่ ดังนั้นประเด็นเรื่องการถือหุ้นสื่อ ส.ว. อาจจะเห็นว่า คุณสมบัติของ นายพิธา ยังไม่ผ่าน ก็ทำให้ ส.ว.จะมีข้ออ้าง ในการสวนมติของประชาชนได้เช่นกัน
 นายพิธาลิ้ม เจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

มองว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ คิดว่าต้องให้ก้าวไกล เพราะเพื่อไทยได้กระทรวงเกรดเอ ไปแล้วหลายกระทรวง และก้าวไกลก็มี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว เกมที่มานั่งทะเลาะกัน แบบนี้มันจะเข้าข่ายการ ตั้งรัฐบาลสูตรที่ 2 หรือเปล่า อีกทั้งก่อนหน้านี้ ที่ทางเพื่อไทย พยายามออกมาบอกว่า จะให้ก้าวไกลได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ลับหลังกลับมาทะเลาะกันแบบนี้

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ถ้าให้ตนเลือก ก็อยากเลือกให้พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ได้จัดตั้งรัฐบาล เพราะอยากลองของใหม่บ้าง และถ้ามองสถานการณ์ตอนนี้ ก็มีโอกาสเหมือนกันที่ นายพิธา จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมีการวางแผนเรื่องหุ้นสื่อ ซึ่งพรรคเพื่อไทย น่าจะรู้อยู่แล้ว จึงห่วงเรื่องประธานสภาฯ  ส่วนตนห่วงว่า จะมีการจับขั้วรัฐบาลใหม่ และตอนนี้ก็อยากให้ประชาธิปไตย ที่กำลังหอมหวล ทำงานไปตามที่ควรจะเป็น
"ชูวิทย์" เตือน "ก้าวไกล" ให้เลือกผลประโยชน์ระหว่างร้านค้ากัญชา กับประชาชน

logoline