svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

 "พรรคไทยสมาร์ท"พร้อมดันปชช.เป็นเจ้าของบริษัทพลังงาน 

13 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เกียรติภูมิ สิริพันธุ์" ขอใช้ประสบการณ์ทางธุรกิจ ดันคนไทยได้ถือหุ้นบริษัทพลังงาน เพื่อเป็นเจ้าของเอง และลดภาระประชาชน

13 พฤษภาคม 2566 "นายเกียรติภูมิ สิริพันธุ์" หัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท เปิดเผยกับ “ข่าวข้นคนข่าว” ถึงนโยบายพรรคเกี่ยวกับด้านพลังงานทางเลือก พลังงานชีวมวล พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งส่วนตัวมีประสบการณ์เพราะอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มากว่า 20 ปี ทั้งในพื้นที่ภาคอีสานและภาคใต้ ก่อนขายต่อให้กับบริษัทเอกชนรายอื่น

นายเกียรติภูมิ กล่าวว่า โดยพลังงานทางเลือกนั้นไม่ว่าจะเป็นโซลาร์เซลล์หรือพลังงานลม ไทยสามาร์ทได้ชูเรื่องนี้เป็นพรรคแรกๆ ซึ่งจะเอาเชื้อเพลิงที่ไม่มีมูลค่าแถมเป็นภาระ กลับมาทำให้มีมูลค่า เช่น ขยะ เอามาทำเป็นเชื้อเพลิง แทนการใช้น้ำมันดีเซล ทำให้มีต้นทุนอยู่ที่ 20-25 บาท แต่ถ้าใช้พลังงานลมหรือแสงอาทิตย์ จะทำให้เหลือศูนย์บาท ถือเป็นการประหยัดและไม่มลพิษกับการท่องเที่ยว

ขณะเดียวกัน ไม่ต้องนำเข้าเชื้อเพลิงที่ต้องจ่ายแพงแล้วก็มีมลพิษมาผลิต ซึ่งประเทศไทยมีความได้เปรียบเพราะอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้ได้แดดแรงกว่าประเทศที่เจริญแล้ว อย่าง ญี่ปุ่น ซึ่งการใช้พลังงานเหล่านี้จะเสียแค่ค่าลงทุนครั้งแรกครั้งเดียว แต่สามารถใช้ได้ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตร อุตสาหกรรม หรือแม้แต่ครัวเรือน เพื่อช่วยประชาชนในการประหยัดใช้จ่ายในเรื่องของค่าไฟ ค่าน้ำมัน

"นี่คือสมาร์ทเทคโนโลยีทั้งหมดที่เราทำมา พรรคอื่นๆ ใช้โซลาร์เซลล์ในการหาเสียง แต่พรรคเราทำ ผมอยู่ในวงการนี้ตั้งแต่ปี 2547 พูดได้เต็มปากว่าเราเป็นพรรคผู้นำทางด้านพลังงานทางเลือก ซึ่งโครงสร้างของไฟฟ้าตอนนี้มันบิดเบี้ยวเยอะ มีค่าจ่ายต่างๆโครงสร้างการคิดค่าไฟ ค่าเอฟที น้ำมัน และยังมีค่าการตลาดเยอะแยะไปหมด ซึ่งถ้าผมเข้าไป ผมจะรื้อให้หมด เอาต้นทุนจริงๆเพราะว่าผมรู้จักประเทศเพื่อนบ้านและประเทศที่พัฒนาแล้วเนี่ยค่าไฟถูกกว่าเราหมดเลย อย่าง ค่าไฟที่ลาว 2 บาทกว่า" นายเกียรติภูมิ กล่าว

อย่างไรก็ตาม พรรคไทยสมาร์ทจะไม่เอากลุ่มนายทุนมากำกับนโยบายพลังงานชาติเด็ดขาด แต่จะเอาภาคประชาชนเข้ามา เพื่อประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด และจะส่งเสริมให้ประชาชนถือหุ้นในบริษัทพลังงาน หรือหน่วยงานที่เป็นพลังงาน ให้เข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วย เพราะตนได้ดูตัวเลขจากบริษัทมหาชน บริษัทน้ำมัน ยิ่งโดยเฉพาะบริษัทใหญ่ มีรายได้เข้าในช่วงโควิด 4 ล้านล้านบาท กำไรถึง 2 แสนล้านบาท แต่ประชาชนไม่มีจะกิน ถ้าเอารายได้และกำไรเหล่านั้น กระจายไปให้ประชาชน ความเหลื่อมล้ำก็จะลดลง แต่ที่ผ่านมากระจายไปภาคเอกชนหมด

นอกจากนี้ หากได้เป็นรัฐบาล จะปรับลดงบประมาณแต่ละกระทรวง อาทิ สำนักนายกฯ กระทรวงกลาโหม กระทรวงพลังงาน กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งร่วมกันแล้วกว่า 6 แสนล้านบาท เพื่อสร้างสมดุล กระจายรายได้ กระจายความมั่นคง ให้ไปสู่ประชาชน ไม่ใช่กระจุกอยู่แค่คนกลุ่มเดียว และจะส่งเสริมให้คนคิดสร้างเกม มากกว่าเล่น เพื่อสร้างรายได้ รวมถึงการส่งออก จำเป็นต้องมีทูตเก่งๆ เพื่อใช้เจรจา เพราะหากสินค้าของประเทศรายการใดติดจีเอสพี ก็ไม่สามารถส่งออกได้ 

"สมมุติเราโตขึ้นปีละ 7% เหมือนสมัยก่อน เราจะถีบตัวขึ้นไปอยู่ในประเทศที่เป็นกลุ่มจี 7 ภายในไม่กี่ปี เพราะว่าตอนนี้ประเทศต่างๆ ถดถอย แต่ประเทศไทยมีทรัพยากรมาก ได้เปรียบประเทศอื่น เช่น ญี่ปุ่น อย่างการปลูกผลไม้ ที่เขาต้องนำเข้าจากไทยหรือประเทศในยุโรป ซึ่งมีอากาศหนาว ภัยธรรมชาติเยอะ แต่เราไม่มีเลย แม้กระทั่งแผ่นดินไหว เราได้เปรียบ เรามีฝั่งอันดามัน เรามีฝั่งอ่าวไทย เรามีประเทศล้อมรอบ เราเป็นผู้นำอาเซียนได้ เรามีศักยภาพในการที่จะถีบตัวขึ้นระดับจีเจ็ดได้ ผมมั่นใจ" หัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท ระบุ

 

logoline