svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"อนุทิน" สะดุ้งเสียงหลง นายกฯเสียงข้างน้อย "โอ้โห นั่นมันตายทั้งเป็นนะ"

27 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"อนุทิน" สะดุ้งเสียงหลง หลังสื่อจี้ถามนายกฯมาจากเสียงข้างน้อย "โอ้โห นั่นมันตายทั้งเป็นนะ" ใครจะกล้าทำ ชี้ ส.ว.-ส.ส. แค่พายเรือส่ง ระบุ มีกติกาสากลอยู่แล้ว ตอนนี้มองแค่ว่าพาส.ส.เข้าสภาฯให้มากสุด

27 มีนาคม 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงโอกาสการร่วมรัฐบาลหลังมีกระแสข่าวดีลลับ การจัดตั้งรัฐบาลระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตนยังไม่ได้รับทราบในเรื่องดังกล่าว แต่ได้อ่านข่าวอยู่เหมือนกัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยในเรื่องดังกล่าว ส่วนโอกาสมีความเป็นไปได้หรือไม่ ขอให้รอผลการเลือกตั้งดีที่สุด เพราะหลังการเลือกตั้งทิศทางจะออกมาเอง

เมื่อถามว่าเข้าไปร่วมรับประทานอาหารกับ พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อถึง 2 ครั้ง มีการพูดเรื่องดีลการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน ชี้แจงว่า ​ผู้สื่อข่าวคิดมากหรือเปล่า ทำงานร่วมกันมา 4 ปี กินข้าวร่วมกันมันแปลกตรงไหน และตนไม่ได้ข้ามไปกินข้าวกับอีกฟากเสียเมื่อไร ก็กินกันอยู่ในนี้ เป็นเรื่องปกติ หากจะพูดคุยเรื่องความลับจริงๆ หรือที่มีการวิเคราะห์กันตามสื่อว่า มีการหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล และถ้าจะมีการตกลงให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีจริงๆ คงไม่คุยกัน 8 คน การกินข้าวไม่ใช่ความลับอะไร เป็นการร่วมรับประทานอาหารกันธรรมดา

เมื่อถามว่า การหารือบนโต๊ะอาหารได้มีการพูดถึงประเด็นคดีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า  ไม่มีเลย เพราะนายศักดิ์สยาม มั่นใจในข้อกล่าวหาว่า สามารถจัดเตรียมเอกสารเพื่อแก้ข้อกล่าวหาได้ และไปเรียนว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่ข้อราชการ หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคณะรัฐมนตรี เพราะถ้าใครโดนสั่งให้ไปชี้แจงก็ต้องไปชี้แจง

เมื่อถามว่า กำหนดการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ทั่วประเทศเมื่อไร นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้รอ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร และจะมีการประชุมผู้บริหาร โดยในวันที่ 3-4 เมษายน ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จะไปลงสมัครที่กกต. พร้อมยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยลงตัวทุกเรื่องอยู่แล้ว

ส่วนกระแสข่าวหลังจากที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาโจมตีในประเด็นทางการเมือง พื้นที่ภาคอีสานมีผลกระทบหรือไม่ นายอนุทิน ชี้แจง หลังจากมีประเด็นดังกล่าวออกมาทางพรรคได้มีการทำโพลในพื้นที่ต่างๆ และล่าสุดก็มีโพลออกมาระบุว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ขณะเดียวกันในทางตรงกันข้ามคะแนนนิยม ในตัวของพรรคภูมิใจไทยก็มีมากขึ้นด้วย

เมื่อถามว่า อนาคตหลังการเลือกตั้ง หากพรรครวมไทยสร้างชาติได้คะแนนน้อยกว่าพรรคภูมิใจไทย จะมีการหลีกทางให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กติกาสากลมีอยู่แล้ว ขออย่าเพิ่งถามเลย เพราะถ้าบอกตอนนี้ว่าใครน้อยใครมาก คนได้น้อยอาจจะไม่พอใจ หรือเสียกำลังใจ ซึ่งกติกาสากลมีอยู่แล้ว คะแนนมากทำเช่นไร คะแนนน้อยทำเช่นไร เพราะเรื่องการเมืองคงไม่พ้นกติกาสากล

อย่าไปกังวล ขอให้รอผลการเลือกตั้งให้นิ่งและชัดเจนก่อน ซึ่งไม่ต้องรอถึงการรับรองผลของกกต.อย่างเป็นทางการ เย็นวันที่ 14 พฤษภาคม 22:00 - 23:00 น ก็เห็นเค้าลาง แล้วค่อยดำเนินการหลังจากนั้นต่อไป ตอนนี้หากพูดอะไรไปจะถือเป็นการไม่ให้เกียรติประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนกลัวมาก และตนก็จะไม่ให้สัมภาษณ์แล้วในเรื่องของทิศทางใดๆ จนกว่าผลการเลือกตั้งจะออกมา

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า การที่จะไปพบเจอกับคนนั้นคนนี้หรือร่วมรับประทานอาหาร อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องปล่อยทิศทางการเมืองออกมา ซึ่งมันไม่ใช่  นักการเมืองมีนโยบายเป็นของตัวเอง แต่ผู้บริหารไม่มีอะไรกับใครเลย หากจะให้เป็นความลับจริงๆ ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าไม่ได้เป็นความลับอะไร จึงมีการเผยแพร่รูปออกมา

เมื่อถามว่า เชื่อหรือไม่ว่า ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร จะมีกติกาแปลกๆออกมา นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีหรอกไม่มีใครรับกติกาแปลกๆ เพราะกติกาสากลเขาทราบกันอยู่ คุณได้คะแนนสูงสุดก็ได้สิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นแนวทางตามระบอบประชาธิปไตย หากจัดตั้งไม่สำเร็จก็ต้องเป็นพรรคในลำดับต่อไปเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล

แต่สุดท้ายก็จะมาตกอยู่ที่ว่า ใครจะได้คะแนนเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นอย่างนี้มาโดยตลอด ขออย่าไปกลัวรัฐบาลเสียงข้างน้อยเพราะเกิดยาก และยังมีเวลาอีกกว่า 60 วัน เนื่องจากจะต้องมีการรับรองผลการเลือกตั้ง เพราะสามารถมีโอกาส จัดตั้งรัฐบาลและเจรจาหารือเปลี่ยนแปลงกันได้หมด สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยวันนี้ไม่ได้คิดว่าจะจับมือกับใคร แต่จะคิดว่าทำอย่างไรให้เข้าในสภาฯได้มากที่สุดตามเป้าหมาย

เมื่อถามว่า สมมติพรรคภูมิใจไทยได้มาเป็นลำดับ 2 และพรรคลำดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ภูมิใจไทยมั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นายอนุทิน กล่าวว่า มันมีแนวทางและวิธีการอยู่แล้ว ซึ่งได้ดำเนินการตามกติกา ซึ่งการตั้งรัฐบาล สุดท้ายก็ต้องมาจบที่เสียงข้างมากอยู่ดี ทางที่ดีที่สุดคือเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ กับสูตรการจัดตั้งรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีมาจากเสียงข้างน้อย แต่ไม่ได้มาจากพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายอนุทิน ถึงกับอุทานว่า “โอ้โห นั่นมันตายทั้งเป็นนะ” คงไม่มีใครกล้า อย่าลืมว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่เราใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 ในการกำหนดให้ สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. มีส่วนร่วมในการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ท้ายที่สุดนายกรัฐมนตรีจะอยู่ได้หรือไม่ เพราะส.ส.และส.ว.เป็นเพียงผู้พายเรือมาส่ง ไม่สามารถอยู่ประคับประคองให้ได้

หากมีปัญหาแล้ว จะเปลี่ยนมานั่งเรือของส.ว.ไม่ได้ ส.ว.เป็นผู้พายเรือมาส่งให้นายกรัฐมนตรีไปยังเรือของส.ส. สุดท้ายหากมีพวกเป็นส.ส.ไม่มากพอ ก็ไม่สามารถอยู่ได้ แล้วใครจะอยากอยู่ในสภาพนั้น แต่ตนไม่เคยกังวลตรงนั้น หากรวบรวมเสียงสนับสนุนไม่ถึงกึ่งหนึ่งของส.ส ก็มองว่าจะตั้งรัฐบาลยาก ลำบากแน่นอน จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ตนไม่อยากคิดไปถึงตรงนั้น ขอคิดเพียงแค่ในส่วนที่ตนรับผิดชอบวันนี้ก่อน คือพยายามให้ส.ส.เข้าสภาฯให้ได้มากที่สุด

นายอนุทิน กล่าวต่อ หลังจากวันที่ 3 เมษายนเป็นต้นไปถึงวันที่ 14 พฤษภาคม ตนจะลงพื้นที่ต่างจังหวัดตลอด  ซึ่งจะต้องหาวิธีว่าจะสามารถลาราชการ ยาวหลายวันได้หรือไม่ หรือมีกฎระเบียบอะไรอย่างไร และ หากงานที่กระทรวงมีการประสานมา ก็ต้องหาวิธีการสื่อสารทั้งจากการใช้มือถือ และออนไลน์ต่างๆ

นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียง 1 คนและตนจะนั่งในตำแหน่งสสปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 เท่านั้น

logoline