จริงๆ เรื่องนี้มีเบื้องหลัง แหล่งข่าวในพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า มาจากความไม่ลงตัวของการ "จัดอันดับปาร์ตี้ลิสต์" ภายในพรรค
เดิมที่ชื่อของ "อาจารย์แหม่ม" ติด 1 ใน 10 เรียกว่า "เลขตัวเดียว" โดยข่าวแว่วว่าไม่อันดับ 5 ก็อันดับ 7 ซึ่งถือว่าปลอดภัย เพราะถ้าอยู่อันดับ 5 หรือ 7 พรรคพลังประชารัฐ ได้ 2 ล้านคะแนน ก็ยังมีสิทธิได้เป็น ส.ส.
แต่ล่าสุด แหล่งข่าวเผยว่า ชื่อของ "อาจารย์แหม่ม" ถูกเบียดจาก "บ้านใหญ่บางบ้าน" แต่ไม่ใช่กระเด็นไปแค่ 2-3 อันดับ ล่าสุดมีข่าวชื่อไปอยู่อันดับ 17 ไม่ใช่แค่เลข 2 หลัก คือ 11 หรือ 12 แต่ไปไกลถึง 17 เลย
โดยคะแนนปาร์ตี้ลิสต์อันดับที่ 17 จะปลอดภัยต่อเมื่อ พรรคได้ 6 ล้านคะแนน ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นการอยู่อันดับ 17 ขอไม่อยู่ดีกว่า เพราะถึงอย่างไร ก็ไม่ได้เป็น ส.ส.
หากย้อนกลับไปปี 62 บัญชีปาร์ตี้ลิสต์พลังประชารัฐ "อาจารย์แหม่ม" อยู่อันดับ 5 แล้วปี 66 จะไปอยู่อันดับ 17 ได้อย่างไร แบบนี้รับไม่ได้ เพราะสถานะปัจจุบัน เป็น "อดีตรัฐมนตรีช่วย" แล้วด้วย ถือว่าไม่ธรรมดา
อันดับปาร์ตี้ลิสต์ปี 62 ของ "อาจารย์แหม่ม" ดีกว่า "วิรัช รัตนเศรษฐ" ซึ่งได้อันดับ 7 และดีกว่า "สันติ พร้อมพัฒน์" ซึ่งอยู่อันดับ 8 แถมดีกว่า "ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์" ซึ่งอยู่อันดับ 10 ด้วย
แต่ข่าวล่าสุดบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ปี 66 "วิรัช" ไม่ได้ลง ส.ส. เพราะถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ส่งลูกชาย "อธิรัฐ รัตนเศรษฐ" มาอยู่อันดับ 5 แถมคำสำทับ "ถ้าไม่ได้ มียกทีมออก"
ส่วน "สันติ" ในฐานะเลขาธิการพรรค อาจพุ่งขึ้นไปอันดับ 2 เลยทีเดียว
ดังนั้น เมื่อทุกอย่างพลิกผัน "อาจารย์แหม่ม" จึงต้องตัดสินใจ โบกมือลาบ๊ายบาย ดีกว่าอยู่ในบัญชี แต่ไม่ได้เป็น ส.ส.