16 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย "นายองอาจ คล้ามไพบูลย์" รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย "น.ส.วทันยา บุนนาค" ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง "นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์" ประธานคณะทำงานนโยบายกรุงเทพมหานคร และ "นายชนินทร์ รุ่งแสง" ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตบางกอกน้อย-บางพลัด เบอร์ 7
ร่วมลงพื้นพบปะประชาชนเพื่อหาเสียงประชาสัมพันธ์นโยบาย และรณรงค์ให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. ที่บริเวณตลาดศาลาน้ำเย็น เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ประชาชนในพื้นที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมเข้ามาสะท้อนปัญหา รวมถึงให้กำลังใจแก่คณะประชาธิปัตย์
โดยนายองอาจ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ บอกว่าประชาชนส่วนใหญ่สะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจที่ลากยาวมาตั้งแต่ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถึงปัจจุบัน ซึ่งทุกคนหวังอยากให้เศรษฐกิจดีขึ้น พรรคประชาธิปัตย์เล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องนี้ จึงมีนโยบายหลายเรื่องสอดรับที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจ และที่สำคัญจะไม่เป็นภาระงบประมาณประเทศ เพราะมีจำกัด ฉะนั้นต้องใช้ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ามากที่สุด
ทั้งนี้ ส่วนตัวเคยเป็น ส.ส. ในเขตพื้นที่ดังกล่าวมาเกือบ 30 ปี เว้นการเลือกตั้ง 2 ครั้งหลัง ที่ขยับไปเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแทน แต่ความผูกพันธ์ยังดี ไปมาหาสู่ประชาชนตลอดเปรียบเสมือนญาติสนิท ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ตัวแทนพรรค คือ นายชนินทร์ ถือว่ามีประสบการณ์มากมาย เคยเป็นทั้ง ส.ก. และ ส.ส. ทำพื้นที่มาโดยตลอด เชื่อว่าประชาชนจะให้การสนับสนุนอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่นิด้าโพลเปิดผลสำรวจว่าคนจะเลือกพรรคการเมืองในระบบเขต-ระบบบัญชีรายชื่อ โดยพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นอันดับที่ 4 นั้น ซึ่งส่วนตัวน้อมรับความคิดเห็นประชาชน แต่ยังมีเวลาอีกหลายวันที่จะสร้างความเข้าใจ และย้ำว่าทุกนโยบายที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ทำได้จริง ถ้าหากได้เป็นรัฐบาล และอยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เร่งประชาสัมพันธ์กรณีบัตรเลือกตั้งสองใบ เพราะกลัวประชาชนสบสน
ด้านนายสุชัชวีร์ กล่าวเสริมถึงปัญหาฝุ่นที่ปกคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่เขตบางกอกน้อย ซึ่งเช้าวันนี้ (16เม.ย.) ค่าฝุ่นทะลุ 100 ไมโครกรัม ถือเข้าขั้นอันตรายต่อสุขภาพก่อให้เกิดโรคต่างๆ มากมาย โดยการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะเป็นนโยบายเรือธง จะมีการประกาศเขตมลพิษต่ำชั้นใน 16 เขต ถ้าไม่เริ่มทำวันนี้ อนาคตจะเป็นภัยถึงลูกหลาน
ส่วนนโยบายที่ประชาชนให้การตอบรับดีเกินคาด คือ นโยบายอินเทอร์เน็ตฟรี เพราะไม่ว่าจะเป็นการค้าขาย การเข้าถึงข้อมูลของรัฐบาล การเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ จำเป็นต้องใช้อินเตอร์เน็ตทั้งสิ้น ซึ่งพรรคจะผลักดันให้เป็นสวัสดิการพื้นที่ฐานของประชาชน
ขณะที่ น.ส.วทันยา กล่าวยด้วยว่า โค้งสุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์มีหมัดเด็ดแน่นอน โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. ที่มักจะมีคำพูดอยู่เสมอว่า "ประชาชนจะตัดสินใจในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้าย" และหากดูจากผลคะแนนจากโพลสถาบันต่างๆ จะเห็นว่ายังมีตัวเลขของคนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกใครอยู่ไม่น้อย
ขณะเดียวกัน เชื่อว่าการทำงานทั้งหมดคงไม่ใช่แค่นโยบายเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งสำคัญ คือ ประชาชนจะดูการทำงานของผู้สมัคร ความตั้งใจจริงในการลงพื้นที่ ซึ่งต้องมีความสม่ำเสมอ และการหาเสียงช่วง 60 วัน เป็นเพียงการตอกย้ำสิ่งที่ผู้สมัครตั้งใจทำมาตลอด แต่สิ่งที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจอย่างยิ่ง คือของการทำงานตลอด 4 ปี
"ถึงแม้เราไม่มีผู้แทน ส.ส. ใน กทม. เลย แต่เราไม่เคยทิ้งพี่น้องประชาชนไปไหน วันนี้ที่ลงพื้นที่หลายคนก็เข้ามาขอบคุณที่คอยช่วยเหลือจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา นี่คือบทพิสูจน์ของเรา" น.ส.วทันยา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าโค้งสุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์สู้เต็มที่ หวังย้ำคะแนนมากกว่าขอคะแนน เพราะประชาชนดูผลงานที่ทำกันมาก่อนหน้านี้ ส่วนในวันที่ 23 เม.ย.นี้ พรรคจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ฝั่งธนฯ กทม. หลักๆจะเป็นการทำความเข้าใจกับประชาชนด้านอุดมการณ์ หลักการ รวมถึงสื่อสารนโยบายที่กินได้ของพรรคอีกครั้ง
อนึ่ง นายสุชัชวีร์ และน.ส.วทันยา ยังมีกำหนดการเดินทางไปช่วยผู้สมัครหาเสียงที่จ.สงขลา ต่อ โดยมีคิวขึ้นเวทีปราศรัยในช่วงเย็นวันนี้ด้วย