ยามนี้"พรรคเพื่อไทย"และ"พรรคก้าวไกล"โหมเครื่องแบบใส่เกียร์ห้าหน้าเดินกันลูกเดียวแบบไม่มีใครยอมใคร เพราะตัวเลขแลนด์สไลด์ 310 เสียงที่พรรคสีแดง(พท.) วางไว้นั้น ตัวแปรที่จะตัดฝันของ "เพื่อไทย" คือพรรคสีส้มเวอร์ชั่นสอง(ก้าวไกล) ที่วางหมุด 160 ส.ส.ไว้ในมือกับการหย่อนบัตรเลือกตั้งสองใบในวันที่14พ.ค.นี้
นักวิเคราะห์สนามเลือกตั้ง กดเครื่องคิดเลขคำนวณแบบรัวๆ ตัวเลข 310 จะหักลบกับ160 กันในหลายเขตเลือกตั้ง เห็นง่ายๆ ตอนนี้ทัพใหญ่ของพท.ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อย้ำหัวหมุดไม่ให้ว่าที่ส.ส.นครพิงค์หลุดออกไปให้พรรคอื่นๆแม้แต่เก้าอี้เดียว เพราะหากเชียงใหม่มีธงสีส้มแซมขึ้นมาแม้แต่เขตเดียว เชื่อว่า " โทนี วู้ดซัม"ลมออกหูแน่ๆ
ล่าสุด"ทักษิณ ชินวัตร" โพสต์ล่าสุดในทวิตเตอร์เพื่อปั่นกระแสให้ผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่เปราะบาง ให้ชาวบ้านฮึดและไม่ปันใจว่าว่า "ผมจะกลับมาเลี้ยงหลานเดือนก.ค.ปีนี้ "
ตรงนี้ไม่รู้ว่าจะส่งผลบวกหรือลบกับเพื่อไทยในพื้นที่ 50 - 50 เพราะข้อมูลล่าสุด สอบทานจากคนวงใน พบว่า ตัวเลขโพลครั้งสุดท้ายที่แกนนำพรรคได้รับมา พบว่า 14 พ.ค.ปีนี้ พท.จะมีส.ส. 250 - 280 เก้าอี้ในช่วงโค้งสุดท้าย
แม้บางสำนักโพลและกูรูการเมืองประเมินว่าพท.จะมี 220 - 240 -260 ที่นั่งก็ตาม พื้นที่ต้องปะทะหนัก คือ "เขตหนึ่งและเขตสอง"ในจังหวัดที่"พรรคสีแดงและพรรคสีส้ม"สูสีและจะชนะกันบน "เส้นยาแดงผ่าแปด" โดยตอนนี้ ทราบว่า เพื่อไทยไม่ให้ราคาพรรคอื่นๆ นอกจากการปะทะกับ"พรรคสีส้ม" แบบหมัดต่อหมัดในช่วง "สามวันที่เหลืออยู่..."
ตอนนี้มองกันชัดแล้วว่า "พรรคสีแดง" ไม่อยากให้ "พรรคสีส้ม"ขึ้นมาเบียด และแม้ "พรรคสีส้ม" ได้อันดับสองในการลงคะแนนเลือกตั้งคราวนี้ ใช่ว่าเพื่อไทยจะพอใจ หากปล่อย "พรรคสีส้ม" ขยับแบบนี้ไปได้เรื่อยๆ วันข้างหน้า"พรรคสีส้ม"จะเบ่งรัศมีเบียดแชมป์เก่าที่มี"โทนี่ วูดซัม" นำทัพและสนับสนุนการเลือกตั้งจนเป็นแชมป์ห้าสมัยซ้อน (พรรคไทยรักไทยปี 2544 และ 2548 ,พรรคพลังประชาชนปี 2550 ,พรรคเพื่อไทยปี 2554 และ 2562 )
ต้องดูว่า"พรรคสีแดง"กับ"พรรคสีส้ม"จะจับมือตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้หรือไม่ ในเมื่อจุดยืนวันนี้ไม่อาจผสานกลมกลืนกันได้เลย ใช่ว่าจะเป็นผลบวกกับขั้วอนุรักษ์นิยม
จุดยืนของสองพรรค ยืนบนปากเหวด้วยกัน เช่น เพื่อไทยจะดำเนินการตามทวิตเตอร์ล่าสุดของคนแดนไกลเมื่อใด พรรคสีส้มจะเริ่มปฏิรูปสถาบัน และแก้หรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ตอนไหน?
เอาแค่สองประเด็นนี้ จากสองพรรคนี้ จินตนาการไม่ออกแล้วว่า วันนั้นจะมีปรากฏการณ์ใดบังเกิดและอาจเป็นชนวนวิกฤตของบ้านเมืองอีกรอบหรือไม่
รวมทั้งพฤติกรรมลับๆล่อๆ และลีลาการพูดกลับไปกลับมาของคีย์แมนสองพรรคนี้ในหลากวาระ จนสังคมนำไปวิเคราะห์และแชร์ในโลกออนไลน์กันหนัก
หากมองดีๆ ยามนี้ "พรรคสีส้ม" ไม่ได้แคร์อะไรมากนัก คล้ายว่าแกนนำพรรครู้แล้วว่า งวดนี้ตัวเลขส.ส.สองระบบ น่าจะแตะหลักหนึ่งร้อยเก้าอี้ขึ้นไป เพียงเท่านี้ "พรรคสีส้ม" น่าจะแฮปปี้ เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวจะบีบ "เพื่อไทย" ไปในตัวว่าจะเชิญมาร่วมรัฐบาลหรือไม่
หากไม่เชิญมาร่วมลงเรือลำเดียวกัน "พรรคสีส้ม" ก็มีพลังในการเป็นฝ่ายค้านที่พร้อมสอยจังหวะพลาดของรัฐบาลใหม่ที่มี"เพื่อไทย"เป็นแกนนำได้เสมอ
หรือ"พรรคสีส้ม"หากได้ขึ้นรัฐนาวาลำใหม่ที่มี"เพื่อไทย"เป็นแกนนำการทำงานบริหารบ้านเมืองในหน่วยงาน กระทรวงที่ "พรรคสีส้ม" ได้โควต้าไปรวมทั้งการเสนอร่างกฎหมายที่มีความสุ่มเสี่ยงกับเสถียรภาพรัฐบาลใหม่ ตรงนี้ต้องจับตา "เพื่อไทย" จะไฟเขียวให้"พรรคสีส้ม"ขยับหมากตามที่ต้องการได้เต็มร้อยหรือ
ฉะนั้นการดับฝัน"พรรคสีส้ม"ให้กวาดส.ส.ได้ต่ำกว่าการประเมินได้มากเท่าใด จะเป็นผลบวกกับ"เพื่อไทย"ในวันนี้และวันข้างหน้าแบบทวีคูณยิ่งให้โอกาส เวลา พื้นที่กับกองทัพสีส้มมากเท่าใด"เพื่อไทย"จะโดนกลืนความนิยมไปแบบไม่รู้ตัว
จุดตัดสีแดงกับสีส้มจึงเป็นแม่สีร้อนแรงและต้องปะทะเพื่อตัดตอนการเมืองอีกฝ่ายหนึ่งในยามนี้โดยพลัน
ปล่อยไว้"เพื่อไทย"จะมียักษ์สีส้มคอยหลอนหลอกไปเรื่อยๆ จนอาจทำให้สีแดงโดนสีส้มกลืนกินแบบไม่รู้ตัวในวันข้างหน้า