svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"นัจมุดดิน อูมา"ความท้าทายภายใต้เสื้อ"ภูมิใจไทย"ชิงเก้าอี้้ปลายด้ามขวาน

26 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผ่าสมรภูมิเลือกตั้ง66 ชวนสัมผัสนักการเมืองนราธิวาส "นัจมุดดีน อูมา" ในวันที่ตัดสินใจเดินออกจาก"พรรคประชาชาติ"มาสังกัด"ภูมิใจไทย" ท่ามกลางความท้าทายพาลูกพรรคชิงเก้าอี้ส.ส. ปลายด้ามขวาน (มีคลิป)

"ในทางการเมือง พรรคภูมิใจไทยยังต้องสู้ในทุกเขตเลือกตั้ง เพราะถ้าไม่สู้ทุกเขตจะส่งผู้สมัคร ส.ส. ไปทำไม ในช่วงที่เราทำงานไปเกือบ 1 ปี เชื่อว่า น่าจะได้ 2 บวกหรือ 2-3 ที่นั่ง"

"นัจมุดดิน อูมา"  อดีตส.ส.นราธิวาส 4 สมัย พรรคภูมิใจไทย วิเคราะห์สนามเลือกตั้งนราธิวาส 

สนามเลือกตั้งจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด
โดยเฉพาะ"จังหวัดนราธิวาส" จากการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ มีส.ส. 5 คน  ความน่าสนใจเห็นจะเป็น"พรรคภูมิใจไทย" ที่ได้อดีตนักการเมืองดังจาก"พรรคประชาชาติ" มาเป็นขุนพลนำทัพ "นัจมุดดิน อูมา" การย้ายมาสังกัด"ภูมิใจไทย" ถือเป็นความท้าทายในการพาส.ส.เข้าสภาให้ได้และจะสามารถแย่งชิงพื้นที่จากพรรคเดิมได้หรือไม่  
 

"ผมเริ่มการเมืองครั้งแรกจากพรรคความหวังใหม่ พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคประชาชาติ ในการเลือกตั้งปี 62 ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ลง ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติ คอยสนับสนุน"กูเฮง ยาวอหะซัน" บ้านใหญ่นราธิวาส ชนะผู้สมัครจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย ตอนนั้นได้ 4 หมื่นกว่าคะแนน รปช.ได้ไม่เกิน 2 หมื่นคะแนน "นัจมุดดีน อูมา"  อดีต ส.ส.นราธิวาส 4 สมัยเปิดใจผ่านทีมงาน "ผ่าสมรภูมิเลือกตั้ง 66" 

\"นัจมุดดิน อูมา\"ความท้าทายภายใต้เสื้อ\"ภูมิใจไทย\"ชิงเก้าอี้้ปลายด้ามขวาน

"วันนี้มาอยู่พรรคภูมิใจไทย  ได้ยื่นหนังสือลาออกกับท่านวันมูหะหมัดนอร์  มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ด้วยความเคารพ อย่างตรงไป ตรงมา ท่านเข้าใจ จุดประสงค์หลัก เพราะผมอายุ 62 แล้ว ถ้าจะเดินเส้นทางการเมืองต่อไป ผมจะต้องอยู่พรรคใหญ่ที่มีโอกาสจะเป็นรัฐบาล"  นัจมุดดิน เล่าถึงเหตุผลการย้ายพรรค 

"ผมไม่ได้มีปัญหากับพรรคประชาชาติ ผมเชื่อมั่นว่า พรรคภูมิใจไทยต้องเป็นรัฐบาล วันนี้ผมได้มาสังกัดพรรคภูมิใจไทยเป็นระยะเวลาปีเศษ ผมได้ผลักดันบางสิ่งบางอย่างจนเป็นรูปธรรมไปบ้างแล้ว ผมคิดว่า ถ้ามีโอกาสไปมากกว่านี้ทางผู้บริหารพรรคน่าจะคงให้โอกาสผมไปมากกว่านี้อีก" นัจมุดดีน กล่าว

 

"นัจมุดดีน" กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมาเกือบจะ 19 ปีแล้ว ที่ ส.ส.จังหวัดชายแดนใต้ไม่เคยอยู่ซีกรัฐบาล ทำให้ขาดการพัฒนา  ในสมัยนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา เป็น รมว.คมนาคม รมว.มหาดไทย ประธานรัฐสภา พื้นที่ได้รับการพัฒนาค่อนข้างมาก แต่ในวันนี้การพัฒนาล้าหลังมาก เพราะว่า เราไม่มีตัวแทนอยู่ในฝั่งที่เป็นรัฐบาล

วันนี้เรามี ส.ส. ปัตตานีสังกัดพรรคภูมิใจไทย"แพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา" เพียงคนเดียว จะเห็นได้ว่า จ.ปัตตานีมีพัฒนาการที่ดีกว่าที่อื่นๆ เพราะ ส.ส. ตรงนั้นพูดเป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชนในทุกๆสัปดาห์ ทำให้กระทรวงที่สังกัดมีอะไรหลายๆอย่างลงตรงนั้น จึงเป็นเหตุผล ส.ส. ต้องอยู่ฝั่งที่เป็นรัฐบาลเป็นพรรคภูมิใจไทย  

ประเมินสนามเลือกตั้งจว.ชายแดนใต้ 

"นัจมุดดีน" ในฐานะแม่ทัพ 3 จชต.ใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ) ระบุว่า ในการแบ่งเขตเลือกตั้ง 2566 นราธิวาสจากเดิม 4 เขตเลือกตั้งเพิ่มเป็น 5 เขต  ในทางการเมือง พรรคภูมิใจไทยยังต้องสู้ในทุกเขตเลือกตั้ง เพราะถ้าไม่สู้ทุกเขตจะส่งผู้สมัคร ส.ส. ไปทำไม ในช่วงที่เราทำงานไปเกือบ 1 ปี เชื่อว่า น่าจะได้ 2 บวกหรือ 2-3 ที่นั่ง ส่วนประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่ คงต้องรอดูวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 

\"นัจมุดดิน อูมา\"ความท้าทายภายใต้เสื้อ\"ภูมิใจไทย\"ชิงเก้าอี้้ปลายด้ามขวาน

พื้นที่นราธิวาสเดิมมี 4 เขต ปัจจุบันเลือกตั้งเพิ่มเป็น 5 เขตเลือกตั้ง และพื้นที่ 3 จชต.เดิมมี 11 ที่นั่ง เลือกตั้งครั้งนี้มี ส.ส. เพิ่ม 2 ที่นั่งเป็น 13 ที่นั่ง  ทั้งนี้ ในพื้นที่นราธฺวาส ภูมิใจไทยส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 นายลุตฟี หะยีอิแต  เขตเลือกตั้งที่ 2 นายราชวัตร เด่นตุลาการ เขตเลือกตั้งที่ 3 นท.สุกรี ศรีริกานนท์ เขตเลือกตั้งที่ 4 ดร.ซาการิยา สะอิ เขตเลือกตั้งที่ 5 นายสุกรี มะเต๊ะ  โดยนัดมุดดินประเมินว่าจากการทำงานในพื้นที่ เชื่อว่า 2 บวก 1 ไม่น่าพลาด

 

"นัจมุดดิน" กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ปัตตานีมี 4 เขต เรามี ส.ส.ปัจจุบัน 1 คน นายอับดุลบาซิม อาบู  เขต 2  และในรอบนี้เขตเลือกตั้งที่ 1 พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา  เขตเลือกตั้งที่ 2 นายอับดุลบาซิม อาบู เขตเลือกตั้งที่ 3 นายอับดุลกอฮา อาแวปูเต๊ะ เขตเลือกตั้งที่ 4 นายฟรีดี เบญอิมรอม (แบแดร์) จึงเชื่อว่า น่าจะมี 2 ที่นั่ง

สำหรับนัจมุดดิจ จะลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อพรรค ซึ่งเขาประเมินขั้นต่ำพื้นที่ 3 จชต.ใต้จะได้ ส.ส. 4 - 5 ที่นั่ง

\"นัจมุดดิน อูมา\"ความท้าทายภายใต้เสื้อ\"ภูมิใจไทย\"ชิงเก้าอี้้ปลายด้ามขวาน

วิเคราะห์ภท.กับพื้นที่ภาคใต้


นัจมุดดิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยวางโครงการการบริหารพื้นที่ชัดเจนมาก โดย14 จังหวัดภาคใต้ มี"นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ" รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหัวหน้าทีม ซีกอันดามัน "นางนาที รัชกิจประการ" คอยดูแล 3 จังหวัด และ"นายสิรภพ ดวงสอดศรี" ผู้อำนวยการพรรคภูมิใจไทย รับผิดชอบดูแล ถือเป็น 3 ประสาน ดังนั้นการจะจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ 3 คนจะเป็นผู้ดำเนินการว่า ใครทำงานดีเพียงใดแค่ไหน

"นัจมุดดีน" กล่าวต่อว่า ในการเลือกตั้งภาคใต้ปี 62 พรรคภูมิใจไทยได้ 8 คน ส.ส. ในการเลือกตั้ง 66 พรรคตั้งเป้าเก้าอี้ หวังส.ส. 20 คน ตั้งเป้าฝั่งอันดามันเป็นหลัก เราแบ่ง 3 โชน ใต้อ่าวไทย ใต้อันดามัน ใต้ตอนล่าง ซึ่งใต้อันดามัน สตูลเรามี ส.ส. 2 คน กระบี่ 1 คน ระนอง 1 คน เป้าต่อไปตรัง ภูเก็ต ต้องได้ที่นั่งมาเพิ่ม พัทลุงมี 2 ที่นั่ง รอบนี้จะได้ 3 ที่นั่ง เชื่อมั่นตรงนี้สูงมาก ส่วน จชต. ใต้ 12 ที่นั่ง ที่พรรคประชาชาติ พรรครวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ ต้องมาแบ่งกัน บอกได้ว่า สู้กันสนุกมาก คิดว่า เป้าหมาย 20 ที่นั่งไม่น่าพลาด บวกลบ 2 ที่นั่งย่อมถือว่า ใช้ได้

เทียบ "เสาไฟฟ้า"ภาคใต้หมดมนต์ขลัง

ส่วนอดีตที่บอกว่า เอาเสาไฟฟ้าลง ก็ชนะไม่น่าจะใช้ได้แล้วหมดมนต์ขลังแล้ว(ไม่ต้องลงก็ได้) อย่างเช่น ตรังเขต 1 ถ้าท่านชวน ส่งใครลงไม่มีปัญหาไม่พลาด แต่ที่ผ่านมาประชาธิปัตย์แพ้พลังประชารัฐ

หากบอกเมืองหลวงประชาธิปัตย์คือสงขลา ส่วนเมืองหลวงเพื่อไทยคือเชียงใหม่ เมืองหลวงชาติไทยพัฒนาคือสุพรรณบุรี เมืองหลวงของภูมิใจไทยคือ บุรีรัมย์ พื้นที่เมืองหลวงสงขลาปี 62 มี ส.ส. 8 คนประชาธิปัตย์ได้มา 3 คน พลังประชารัฐได้ 4 คน ภูมิใจไทยได้ 1 คน ขณะที่นครศรีธรรมราชมี ส.ส. 8 คนประชาธิปัตย์ได้ 5 คน พลังประชารัฐได้ 3 คน ส่วนสุราษฎร์ธานี ประชาธิปัตย์ได้หมด 5 คน

ดังนั้นคิดว่า ถ้าคำพูดเอาเสาไฟฟ้าลงยังขลังอยู่คงไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ดังนั้นเหตุการณ์เริ่มคลายไปแล้ว เพราะคนภาคใต้จะดู ส.ส. ที่มีผลงานเป็นหลักจะพูดในสภาเป็นหลักไม่มีผลงานที่ประจักษ์ไม่ได้ 

"นัจมุดดีน" กล่าวอีกว่า สมัยก่อนถ้าลงประชาธิปัตย์ตัวอยู่ กทม. ไม่ลงพื้นที่หาชาวบ้านก็ได้ ที่ผ่านมากระแสเปลี่ยนผ่านคนใต้ชื่นชอบนายกฯคนใต้ เพราะภาคใต้ไม่เคยมีนายกฯ แล้วคนใต้ทั้งภาคเขาไม่ค่อยชอบเพื่อไทย เพราะถูกปลูกฝังมายาวนาน อย่างนัจมุดดินสู้กับประชาธิปัตย์มายาวนาน ทำให้คนในตลาดไม่ชอบตน เพราะถูกฝังชิปว่า ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบ ซึ่งเราไม่เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่ถูกฝังว่า เป็นอย่างนั้น

เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทยที่เคยโดน หรือหากไปดูนายอภิสิทธิ์ ประกาศไม่เอาลุงตู่ปี 62 ทำให้คนใต้มองว่า ประชาธิปัตย์ไปสู้กับเพื่อไทยไม่ได้หรอก เขาก็เลยมาเทคะแนนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะว่า คนนี้สู้กับเพื่อไทยได้ ตรงนี้คือจุดเปลี่ยน แล้วถามว่าการเลือกตั้ง 66  "ภูมิใจไทย"จะอยู่ตรงไหน ก็อยู่ที่ผลงาน 

บรรยากาศ พรรคภูมิใจไทยปราศรัยหาเสียงจังหวัดนราธิวาส

"พูดแล้วทำ" เหตุผลที่ภท.จะคว้าเก้าอี้ ปลายด้ามขวาน

"นัจมุดดิน"  บอกว่า ที่พูดเช่นนั้น เพราะนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่ผ่านมา เป็นนโยบายที่กินได้ อย่างเช่น ประการที่ 1 กรณีฟอกไตฟรี แล้วคนนราธิวาสก็เป็นโรคไตเยอะมาก เพื่อนตนเองหลายๆคนต้องเสียชีวิต ทราบว่า เพราะไม่มีเงินไปหาหมอที่โรงพยาบาล ที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 1,500 – 2,000 บาทต่อสัปดาห์

พวกเราจึงไปบอก"ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคว่า คน 3 จังหวัดมีปัญหาโรคไตเยอะ หัวหน้าพรรคก็บอกว่า คนอีสาน ชาวเขาก็เป็นเยอะ จึงเป็นที่มาคนที่เป็นโรคไตทั่วประเทศ 8 ล้านคน ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2565 กระทั่งมาถึงปัจจุบันนี้ทำให้ประชาชนได้รับการฟอกไตฟรีที่เป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย

ประการที่ 2. ลูกหนี้ กยศ. ประกาศชัดเจนไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีการปรับ ไม่มีผู้ค้ำประกัน เราสู้แล้ว ส.ว.ไม่เอาด้วยก็เลยตกไป เรื่องนี้ยืนยันว่า เลือกตั้งครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยจะเดินหน้าทำให้สำเร็จตามที่เป้าหมายที่วางเอาไว้ทุกประการ สิ่งเหล่านี้จะนำไปบอกประชาชน ทำให้รับรู้ว่า พรรคภูมิใจไทย "พูดแล้วทำ" 

\"นัจมุดดิน อูมา\"ความท้าทายภายใต้เสื้อ\"ภูมิใจไทย\"ชิงเก้าอี้้ปลายด้ามขวาน

เดินหน้าทำความเข้าใจ "นโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์"

สำหรับนโยบาย"กัญชาเสรี" ตอนที่ตนเองสังกัดพรรคประชาชาติ เคยขึ้นเวทีปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์ แต่มาอยู่"พรรคภูมิใจไทย" ทราบว่า พรรคไม่ได้คิดเองมีที่มาที่ไป คือ มีนักวิชาการกลุ่มหนึ่ง เช่น อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ ไปเสนอนโยบายต่อพรรคการเมือง แล้วพรรคภูมิใจไทยเห็นว่า เป็นเรื่องดีก็เลยผลักไปเป็นนโยบายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แถลงนโยบายรัฐบาลปี 62  ก็มีเรื่องนี้ด้วยเพื่อพัฒนากัญชาเป็นสมุนไพรทางการแพทย์เพื่อสุขภาพ

"ผมขอเรียนว่า ผมมาศึกษาแล้ว นโยบายพรรคภูมิใจไทยเรื่องกัญชาเพื่อการแพทย์ และสุขภาพเท่านั้นเอง ผมเป็นมุสลิมไปถามท่านจุฬาราชมนตรี ได้มีคำวินิจฉัยของท่านจุฬาราชมนตรีเมื่อปี 2564 ท่านวินิจฉัยกัญชา ถ้าใช้เพื่อการแพทย์และสุขภาพได้รับการอนุโลมจากทางศาสนา แต่ถ้าใช้เพื่อสันทนาการทางศาสนาถือว่า บาป ผมยึดคำวินิจฉัยตรงนี้"

"วันนี้ที่มีปัญหาเพราะมีบางคนนำเอาเรื่องนี้ไปโจมตีเป็นประเด็นทางการเมืองมากจนเกินเหตุ ผมไม่เคยบอกว่า กัญชาทำได้ทุกเรื่อง เช่น ผู้รู้ทางศาสนาบอกว่า เราลืมช่อกัญชาไว้ในเสื้อแล้วไปละหมาดบาปมั้ย ท่านบอกว่า ไม่ แต่ถ้าเป็นเหล้าไม่ได้  บาปในตัวอยู่แล้ว แต่กัญชาจะบาปหรือไม่บาปอยู่ที่การใช้ และกัญชาหนึ่งต้น ใบไม่มีปัญหา ต้นไม่มีปัญหา รากไม่มีปัญหา จะมีปัญหาที่ช่อดอก" 

"นัจมุดดีน" กล่าวว่า วันนี้ สธ. ได้ประกาศให้ช่อดอกเป็นสมุนไพรควบคุม ใครจะครอบครองเพื่อจำหน่ายต้องได้รับอนุญาตจาก อย. หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่เสียดายว่า กฎหมายฉบับนี้ถูกบางพรรคขวางไม่ให้ผ่าน ดังนั้นต้องใช้ประกาศของ สธ. ไปก่อน“ผมอธิบายชาวบ้านเวลาเราจะไปผ่าตัดเขาต้องให้ดมยาคือ เคตามีนที่มาจากฝิ่น  ซึ่งมันก็บาปเหมือนกันสูบไม่ได้ แต่ถ้าประโยชน์ทางการแพทย์ได้ อย่างคนเป็นมะเร็ง ระยะสุดท้ายหมอจะให้ยามอร์ฟีน ซึ่งก็เป็นยาเสพติดเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้ สำหรับกัญชาจะมีปัญหาถ้าส่วนผสมเกิน 0.2 THC ไม่ได้ อันนั้นบาปแล้วผิดกฎหมายด้วย ผมถึงเรียนว่า กัญชาจะบาปหรือผิดกฎหมายอยู่ที่การใช้ ถ้าใช้มากเกินขนาดก็ไม่ได้ แค่นั้นเอง" นายมัจมุดดีน กล่าว

ชมคลิป >>>

ผ่าสมรภูมิเลือกตั้ง เจาะปลายด้ามขวาน"นราธิวาส"

logoline