20 มีนาคม 2566 "นายสุธรรม แสงประทุม" คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การที่ "นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์" รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวหาพรรคว่าพูดแต่เรื่องเก่าๆนั้น ซึ่งการพูดถึงเรื่องเก่า เพราะพรรคเพื่อไทยมีเรื่องที่ดี มีประวัติที่ดี ประกาศนโยบายไปแล้วสามารถดำเนินการตามนโยบาย จนยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนได้ เป็นต้นทุนให้พรรคได้สื่อสารกับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ ไม่เหมือนคนที่พูดแล้วไม่ทำ หาเสียงแล้วไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน จึงไม่สามารถพูดเรื่องเก่าได้ เพราะไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน อย่างกรณี แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้โซเชียลหลอกคนทั้งประเทศ ซึ่งอยู่ในขอบเขตความดูแลของนายชัยวุฒิ ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ปล่อยให้แก๊งเหล่านั้นทำลายเศรษฐกิจ ประชาชนที่มีเงินเก็บสะสมกลายเป็นเหยื่อ
ส่วนการที่นายชัยวุฒิ กล่าวหาว่า โครงการ 30 บาท ตายทุกโรคนั้น สำนวนนี้มีคนสารภาพว่าเข้าใจผิดมาแล้วมากมาย แสดงให้เห็นว่านายชัยวุฒิ ยังเข้าใจผิดอยู่ เดินสวนทางกับความเป็นจริงของโลกและยุคสมัย โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นรัฐสวัสดิการที่ริเริ่มขึ้นโดยพรรคไทยรักไทย เมื่อเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา และยังเป็นประโยชน์ต่อประชาชนถึงทุกวันนี้ (20มี.ค.) สามารถลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบสาธารณสุขของประชาชน ช่วยลดรายจ่ายการรักษาพยาบาล เป็นนโยบายที่องค์กรนานาชาติให้การยกย่อง
"ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง พรรคเพื่อไทยยังได้ยกระดับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคให้สมบูรณ์และดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยบัตรประชาชนใบเดียว เปรียบเสมือนกรมธรรม์ประกันชีวิต สามารถรักษาได้ทั่วไทย นัดคิวออนไลน์ ไม่ต้องรอคิวนาน สามารถตรวจเลือดคลินิกใกล้บ้าน รวมถึงการรักษา และจ่ายยาออนไลน์ ลดภาระของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์" นายสุธรรม กล่าว
ขณะเดียวกัน เด็กหญิงอายุตั้งแต่ 9-11 ปีทุกคนและผู้หญิงที่ยังไม่เคยรับเชื้อ HPV จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรี ช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกมากกว่าครึ่ง ป้องกันมะเร็งท่อน้ำดี-มะเร็งตับ ตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ในตับและไวรัสตับอักเสบซี รับยา รักษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
สำหรับสิทธิประโยชน์ในโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ถูกยกระดับขึ้น ยังครอบคลุมไปถึง Mental Health สุขภาพจิตคนไทยจะไม่ถูกละเลย มีการให้คำปรึกษาจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยาคลินิก ทั้งที่โรงพยาบาลและผ่านระบบ Telemedicine และยังส่งเสริมให้มีสถานชีวาภิบาล ไร้กังวลสำหรับผู้ป่วยติดเตียง ร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน สนับสนุนงบประมาณโดย สปสช.
ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีโรงพยาบาลประจำครบทั้ง 50 เขตอีกด้วย ทั้งหมด คือ สิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้พัฒนาขึ้น นำเสนอต่อประชาชน