"ชาติไทยพัฒนา" ขอ 25 เสียงขึ้นไป พร้อมร่วมรัฐบาลรวมเสียงมากสุด

"เลือกตั้ง2566" 4 เมษายน 2566 ที่อาคารไอราวัฒน์พัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพ 2 นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงเป้าหมาย ส.ส.ที่อยากได้ ว่า ขอไม่ต่ำกว่า 25  ส่วนเบอร์พรรคนั้น ตั้งแต่สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชานางสาวกัญจนา ศิลปอาชาก็ได้มาครบกันทุกเบอร์แล้ว วันนี้ได้เบอร์อะไรก็ได้ไม่เกี่ยง ขอเป็นเบอร์ที่ทำให้พี่น้องประชาชนจำได้ง่าย แล้วทำให้เราได้ไม่ต่ำกว่า 25 ที่นั่ง เป็นเบอร์อะไรดีทั้งนั้นจะเป็นเบอร์เลขตัวเดียว หรือ 2 ตัวแต่ก็ต้องคอยลุ้นกัน

ซึ่งหลังจากนี้พรรคชาติไทยพัฒนา ในส่วนของเขตก็จะเดินหน้าหาเสียงอย่างเต็มที่ เพราะตอนนี้ได้เบอร์ครบทุกเขตแล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่านโยบายที่มอบให้เพื่อความยั่งยืนนั้น สามารถตอบโจทย์พี่น้องประชาชนคนไทย

โดยยืนยันว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคชาติไทยพัฒนาคือตนที่พูดอยู่ในตอนนี้ซึ่งมั่นใจเพราะว่าได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารพรรคมาแล้ว ตอนนี้มีพรรคที่มีกระแสเข้ามามาก ส่วนตัวมองว่าการเมืองมีขึ้นมีลง พรรคชาติไทยพัฒนาอาจจะไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ ยังเก็บพลังเอาไว้อยู่ แต่ขอให้จับตาดูชาติไทยพัฒนาให้ดี การเลือกตั้งทุกครั้งชาติไทยพัฒนาจะเข้มแข็งขึ้น ครั้งหน้าพรรคจะโตกว่านี้



และฝากนายกแคดิเดตนายกรัฐมนตรีของทุกพรรค อย่ามองเพียงแค่เป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทย ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีของเมืองไทยที่ทั่วโลกกำลังเฝ้ามอง เพราะวันนี้ประเทศไทยไม่ได้เล็กเกินไปแล้ว การทำงานประเทศไทยไม่ได้อยู่คนเดียว นายกต้องสามารถเชื่อมโยงประเทศไทยสู่นานาประเทศ สามารถเอานานาประเทศเข้ามาสู่ประเทศไทยได้ ฉะนั้นวิสัยทัศน์ การจับต้องได้ของนายกคนต่อไปนั้น ก็อยู่ที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทุกคน ฉะนั้นใช้โอกาสนี้ให้เต็มที่

สำหรับกระแสการจับมือจับขั้วกันตั้งรัฐบาลนั้น เป็นที่น่าแปลกใจว่าดูมาหลายขั้วกลายเป็นมีพรรคชาติไทยพัฒนาอยู่ทุกขั้ว ต้องจับตาวันที่ 15 พฤษภาคมก็จะได้รู้แล้ว ว่าผลจะเป็นอย่างไร ถ้าคะแนนเราได้ยินเยอะเราจะเป็นฝ่ายเลือก ถ้าคะแนนเราได้น้อยเขาจะเลือกเรา ไทยพัฒนาเคยพูดว่าเราจะอยู่กับรัฐบาลเสียงข้างมาก ดังนั้นถ้าพรรคที่ได้อันดับ 1 จะตั้งรัฐบาลได้อันนั้นก็เป็นหน้าที่ แต่ถ้าหากจับต้องไม่ได้ก็จะเป็นพรรคอันดับ 2 ในการรวม แต่ท้ายที่สุดแล้วยืนยันว่ารัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก