ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง ต่อกรณีที่พรรคเพื่อไทย ออกนโยบาย แจกเงินดิจิทัลหมื่นบาท "รายการคมชัดลึก" โดย "วราวิทย์ ฉิมมณี" ได้สัมภาษณ์ "เกียรติ สิทธิอมร" คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์
ปชป.สับแหลก เพื่อไทย แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น
"วราวิทย์" คุณเกียรติออกมาต้านเรื่องนี้เพราะกลัวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะแพ้การเลือกตั้งหรือป่าว เพื่อไทยเขาตั้งข้อสังเกตแบบนั้น ว่านโยบายถูกพูดถึงอย่างมากเพราะฝ่ายตรงข้ามกลัวแพ้
"คุณเกียรติ" เขาก็ตีความเกินเลยกว่าที่ผมพูดนะ ผมตั้งคำถามเท่านั้นเอง คำถามแรกที่ผมถามคือกกต.ว่ายังไง เพราะเนื้อหามันเปลี่ยนทุกวัน วันหนึ่งบอกสกุลดิจิทัล วันนี้แถลงเป็นวอลเล็ทแล้ว มันคืออะไรกันแน่แล้วจนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดนะครับ สองผมถามไปว่าทำไมจะต้องเป็น"เงินดิจิทัล" เพื่อให้ชัดเจนว่าประชาชนเวลาไปเลือกเขารู้ว่าเขาเลือกอะไร แล้วสิ่งที่เขาได้มันคือเงินกินเปล่าหรือเป็นหนี้ของเขาเป็นหนี้ของประเทศ
"ผมตั้งคำถามโดยพื้นฐานมากและเป็นหน้าที่เขาที่จะตอบ แต่เห็นใช่มั้ยว่าหลังจากที่ผมแถลงข่าวไปคำตอบไม่ตรงเป้าเลยนะ แม้กระทั่งที่แถลงโดยรองโฆษกของพรรคเพื่อไทยเอง ขัดแย้งกันเองบอกไม่ใช่เงินสกุลดิจิทัล แต่ในขณะเดียวกันคือสกุลดิจิทัลวอลเล็ท เอาเงินตรงไหนไปใส่ครับ สองบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับเอกชนแล้ว ใครจะทำดิจิทัลวอลเล็ทใครจะทำแอป หน่วยงานราชการไทยหรือ"
"วราวิทย์" ต้องมีบุคคลที่ 3 เข้ามาร่วมออกแบบ
"คุณเกียรติ" แน่นอนเลยครับ แล้วถ้าบุคคลที่ 3 ไม่ระมัดระวังอันนี้เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลเยอะมากเลยนะครับ
"วราวิทย์" ถ้าฟังจากเลขาธิการกกต.ร่วมถึงความเห็นจากอดีตกกต.บางท่าน เขาจะบอกว่าถ้าได้รับการเลือกตั้งไปแล้วคุณมีอำนาจไปออกระเบียบกฎหมาย แบบนี้ไม่ถือว่าสัญญาว่าจะให้ คุณเกียรติมองว่ายังไง
"คุณเกียรติ" แต่เขาก็บอกว่าต้องมีสามข้อ หนึ่งในนั้นคือที่มาที่ไปของเงินต้องชัดตอนนี้มันยังไม่ชัด สองที่ต้องชัดเหมือนกันคือจะส่งผลกระทบอย่างไรมั้ยกับประเทศตรงนี้ก็ยังไม่ชัด สองข้อหลักนี้ยังไม่ได้ตอบ คือ ผมติดตามด้วยความสนใจไม่ได้มีอคติอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่กังวลว่านโยบายอย่างนี้ใช้เงินเยอะมากเลย 5 แสนล้านนะ
อ้างกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ในขณะเดียวกันคนที่ควรจะได้รับความช่วยเหลือมันมีแค่ประมาณไม่เกิน 15 ล้าน ผมตั้งคำถามง่ายๆผมเอาเงินงบประมาณซึ่งเป็นของประชาชนทุกคนเอาไปใ้ห้คนรวยแล้วอ้างว่าไปกระตุ้นเศรษฐกิจมันโอเคมั้ย ประเทศอื่นๆไม่มีครับไม่สามารถจะทำได้เลย สองอะไรก็แล้วที่ที่จะทำต้องมีเครื่องมือกลไกต่างๆที่เกี่ยวข้องกับภาคเอกชนและมันกระทบข้อมูลส่วนบุคคล ต้องเป็นเรื่องใหญ่อีกเหมือนกัน มันต้องมีความชัดเจนไม่ใช่วันนี้พูดอย่างอีกวันพูดอีกอย่าง
"วราวิทย์" ถ้าจะสรุปล่าสุดที่คุยเพื่อไทยบอกว่า 1.มาจากการจัดเก็บรายได้ที่เพิ่มในปีงบประมาณ 2567 2.เขาคิดว่าจะเก็บภาษีทั้ง VAT ภาษีนิติบุคคลได้ 3.อาจเป็นการตัดงบการบริหารงบประมาณ ที่สำคัญเขาให้ประชาชนเลือก ถ้าคุณจะใช้ดิจิทัลวอลเล็ท 1 หมื่นบาทคุณต้องสละลิทธิ์ไม่รับเงินช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้งบประมาณตรงนี้ที่เคยจ่ายไปกับโครงการนี้เอามาเติมให้ ถ้าไล่มาแบบนี้คุณเกียรติมองความเป็นไปได้ของ 5 แสนล้านนี้มั้ยครับ
"คุณเกียรติ" ที่ผมไม่สบายใจมันเปลี่ยนไปเรื่อย วันที่ประกาศนโยบายไม่ได้พูดเงื่อนไขเหล่านี้เลย แล้วในอนาคตจะเปลี่ยนอีกมั้ย คือตรงนี้ผมคิดว่ามันไม่ใช่ การแข่งขันทางการเมืองแข่งไปเถอะ แต่ทุกคนต้องชัดเจนตั้งแต่แรกที่ประกาศนโยบาย แล้วพรุ่งนี้จะเชื่อได้มั้ยที่วันนี้พูดไป ประเทศไทยไม่ว่าใครหรือพรรคใดก็แล้วแต่ ไม่ควรทำแบบนี้แล้วมันโอเค มันไม่โอเคครับ
"วราวิทย์" คุณเกียรติกังวลประเด็นไหนที่เงินจากส่วนไหนที่มันจะเป็นไปไม่ได้จริง หรือเงินจากส่วนไหนที่คิดว่าจะไปเอามาโดยที่ไม่ได้บอกก่อน
"คุณเกียรติ" คำนวนง่ายๆเศรษฐกิจโต 5% ถามว่ารายได้เพิ่มเท่าไหร่ ภาษีเพิ่มเท่าไหร่ แล้วเงินเข้ารัฐเป็นเท่าไหร่ ไม่มีทางได้ 5 แสนล้านครับ แล้วถ้าต้องไปกู้ ต้องเป็นหนี้ของประชาชนอยู่ดี แม้กระทั่งเงินงบกลางวันนี้ งบกลางมี 6 แสนล้านแต่จริงๆ ใน 6 แสนล้าน 4-5 แสนล้านเป็นเงินที่ล็อกไว้หมดแล้ว อีกแสนล้านคือฉุกเฉิน ถ้าบอกเอาแสนล้านมาใช้ก็ไม่เหลืองบฉุกเฉินแล้ว ตรงนี้เขาต้องอธิบายให้ชัดเจน
ชมคลิป >>>
สับแหลก "เพื่อไทย" แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น