25 เมษายน 2566 "น.ส.วทันยา บุนนาค" ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ตัวแทนพรรคการเมือง กล่าวในเวที #TheStandardDebate ดีเบตใหญ่เลือกตั้ง 2566 l END GAME เกมที่แพ้ไม่ได้ l THE STANDARD ว่า ที่อยู่ในมือคือไข่ต้ม เราเห็นความเหลื่อมล้ำของสังคมไทย ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน "ไข่ต้ม" สำหรับใครหลายคนหมายถึงชีวิต ที่ต้องกินเพื่อประทัง เพราะไม่มีทางเลือก
แต่สำหรับคนบางกลุ่มที่เขามีโอกาสเหลือเฟือ ไข่ต้มกับกลายไปเป็นเรื่องโรแมนติก เรื่องสวยงาม สิ่งเหล่านี้กำลังสะท้อนว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย วันนี้ได้ฝังรากลึกไม่ใช่เฉพาะในโครงสร้างสังคม แต่มันได้ฝังรากลึกไปจนถึงวิธีคิดของผู้นำและผู้บริหารประเทศ
“และนี่คือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เรามุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคมในระดับโครงสร้าง เพราะพรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่าสิ่งที่รัฐจะต้องทำ นั่นคือต้องทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า แม้เขาจะเริ่มต้นชีวิตที่ติดลบ แต่เขาจะต้องมีโอกาสในการสร้างชีวิตเหมือนกับคนอื่นที่มีชีวิตดีกว่าเขาได้” น.ส.วทันยา กล่าว
"น.ส.วทันยา" ยังได้ตอบคำถามในรอบดีเบตถึงนิยามของคำว่า "ชาติ" ว่า สำหรับตนนั้น คำว่า "ชาติ" คือ การหลอมรวมความหลากหลายของประชาชน เพราะนั่นหมายถึงว่า ไม่ว่าเราจะมีชาติพันธุ์แบบใด ไม่ว่าเราจะมีรูปพรรณ จะมีฐานะทางสังคมแบบใด หรือว่าจะมีวัฒนธรรม ศาสนาแบบใด และที่สำคัญไม่ว่าเราจะมีความคิดอุดมการณ์ทางการเมืองแบบใด
“ชาติ” คือ การรองรับความแตกต่างหลากหลายอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ดังนั้นรัฐที่มาจากประชาชน เป็นตัวแทนของประชาชนจะต้องทำหน้าที่ในการตอบสนองประชาชน ปกป้องคุ้มครองประชาชน และที่สำคัญจะต้องให้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน เราจะไม่สร้างความขัดแย้ง และที่สำคัญที่สุดจะต้องไม่ผูกขาดความรักชาติเป็นของคนใดคนหนึ่งเท่านั้น
"น่าเสียดาย ที่นักการเมืองบางคน กลับนิยามคำว่า ชาติ โดยที่ยังยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ใครที่คิดไม่เหมือนกันก็ผลักเขาไปเป็นศัตรู ป้ายสีว่าเขาชังชาติ และก็ไล่เขาให้ออกไปอยู่นอกประเทศ ทั้งที่เราต้องไม่ลืมว่าประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง" น.ส.วทันยากล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ "น.ส.วทันยา" ขึ้นดีเบตในประเด็นเรื่องของนิยามคำว่า "ชาติ"ที่ระบุว่าอย่าผูกขาดความรักชาติและไล่คนเห็นต่างออกนอกประเทศนั้น ผู้ชมในฮอลล์ได้ปรบมือและส่งเสียงเชียร์ดังสนั่น