8 พฤษภาคม 2566 นายสาธิต ปิตุเตชะ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้สมัคร ส.ส.เขต จ.ระยอง และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงการปราศรัยพาดพิงของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จากเวทีระยอง หาดแหลมเจริญ วานนี้ (7 พ.ค.) ว่า ตนเป็นผู้สมัครส.ส.เขต และทีมมีทั้งหมด 5 เขต เมื่อวานนี้ทีมนายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ลงพื้นที่จ.ระยองและเวลาประมาณ 10.00 น มีการปราศรัยที่เข้าข่ายเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจงใจให้เข้าใจผิดในความนิยมของผู้สมัครและส.ส.จ.ระยอง
เป็นการปราศรัยพูดถึงการทำงานคล้ายๆตำหนิว่า ไม่ได้ทำหน้าที่ในช่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 3 สถานการณ์ คือสถานการณ์การเมืองแพร่ระบาดโควิด-19 ในบ่อนการพนันที่ จ.ระยอง สถานการณ์ที่ 2 คือ ทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 เดินห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และสถานการณ์ที่ 3 คือ การติดตามสถานการณ์น้ำมันรั่วในจ.ระยอง ขณะเดียวกันได้มีการเปิดคลิปปราศรัยของนายพิธา ประกอบการชี้แจง
นายสาธิต กล่าวต่อ ตนขอยืนยันว่า มีการทำหน้าที่ในทั้ง 3 สถานการณ์มาโดยตลอด จนสามารถคลี่คลายสถานการ์ได้ พร้อมโชว์ไทม์ไลน์ รวมไปถึงหลักฐานการทำงาน อย่างการทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี รวมถึงการร่วมมือกับภาคประชาชนเรียกร้องให้ปิดบ่อน จนนำไปสู่การโยกย้ายผู้การภาค การลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และการสร้างความเชื่อมั่นให้จ.ระยอง
ส่วนที่ นายพิธา บอกว่า เป็นผลของ ส.ส.ก้าวไกล นายสาธิต กล่าวว่า หากใครจะอวดอ้าง คนนั้นควรเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ ชื่อสาธิต เป็นคนที่นั่งเป็นส.ส. และฝ่ายบริหาร ที่มีการติดตามการทำงาน รวมไปถึงทำเรื่องเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว จนเหลือเพียง3 % ที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ แต่ตนขอชื่นชมบทบาทการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติในสภาฯของพรรคก้าวไกลที่ทำหน้าที่ได้ดี แต่หากจะเอามาเคลมเป็นผลงานคงไม่ได้ เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่ทำหน้าที่ร่วมกับประชาขน
ขณะเดียวกัน นายสาธิต ยังเปิดคลิปผู้สมัครส.ส.ระยอง เขต 2 ที่จับมือกันทำสัญญาว่าจะทำการเมืองสร้างสรรค์ แข่งขันกันด้วยนโยบาย ไม่มีการให้ร้ายป้ายสีกัน ซึ่งผู้สมัครส.ส.ก้าวไกลในพื้นที่ก็ยึดถือแนวทางนี้มาโดยตลอด แต่กลับถูกพังทลายจากการปราศรัยของหัวหน้าพรรค ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นกระแสที่มีการสนับสนุนมาก หรือเพราะสนุกปากเพียงอย่างเดียว แต่ต้องขอขอบคุณ นายพิธาและนายวิโรจน์ ที่ทำให้ประชาชนได้ฉุกคิด เห็นภาพการทำงานของตนอีกครั้ง
นายสาธิต ยังฝากข้อความไปยังนายพิธา ระบุว่า การเป็นคนเก่งไม่จำเป็นต้องด้อยค่าคนอื่น การได้รับความนิยมไม่จำเป็นต้องสาดโคลนคนอื่น ขอให้ร่วมกันทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ และขอให้เข้าใจในระบอบประชาธิปไตยอย่าถ่องแท้ และมีความเป็นลูกผู้ชาย
ขณะเดียวกันในช่วงประมาณเวลา 14.00-15:00 วันนี้(8 พ.ค.) นายสาธิต จะนำข้อมูลทั้งหมด ไปลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐาน ที่สภ.เมืองระยอง ส่วนถึงขั้นจะร้องกกต. ที่เข้าข่ายความผิดจงใจใส่ร้าย อาจนำไปสู่การยุบพรรค มาตรา 73(5) หรือไม่ นายสาธิต ขอฝ่ายกฎหมายรวบรวบข้อมูลประกอบก่อน จึงขอสงวนสิทธิ์ รอดูท่าทีของพรรคก้าวไกลก่อน
เมื่อถามว่า นายพิธา มีการปราศรัยว่า คนระยองเขาเลือกกันที่ตระกูล นายสาธิต ชี้แจงว่า หากนายพิธาอวดอ้างว่า เป็นประชาธิปไตย นายพิธากำลังเข้าใจผิด เพราะหากตั้งคนตระกูลเดียวกันเป็นตำแหน่งต่างๆ ในคณะทำงาน สามารถว่าตนได้ แต่ส่งคนนามสกุลเดียวกันลงเลือกตั้ง ตนตั้งเขาไม่ได้ แค่คัดสรรเขามาเป็นผู้สมัคร คนที่จะเลือกเขาคือประชาชน ตนเองกลับเสี่ยงด้วยซ้ำไปที่คัดเลือกแบบนี้ สุดท้ายคือการเลือกตั้งที่ประชาชนจะตัดสิน
นอกจากนี้มีหลายเรื่องที่ นายพิธาไม่เข้าใจหรือแกล้งไม่เข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตย สังคมกำลังตั้งคำถาม ถึงพฤติกรรมความไม่น่าเชื่อถือของหัวหน้าพรรคก้าวไกล คนที่ชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีการทำร้ายร่างกายเพศตรงข้าม กรณีกลับมาไม่ทันงานศพหรือไม่ และความไม่ชัดเจนว่าจะยกเลิกหรือแก้ไขม.112 และวันนี้จะเป็นอีกหนึ่งกรณีว่า สิ่งที่เขาพูดไม่ตรงกับความเป็นจริง