
โดยสนามกรุงเทพมหานคร ครั้งนี้มี 33 เขตเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งรอบที่แล้วถึง 3 เก้าอี้
ย้อนกลับไปการเลือกตั้ง 62 กทม.นับเป็นสนามที่สร้างหน้าประวัติศาสตร์ให้กับการเมืองไทยเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะพรรคเก่าแก่ เช่น "ประชาธิปัตย์" กลับไม่ได้ ส.ส. ในเมืองหลวงแม้แต่เก้าอี้เดียว ซึ่งถูกพรรคใหม่เวลานั้น อย่าง "พลังประชารัฐ" คว้าไปถึง 12 ที่นั่ง ส่วน "อนาคตใหม่" และ "เพื่อไทย" แบ่งกันไปพรรคละ 9 ที่นั่ง
การเลือกตั้ง 66 จึงกลายเป็นสนามเดือดที่คอการเมืองห้ามพลาด โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 26 เขตจอมทอง (ยกเว้นแขวงบางขุนเทียน) , เขตบางขุนเทียน (เฉพาะแขวงท่าข้าม) เพราะคือศึก 2 บ้านใหญ่จาก 2 พรรคใหญ่ย่านฝั่งธนบุรี อย่าง "วีรกุลสุนทร กับ ม่วงศิริ"
เดิมการเลือกตั้งปี 62 พื้นที่ดังกล่าวเป็นของ "ส.ส.หนุ่ม" วัน อยู่บำรุง จากเพื่อไทย แต่เมื่อมีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ทำให้ "ส.ส.หนุ่ม" ขยับไปอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 28 ประกอบด้วย เขตจอมทอง (เฉพาะแขวงบางขุนเทียน) เขตบางบอน (เฉพาะแขวงคลองบางพรานและแขวงบางบอนเหนือ) และเขตหนองแขม (เฉพาะแขวงหนองแขม)
สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 26 ที่ต้องบอกว่าน่าสนใจ เพราะ "เฮียล้าน" สุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง 5 สมัย ซึ่งเคยสังกัดประชาธิปัตย์ และก้าวไกล ก่อนย้ายมาร่วมงานกับเพื่อไทย ดันทายาท คือ "ลิ้ม" ศรัณยสัณฑ์ วีรกุลสุนทร ในฐานะคนรุ่นใหม่ มาลงสนามการเมืองระดับชาติ
จึงต้องแข่งกับ "สุวัฒน์ ม่วงศิริ" อีกหนึ่งบ้านใหญ่การเมืองในพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้เคยเปิดตัวกับพรรคลุงป้อม ก่อนเปลี่ยนใจมาสวมเสื้อประชาธิปัตย์ช่วงโค้งสุดท้าย เพื่อมาอยู่ร่วมกับสายเลือด "ม่วงศิริ"
ทั้ง 2 ตระกูลต่างก็เป็นครอบครัวที่เติบโตมาจากการเมืองระดับท้องถิ่น หากเทียบกันแบบหมัดต่อหมัด ก็ต้องบอกว่าคาดเดาผู้ชนะได้ยาก
จึงต้องวัดพลังภายในว่าใครแกร่ง และเหนือชั้นกว่ากัน ในการสู้ศึกเลือกตั้ง 66 ครั้งนี้
แต่ก็ห้ามประมาทกับอีกหนึ่งพรรค คือ ก้าวไกล ที่ส่ง "ปูอัด" ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ คนรุ่นใหม่ และเป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ ในนามกลุ่ม Re-Solution เข้ามาเบียดเก้าอี้
ศึกเลือกตั้งฝั่งธนฯ จึงกลายเป็นสนามชนช้างที่แต่ละเชือกต่างรองัด โดยมีน้องใหม่รอแทรก ส่วนใครจะชนะ รอดูคำตอบหลังปิดหีบ 14 พ.ค.นี้