svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"บิ๊กตู่" ชี้ดึง "อาคม" ร่วมทีมเศรษฐกิจ รทสช. เป็นเรื่องอนาคต

24 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"บิ๊กตู่" บ่ายเบี่ยงดึง "อาคม" ร่วมทีมเศรษฐกิจ รทสช. บอกเป็นเรื่องอนาคต ระบุ ทุกพรรคมีความหวังแลนด์สไลด์ เหน็บ ลมไม่ดีระวังออกนอกเลน "อย่าพูดถึงเขาเลย" เมื่อถูกถามถึง "สมศักดิ์ -สุริยะ" ซัดรัฐบาลบริหารเศรษฐกิจล้มเหลว

24 มีนาคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีก่อนหน้านี้เคยออกมาระบุว่า จะมีคนมาช่วยทีมเศรษฐกิจ พรรครวมไทยสร้างชาติจำนวนมาก รวมถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วยหรือไม่ว่า รอฟัง แต่ตอนนี้ก็ช่วยกันอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า แล้วในอนาคต นายอาคม จะมาช่วยงานด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต อนาคตคืออนาคต ตอนนี้ยังมีเวลาที่จะทำงานร่วมกันอยู่ตรงนี้ ตนก็อยู่ในสองบทบาท ซึ่งต้องระมัดระวังอย่างเต็มที่ เพราะเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย และวันนี้อำนาจต่างๆในการรักษาการก็มีอยู่จำกัด รวมไปถึงมีข้อห้ามในหลายประเด็น ซึ่งอาจจะทำให้งานบางอย่างนั้นล่าช้าไปบ้าง

“ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งว่า ใครจะเป็นรัฐบาลต่อไป ผมไม่ได้รังเกียจใครอยู่แล้วก็แล้ว ประเทศไทยไม่ใช่ของผม แต่เป็นของคนไทยทุกคน”

เมื่อถามถึงแผนการหาเสียงในการเลือกตั้ง ที่นายไตรรงค์  สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาระบุว่าอยากให้ นายกฯ แยกบทบาท นายกรัฐมนตรีกับพรรคในการลงพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การไปหาเสียงก็ต้องลาราชการอยู่แล้ว เพราะกฎหมายกำหนดไว้เช่นนั้น จะฝืนได้อย่างไร ส่วนแผนการลงพื้นที่เป็นเรื่องของทางพรรคที่จะวางไว้ให้ในแต่ละวัน

สำหรับหลังการเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครทั่วประเทศ และ ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ก็ต้องมีแผนหาเสียงในแต่ละพื้นที่ ซึ่งตนก็ต้องไปพูดเรื่องที่ทำแล้วและจะทำต่อ รวมถึงมีอะไรที่จะสามารถทำใหม่ได้ และเราจะต้องเร่งแก้ปัญหาอะไรบ้าง เพื่อให้ทันต่อโลกในปัจจุบัน เราต้องมองอนาคต

“ปัญหาเดิมเราก็ต้องแก้ โดยเฉพาะการดูแลผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้เกิดความยั่งยืน แก้ปัญหาความยากจนความเหลื่อมล้ำก็ต้องว่ากันไป ขณะเดียวกันการเดินหน้าประเทศอีกขาหนึ่งก็ต้องมีรายได้เข้ามา เพื่อดูแลคนเหล่านี้และพัฒนาประเทศให้มีรายได้สูงขึ้น ซึ่งนี่คืออนาคต ถ้าทำตรงนี้อย่างเดียวแล้วไม่มองอนาคตและส่วนประกอบทั้งหมด มันไปไม่ได้หรอกประเทศ”

ส่วนที่หลายพรรคออกมาระบุว่า จะได้คะแนนเสียงแบบแลนด์สไลด์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งใจจะได้แลนด์สไลด์ด้วยหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า “ทุกคนก็หวังอย่างนั้น แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชนใช่หรือไม่ และคำว่าแลนด์สไลด์ สไลด์ไปไหนก็ไม่รู้ เข้าใจหรือไม่ เพราะถ้าลมไม่ดีก็สไลด์ออกนอกเลนไป เจ็บตัวอีก ตนไม่พูดว่าจะสไลด์หรือไม่สไลด์ แค่อยากให้ทุกคนเข้าใจและมองว่าประเทศไทย อยู่มาถึงวันนี้ด้วยอะไร และจะอยู่กันอย่างไรต่อไป เราต้องมีรัฐบาลที่ไว้ใจได้ใช่หรือไม่ มีรัฐบาลที่นึกถึงคนที่มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบาง ใช่หรือไม่ รวมไปถึงจะดูแลดำเนินการอย่างไร เราก็ได้มีการเริ่มต้นมาแล้ว”

ทั้งนี้ตนขอพูดในนาม รัฐบาล เพราะนโยบายหลายพรรคการเมือง ก็ตรงกันหมดส่วนใหญ่เป็นเรื่องรัฐสวัสดิการ ซึ่งถ้าเราทำมากเกินไปประเทศก็เสียหายมาก ทำไมจะไม่อยากดูแล เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนก็พยายามหามาตรการที่เหมาะสม และไม่มีผลกระทบในเรื่องงบประมาณของแผ่นดิน รวมไปถึงวินัยการเงินการคลังของประเทศ มันทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ก็ยังไม่ปลอดภัย เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจของโลก ยังคงมีความผันผวนตลอดเวลา ทั้งยุโรปและสหรัฐอเมริกา

วันนี้ก็เห็นปัญหาอยู่ว่า มีมากมายพอสมควร ฉะนั้นเราต้องเตรียมมาตรการรองรับ โดยขณะนี้กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการกำกับดูแลภาคการเงิน การธนาคารทั้งหมด ซึ่งถือว่าเรายังปลอดภัยอยู่ แต่ก็ต้องระมัดระวังด้วย เพราะวันนี้โลกมันผันผวนซับซ้อนมาก ฉะนั้นจึงอยากให้ฟังเรื่องเหล่านี้ไว้บ้าง แม้มันอาจจะฟังดูไม่ค่อยรู้เรื่อง ตนก็เป็นคนที่ไม่ใช่รู้มาก่อน จึงต้องศึกษาทำความเข้าใจ และนำพาสิ่งต่างๆเดินไปข้างหน้า นั่นคือหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศ ต้องคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด

พร้อมย้ำว่า ตนไม่อยากพูดถึงเรื่องทางการเมือง เนื่องจากต้องระมัดระวังบทบาทของเราในวันนี้และวันข้างหน้า ไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิดหรือผิดพลาดในการชี้แจง

ส่วนกรณีที่วานนี้ (23 มี.ค.) นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีตส.ส.จังหวัดอุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ ได้คุกเข่าขอขมานายกรัฐมนตรี พร้อมสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ถือเป็นสัญญาณที่ดีในทางการเมืองใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว เข้าใจเวลาเขาทำงานในสภาฯ ก็เห็นกันอยู่แล้วนี่ เขาก็ทำและพูดได้ทุกอย่าง ตามความเชื่อของเขา แต่เมื่อวานเขามาขอโทษอะไรต่างๆเหล่านี้ ตนก็เข้าใจบทบาทในสภาฯ เขาเป็นฝ่ายค้านก็ต้องพยายามค้านให้ได้มากที่สุด แต่มันอาจจะเกินเลยไปบ้างตนก็ให้อภัยได้

เมื่อวานเขาก็มาพูดว่า ยินดีที่ได้มาร่วมงานที่นี่ ไม่ได้โดนใครบังคับอะไรทั้งสิ้น และตนเป็นคนเชื่อถือได้ จากการตรวจสอบ ที่ผ่านมาทั้งหมดว่าไม่มีข้อเท็จจริงอะไรเลยทั้งสิ้น เขาจึงกลับมาช่วยงานเราในครั้งนี้ เพื่อให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า ก็ให้อภัยกัน

กรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทยและโจมตีรัฐบาลถึงการบริหารงานด้านเศรษฐกิจนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินออกจากวงสัมภาษณ์พร้อมกับระบุว่า “อย่าพูดถึงเขาเลย”

ส่วนกรณีที่มีการปล่อยข่าวลือว่า จะไม่มีการเลือกตั้ง นายกฯ กล่าวว่า “ข่าวลือก็คือข่าวลือ”

logoline