
7 เมษายน 2566 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol มีเนื้อหาดังนี้...
จะยุบ พท.-กก.แล้วหรือ?
การที่คุณทักษิณ พูดเกี่ยวกับการเมืองและพรรคเพื่อไทยอยู่ในต่างประเทศ ก็ดี การที่ คุณณัฐวุฒิ ไปช่วยปราศรัยหาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทยก็ดี ไม่อาจถือได้ว่า เป็นการแทรกแซงครอบงำ การดำเนินงานของพรรคเพื่อไทย นอกจากจะแกล้งกันเท่านั้น
จะต้องดูมติของคณะกรรมการบริหารพรรคว่าดำเนินการอย่างไร อยู่ภายใต้การครอบงำแทรกแซง หรือไม่
ให้สังเกตว่าขณะนี้ อยู่ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง แต่ละพรรคการเมือง มีผู้ช่วยปราศรัยหาเสียงเป็นจำนวนมาก เป็นสมาชิกพรรคบ้างไม่ เป็นบ้าง แม้กระทั่งสื่อมวลชนหรือ Social Media รวมทั้งคนที่เห็นได้ชัดว่าเป็นหัวโจกไอโอบ้าง
คนเหล่านี้พูดจาเกี่ยวกับการดำเนินงานของพรรคการเมือง ในระดับต่างๆกัน จะถือว่าเป็นการครอบงำแทรกแซงพรรคการเมืองไม่ได้ จะพูดจาอะไรเกี่ยวกับพรรคการเมือง ก็เป็นเรื่องของคนผู้นั้น เป็นคนละเรื่องกับการครอบงำแทรกแซงพรรค
ไม่น่าเชื่อว่ากรณีที่คุณทักษิณพูดอยู่ในต่างประเทศ และคุณณัฐวุฒิไปช่วยปราศรัยหาเสียง ได้มีการสอบสวนเสร็จแล้ว ลงมติกันแล้วให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคเพื่อไทย!!!!
และถ้าเป็นการไต่สวนลับหลังข้างเดียว ก็ยิ่งไม่น่าเชื่อ!! เพราะถ้ามุบมิบทำอะไรข้างเดียวก็ผิดหลักปฏิบัติ ที่ต้องสุจริตเที่ยงธรรม
ดังนั้นข่าวลือเรื่องนี้จึงต้องฟังโดยแยบคาย มิฉะนั้นก็จะเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
ถ้าคิดจะยุบพรรคเขาทั้งที ก็ต้องมีการตั้งเรื่องตรวจสอบไต่สวน แจ้งข้อกล่าวหาให้เขาได้มีโอกาสชี้แจงต่อสู้ ว่าความจริงเป็นอย่างไร ไม่ใช่เรื่องมุบมิบทำกันลับหลังข้างเดียวได้
ข่าวลือเรื่องยุบพรรคก้าวไกลก็เหมือนกันนั่นแหละ มุบมิบทำกันลับหลังข้างเดียวไม่ได้หรอก!!!
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าว ในวาระ “วันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 136 ปี กระทรวงกลาโหม”
“พวกเราต้องรักบ้านรักเมือง ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นบ่อเกิดความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ผมเคยพูดไปแล้วว่าหากบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย มีปัญหามากๆ จะทำให้โอกาสหลายๆ อย่างหายไปทันที ในมุมมองของต่างประเทศ”
ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ ได้กวักมือเรียก ผู้สื่อข่าว เพื่อให้มาสัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าว