ซึ่ง กทม. นับเป็นอีกหนึ่งสนามให้ชวนจับตา เพราะคือตัวแปรสำคัญที่ชี้วัดว่า เพื่อไทยจะแลนด์สไลด์หรือไม่ หรือจะถูกก้าวไกลสกัดจนหน้าคะมำ
สนามเลือกตั้ง กทม.รอบนี้ ถูกแบ่งใหม่เป็น 33 เขต เพิ่ม ส.ส.จากการเลือกตั้งปี 62 มาถึง 3 เก้าอี้ เขตใหญ่เชิงสัญลักษณ์ที่จับตากันมาก คือ เขตเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วย เขตพระนคร เขตสัมพันธวงศ์ เขตบางรัก เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และ เขตดุสิต (ยกเว้นแขวงถนนนครไชยศรี) ซึ่งเป็นพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ และสถานการณ์ร้อนระอุ
เจ้าของเก้าอี้เดิม คือ "ส.ส.กานต์" กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ จากพลังประชารัฐ เมื่อปี 62 แต่ปัจจุบันได้ย้ายมาสวมเสื้อเพื่อไทย ลงป้องกันแชมป์ ซึ่ง "ส.ส.กานต์" เริ่มต้นการเมืองด้วยการเป็น ส.ก. มา 2 สมัย ก่อนกระโดดเข้าสู่เวทีระดับชาติในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วจากฐานเสียงของตนเอง และกระแส "เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่"
รอบนี้ "ส.ส.กานต์" เดินลงพื้นที่ไม่ขาดสาย หลัง กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ กระทั่งได้เสียงตอบรับจากชาวบ้านมาไม่น้อยเหมือนกัน ทว่าครั้งนี้ "ส.ส.กานต์" ต้องมาเจอคู่แข่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาวคนรุ่นใหม่ อย่าง "ดร.นิค" สุวดี พันธุ์พานิช จากพรรคคุณหญิงหน่อย หรือ ไทยสร้างไทย โดยมีดีกรีจบปริญญาเอกด้านสาธารณสุขศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นกรรมการบริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ขออาสามาลงสนามการเมืองระดับชาติแบบเต็มตัว โดยจะใช้ประสบการณ์สมัยถูกทาบทามเป็นคณะทำงานของ "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" อดีตรองนายกฯ ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพื่อมาผลักดันนโยบายด้านสาธารณสุข ทั้ง 30 บาทพลัส สุขภาพดีถ้วนหน้า สู่ Well-being Society ใช้เทคโนโลยี AI สร้างสังคมอุดมสุขภาพ ป้องกันก่อนป่วย ดูแลสุขภาพด้วยหมอประจำตัว 24 ชั่วโมง นโยบายเหล่านี้ "ดร.นิค" คาดหวังว่าจะเป็นหมัดเด็ดขอคะแนนจากคนเขต 1 กทม. เพื่อต่อกรกับแชมป์เก่า
ส่วนพรรคลุงป้อมในฐานะแชมป์เก่าปี 62 ส่ง "ดร.ลั่น" สฤษดิ์ ไพรทอง หนุ่มรุ่นใหม่ มาเบียดเก้าอี้จาก "ส.ส.กานต์" เพื่อรักษาพื้นที่ให้ยังอยู่กับพลังประชารัฐตามเดิม ส่วนอีกพรรคที่ห้ามประมาท คือ “ก้าวไกล” ที่ดันหนุ่มหน้ามลคนรุ่นใหม่ อย่าง "บูม" ปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ มาเป็นคู่ท้าชิงในนามค่ายสีส้ม สำหรับพรรคเก่าแก่อย่าง "ประชาธิปัตย์" ส่งแชมป์เก่า 3 สมัย "เจิมมาศ จึงเลิศศิริ" ที่มากประสบการณ์การเมือง แต่พ่ายไปในการเลือกตั้งรอบที่แล้ว กลับมาทวงบัลลังก์คืนให้กับค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม เขต 1 เมืองหลวง จึงกลายเป็นสนามชนช้าง ระหว่าง "รุ่นใหม่ กับ รุ่นใหญ่" ที่รอประสานงาชิงเก้าอี้ผู้แทนราษฎร ส่วนใครจะได้เป็นหงส์ หรือใครจะได้เป็นมังกร ก้าวขึ้นโพเดียมผู้ชนะ วัดกันหลังปิดหีบ 14 พ.ค.นี้