
13 พฤษภาคม 2566 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์และเคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยกล่าวก่อนการขึ้นรถแห่ว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายในการหาเสียง และพรุ่งนี้เป็นวันสำคัญ ที่จะชี้ชะตาประเทศไทย มีแต่ขอวิงวอน พร้อมขอร้องให้คนไทยทุกคน ที่มีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง ออกมาใช้สิทธิ์ให้เต็มที่ ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะนี่คือ การเดินหน้าประเทศไทยไปด้วยกัน
"เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 2 ใบ ทั้งพรรคและเขต ขอให้ทุกคนได้ออก แสดงความคิดเห็นลงมติอย่างพร้อมเพรียงกันในวันพรุ่งนี้ ประเทศไทยต้องไปต่อ แต่จะไปอย่างไร เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทุกคนต้องคิดว่า บ้านเมืองมีอะไรหลายอย่าง ที่มันดีอยู่แล้วในขณะนี้เราทำต่อเติมตรงนี้นิดหน่อย มันก็จะไปได้ไกลกว่านี้้ ถ้าเราทำลายสิ่งที่มีอยู่เดิม แล้วเริ่มสร้างใหม่ คิดว่า มันไม่ใช่เวลา ทุกอย่างมันช้าไปหมด ที่ทำมามันจะพังทลายไปทั้งหมด" แคนดิเดตนายกฯ รทสช. กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายอย่างมันเกิดขึ้นไม่ได้เลย เราไม่จำเป็นต้องรื้อบ้านหลังใหญ่ รื้อประเทศไทยทั้งประเทศ เพื่อจะสร้างบ้านหลังใหม่ แบบพลิกแผ่นดินแบบนี้มันทำไม่ได้ นี่คือความคิดของผม แล้วแต่ประชาชนจะเลือกก็แล้วกัน ตนเคารพในเสียงประชาชนทุกคน ขอให้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งขอให้คนทุกช่วงวัย พร้อมระบุว่า เราทำเพื่อคนทุกช่วงวัยอยู่แล้ว ขออย่าแบ่งแยก วัยต่างๆแบ่งแยกไม่ได้ เพราะมันเชื่อมโยงกันทั้งหมด
ขณะเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงสภาพการพยากรณ์อากาศในวันพรุ่งนี้ว่า จะมีฝนตก ด้วยขอให้ทุกคนเตรียมร่มเตรียมเสื้อกันฝน แล้วบอกว่า ไม่เป็นอุปสรรคในการที่จะออกมาเลือกตั้ง ถ้าทุกคนแน่วแน่ จะออกไปเลือกตั้งให้ได้ มันก็ต้องทำได้ ซึ่งในส่วนของการจัดสถานที่เลือกตั้ง เขาก็เตรียมของเขาประชาชนก็เตรียมของเรา
"ฝนฟ้ามันมีตกแล้วมันก็หยุด แต่ถ้าหากว่า ทำให้บ้านเมืองเสียหาย มันจะไม่หยุด มันจะบานปลายไปเรื่อยๆ กลับมาที่เก่าอีก ไม่อยากให้มันกลับมาที่เดิม เพราะจะวุ่นวายทั้งประเทศ ไม่มีใครจะแก้ไขได้ นอกจากคนไทยทุกคน จะช่วยกันแก้ไขให้บ้านเมือง สงบร่มเย็น มีวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม มีความเป็นไทย ที่คนทั่วโลกชื่นชมยกย่อง พร้อมขอร้องให้ทุกคนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
โดยในช่วงท้ายพล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวขอบคุณทุกพลังทั้งเงียบและไม่เงียบ เพราะนี่คือ ประเทศของเรา และไม่กังวลคืนหมาหอน
จากนั้นพลเอกประยุทธ์ ขึ้นรถแห่หาเสียงพร้อมทักทายประชาชน จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มายังเส้นบางลำภู ผ่านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มายังแยกสามเสน โดยตลอดเส้นทางได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี พร้อมชู 2 นิ้วให้กำลังใจ โดยพล.อ. ประยุทธ์ โดยระบุว่า ขออภัยในความไม่สงบในการใช้เครื่องขยายเสียง และทำให้การจราจรติดขัด ขอให้ทุกคนออกไปใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งวันพรุ่งนี้
"บ้านเมืองต้องไปต่อ เคยทำมาแล้ว ต้องสงบเรียบร้อย ขอคะแนนเสียงทุกคน พรรคการเมืองเป็นพรรคการเมืองที่จะดูแลชาติบ้านเมืองต่อไป ทุกอย่างจะได้มีแบบมีแผนในการเดินหน้าประเทศ ไม่ใช่ว่า จะพลิกแผ่นดินในนาทีเดียว มันก็จะวุ่นวายไปทั้งหมด วันนี้เราผ่านวันเวลายากลำบากไปแล้ว อย่านำพาประเทศไปสู่ที่เก่าโดยเด็ดขาดฝากทุกคนด้วย ทุก Generation ยืนยันว่า ดูแลทุกคน ผมอยู่มาหลายปีรู้ปัญหา หลายอย่างดีขึ้น หลายอย่างยังไม่ดี พร้อมขอให้เลือกบัตร 2 ใบ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามระหว่างที่รถแห่อยู่บริเวณถนนบางลำภู ได้พบกับขบวนหาเสียงของ นางสาวกรกนิษฐ์ แห้วสันติ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้มีการโบกมือทักทายกันอย่างเป็นกันเอง
หลังจากนั้นพล.อ. ประยุทธ์ กล่าวต่ออีกว่า สิ่งแรกที่เราจะได้หากบ้านเมืองสงบเรียบร้อยจะเห็นรอยยิ้ม ไม่ใช่ความเกลียดชัง วันนี้เราดีมาเยอะพอสมควรจากที่เจอสถานการณ์โควิดมาด้วยกันสถานที่ต่างๆ ตอนนี้กำลังเดินหน้าอยู่หลายอย่าง แม้ว่า จะช้าไปหน่อย แต่ทุกอย่างจะต้องได้รับการแก้ไข ไม่ว่า จะเป็นวิธีการกลไก กฎระเบียบกฎหมายต่างๆทั้งหมด เราอยู่นาน เราพยายามแก้ไขมาหลายอย่าง เราต้องมีสังคมครอบครัวคนไทย ยืนยันว่า ไม่ใช่ครอบครัวพรรค แต่เป็นครอบครัวคนไทยทั้งประเทศ เพราะนี่คือ ประเทศไทยของพวกเราทุกคน สิ่งที่เราได้มาถึงทุกวันนี้คือ แผ่นดินไทยของเราถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมาช่วยกัน ยืนยันว่า จะทำให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาเราเจอปัญหาหลายอย่าง
จากนั้นพล.อ. ประยุทธ์ ได้เดินทางไปยังวัดชนะสงครามเพื่อสักการะ พระบรมรูป สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหหนาทพระอนุชาธิราช ซึ่งมีความเชื่อกันว่า จะเอาชนะทุกสิ่ง ตามปรารถนา เนื่องจากพระราชวังบวร ชนะศึกสงคราม 9 ทัพ และมาทำพิธีที่วัดชนะสงคราม ก่อนที่จะไปไหว้พระประธานในโบสถ์ พร้อมบอกว่า ขอพรให้ทุกคนไม่ได้ขอให้ตัวเอง
ต่อมาพล.อ. ประยุทธ์ ได้ขึ้นรถแห่จากวัดชนะสงครามมายังกรุงเทพฯชั้นใน โดยผ่านถนนสามเสน ไปยังอาคารรัฐสภา ผ่านไปสู่ตลาดบองมาเช่