อัพเดตเลือกตั้ง 66 เปิดพิกัดพรรคการเมืองปักหมุด"ปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย"

วันเวลา"การเลือกตั้งทั่วไป"เขยิบใกล้เข้ามาทุกขณะ ซึ่งการเลือกตั้งล่วงหน้าเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม  ขณะที่การเลือกตั้งใหญ่ จะเริ่มในวันอาทิตย์ที่ 14  พฤษภาคมนี้ เปิดคูหาหย่อนบัตร ตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 17.00  น. 

แต่ก่อนถึง "วันเลือกตั้ง" พรรคการเมืองต่างๆ ต้องปล่อยหมัดเด็ดในช่วงโค้งสุดท้าย ด้วยการวางกำหนดการจัดปราศรัยใหญ่ทิ้งทวน โดยใน วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2566 เชียร์พรรคใดสนับสนุนผู้สมัครท่านใดไปติดตามกันได้ 

เพื่อไทย : อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี

"พรรคเพื่อไทย" ได้เผยแพร่กำหนดการปราศรัยใหญ่ออกมาหลายวันแล้ว  ด้วยหัวข้อ "คิดใหญ่ ปราศรัยใหญ่กว่า" วันที่ 12 พฤษภาคม ที่อาคาร อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี 

โดยเป็นสถานที่เดียวกับที่ "พรรคเพื่อไทย" เคยจัดปราศรัยใหญ่ในการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 นั่นคือ "นายชัยเกษม นิติสิริ" หลังจากส่งรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกระบบต่อกกต. 

"เพื่อไทย"พิจารณาถึงสถานที่ดังกล่าว สามารถรองรับผู้ฟังปราศรัยได้ถึงหมื่นคน และเป็นสถานที่กว้างขวาง มีพื้นที่รองรับการจอดรถได้หลายพันคัน อีกทั้งเป็นพื้นที่ พี่น้องประชาชนจากทั่วสารทิศ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายกว่า เดินทางเข้ามายังพื้นที่ชั้นใน กทม.

พรรคพลังประชารัฐ : อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬาไทย - ญี่ปุ่น ดินแดง

"พรรคพลังประชารัฐ" เปิดเผย"เนชั่นทีวีออนไลน์"ว่า พรรคได้จองพื้นที่การปราศรัยใหญ่ ที่สนามกีฬาไทย - ญี่ปุ่น ดินแดง อาคารกีฬาเวสน์ 2 ซึ่งเป็นอาคารติดแอร์ รองรับผู้คนได้จำนวนมาก

โดยวันปราศรัยใหญ่ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เตรียมนำทัพ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทั้งระบบเขต และบัญชีรายชื่อมาอย่างพร้อมเพรียง พร้อมเตรียมเปิดอาวุธลับโค้งสุดท้าย เป็นอะไรให้ไปติดตาม

พรรคก้าวไกล :  อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย - ญี่ปุ่น ดินแดง

"พรรคก้าวไกล" ได้เผยแพร่กำหนดการปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว แต่ที่น่าสนใจคือสถานที่ตั้งเวทีปราศรัยคือ "อาคารกีฬาเวสน์1" สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง  สร้างความแปลกใจว่า เหตุใดเป็นสถานที่เดียวกับที่ "พรรคพลังประชารัฐ" แม้จะเป็นการใช้สถานที่ปราศรัยคนละอาคารก็ตาม 

การจับจองสถานที่ที่มาตรงกันโดยบังเอิญภายในสนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดงแต่คนละอาคารนั้น ยิ่งทำให้การปราศรัยโค้งสุดท้ายวันดังกล่าว ชวนติดตามยิ่ง เพราะจะเป็นการสื่อสารให้เห็นถึงตัวแทน ของ"ฝ่ายเสรีนิยม" คือ “พรรคก้าวไกล” กับ ฝ่ายอนุรักษ์นิยม  คือ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่อยู่ในสถานที่เดียวกัน

แต่หากย้อนเหตุการณ์ปราศรัยในอดีต อาคารกีฬาเวสน์ 1 ก็เคยเป็นสถานที่จัดปราศรัยโค้งสุดท้ายของ"พรรคอนาคตใหม่" ซึ่งถูกยุบพรรคและกลายร่างมาเป็นพรรคก้าวไกล อาจกล่าวได้ว่า นี่คืออีกเหตุผลทำไมพรรคก้าวไกลเลือกที่จะปราศรัยโค้งสุดท้าย ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 

พรรครวมไทยสร้างชาติ :ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

"พรรครวมไทยสร้างชาติ" ซึ่งมี "พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา"เป็นแคนดิเดตนายกฯ เดิมมีการเล็งพื้นที่ "อนุสาวรีย์ พระเจ้าตากสินฯ วงเวียนใหญ่"  ด้วยเพราะสถานที่แห่งนี้ เป็นสัญลักษณ์ของการกู้ชาติ ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อันเป็นจุดยืนมั่นคงของ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" และ "พรรครวมไทยสร้างชาติ"

แต่อย่างไรก็ตามด้วยสภาพอากาศของประเทศขณะนี้ มีอุณหภูมิร้อนระอุ อีกทั้ง พายุฤดูร้อนกำลังเข้าปกคลุม เรียกได้ว่า ฝนฟ้าอาจไม่เป็นใจให้การปราศรัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  พรรครวมไทยสร้างชาติ จึงตัดสินใจย้ายไปจัดปราศรัยใหญ่ ภายใน "ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์" ซึ่งติดแอร์เย็นฉ่ำ  โดยศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เคยเป็นสถานที่ เปิดตัว "พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา"เข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค มาแล้ว  

ไม่เพียงเท่านั้น แว่วมาว่า ให้ติดตามการปราศรัยวันดังกล่าว จะมีวาทกรรมแหลมคมที่เป็นหมัดเด็ดเสยปลายคางพรรคการเมืองอื่น ชนิดคาดไม่ถึงก่อนวันเลือกตั้ง

พรรคภูมิใจไทย : Show DC พระราม 9 

"พรรคภูมิใจไทย"ภายใต้การนำของอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค  เดิมมีแผนว่าจะใช้อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมากสามารถรองรับแฟนคลับได้มากกว่า 5,000 คน แต่เมื่อใกล้ถึงโค้งสุดท้ายชนิดไม่กี่วัน ก็มาเปลี่ยนแผนหันไปจองพื้นที่ "Show DC พระราม 9" 

ที่น่าจับตา จอมแฉ "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" คู่กัดพรรคภูมิใจไทย ต่อต้านกัญชาเสรีแถมยื่นคำร้องต่อกกต.ให้ยุบพรรคภูมิใจไทย  จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมปราศรัยใหญ่ทิ้งทวนของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่

พรรคประชาธิปัตย์ : ลานคนเมือง กทม.

"พรรคประชาธิปัตย์"ตัดสินใจใช้"เวทีลานคนเมือง" ศาลาว่าการ กทม. ซึ่งทางพรรคเคยจัดปราศรัยใหญ่มาแล้วก่อนหน้านี้หลังวันรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. เสร็จสิ้น

โดยเป็นพื้นที่สัญลักษณ์ทางการเมืองที่ "พรรคประชาธิปัตย์" เติบโตมาได้ 77 ปี จนเป็นสถาบันการเมือง ก็เริ่มจากการก่อตั้งและลงสนามเลือกตั้ง กทม. และเป็นการปลุกขวัญเรียกความมั่นใจ "พรรคประชาธิปัตย์" กลับมาทวงคืนพื้นที่หลังความพ่ายแพ้เลือกตั้งสนาม กทม.ปี 2562 ที่ไม่ได้สักที่นั่ง