"บิ๊กตู่" ปิดจ็อบหาเสียง เข้าวัดชนะสงคราม ขอพร "กรมพระราชวังบวร"

13 พฤษภาคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์​โอชา​ ในฐานะประธาน​ยุทธศาสตร์​และแคนดิเดต​นายก​รัฐมนตรี พรรค​รวมไทยสร้างชาติ ได้เข้าที่ทำการพรรคเมื่อเวลา​ 08.40 น.​เพื่อวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์​ ให้กำลังใจผู้สมัครทั่วประเทศ​ โดยกล่าวว่า วันนี้ตนก็ยินดี อีกครั้งที่ได้พบกันแม้จะเป็นวันสุดท้ายก็ตาม เราไม่ได้พบกันโดยตรง ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา

ตนยังจดจำวันเวลาที่มีค่า มารวมกันด้วยเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์แรงกล้า ที่จะทำให้บ้านเมืองนั้นปลอดภัย ทำให้บ้านเมืองมีการพัฒนาอย่างรอบด้านในทุกมิติ ซึ่งเราได้ตั้งจิตเจตนาปรารถนาร่วมกัน ที่จะทำให้บ้านเมืองของเรานั้นสงบ​ วันนี้ขอให้พวกเราช่วยกัน นำพาประเทศไปสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้อย่างยั่งยืน

หลังจากนั้นพล.อ.ประยุทธ์​ ได้เดินทางมาร่วมขบวนรถแห่ที่บริเวณอนุสาวรีย์​ประชาธิปไตย​ ในเวลาประมาณ​ 12.35 น และได้เดินทางไปยังวัดชนะสงคราม เพื่อสักการะ พระบรมรูปสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท พระอนุชาธิราช​ ซึ่งมีความเชื่อกันว่า จะเอาชนะทุกสิ่ง ตามปรารถนา เนื่องจากกรมพระราชวังบวร ชนะศึกสงคราม 9 ทัพ โดยมาทำพิธีที่วัดชนะสงคราม​ ก่อนที่จะไปไหว้พระประธานในโบสถ์ พร้อมบอกว่าขอให้ทุกคนไม่ได้ขอให้ตัวเอง

จากนั้นคาราวานได้แห่ไปรอบเมืองชั้นใน​ โดยพล.อ.ประยุทธ์​ เป็นผู้ปราศรัยหลักตลอดทาง​ เนื้อหาส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ความสามัคคี​ ของคนในชาติ​ การบ่อนทำลายสถานบันครอบครัว​  พร้อมกับยังกล่าวในช่วงหนึ่งว่า ​คนทุกคนมีเกียรติ​เท่ากัน​ จะเป็นนายกฯหรือไม่เป็นนายกฯเท่ากันทั้งหมด​ ตำแหน่งเป็นหัวโขน​ ต้องใส่หัวโขนตัวดีๆ ไม่ใช่ใส่หัวโขนตัวร้าย ไม่ใช่ยักษ์ใช่มาร​

พร้อมทั้งระบุว่า ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า 8 ปีที่ผ่านมา เขาไม่เห็นผลงานของผมได้อย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน​ คงไม่เคยออกจากบ้าน​ ไม่รักผมไม่เป็นไร​ แต่ต้องรักชาติ​ รักครอบครัว​ รักวัฒนธรรม​ประเพณี​อันดีงามของไทย​ ไม่เช่นนั้นนี่ไม่ใช่ประเทศไทยแล้ว​ ไม่เหลืออะไรอีกเลยเหลือแต่ความขัดแย้ง​

หลังจากนั้นขบวนได้มาสิ้นสุด ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ในเวลา 16.50 น.​ ซึ่งถือได้ว่า เป็นไปตามประกาศที่ก่อนหน้านี้ประกาศว่าจะใช้เวลาในการหาเสียงจนวินาทีสุดท้าย โดยศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ถือเป็นสถานที่สำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งแต่การเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี การปราศรัยใหญ่ รวมไปถึงการจัดประชุมครั้งสำคัญของรัฐบาลอย่างการประชุมเอเปค

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า ระหว่างการอยู่บนรถแห่พลเอกประยุทธ์มีสีหน้าที่เคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา