13 มีนาคม 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี ที่วัดหุบเขากระทิง ตำบลหุบไพร อำเภอบ้านโป่ง โดยมี นายอัครเดช วงพิทักษ์โรจน์ ส.ส.ประชาธิปัตย์, นางสาวกุลวลี นพอมรบดี อดีตส.ส.พรรคพลังประชารัฐ, พลโทสินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม มาร่วมให้การต้อนรับ
ทันทีที่คณะนายกฯ เดินทางมาถึงวัดหุบกระทิง เวลา 10.00 น. มีข้าราชการ ประชาชน หน่วยงานในพื้นที่ รวมนักเรียนโรงเรียนวัดหุบกระทิง มารอต้อนรับ เมื่อลงจากรถยนต์ นายกฯ ได้เดินไปยืนเกาะรั้วโรงเรียน พร้อมกล่าวกับเด็กๆ ว่า นายกฯ มาเยี่ยมเพราะมีหลายงานที่ต้องมาติดตามความคืบหน้า และใกล้เวลาที่ต้องจัดทำงบประมาณใหม่ในปีหน้า แต่จะเป็นรัฐบาลไหนก็ยังไม่ทราบเหมือนกัน
ในขณะนี้ที่เป็นรัฐบาลอยู่ ก็ต้องมาดูว่าครบถ้วนหรือไม่ และดูว่าจะต้องทำยังไงกับงบประมาณ ที่ยังค้างอยู่เพราะเรื่องนี้มันไม่ง่ายนักหรอก ซึ่ง “เด็กนักเรียนทุกคนถือเป็นผ้าขาวของลุง ผ้าขาวที่ไม่ต้องแปดเปื้อนอะไรทั้งสิ้น ใครทำให้ผ้าขาวบริสุทธิ์เหล่านี้แปดเปื้อน ถือว่าคนนั้นเป็นบาป ต้องทำให้เด็กทุกคนเจริญเติบโตก้าวหน้า” พร้อมฝากขอให้คุณครู สอนให้เด็กทุกคนมีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพและดำรงชีวิต
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่นายกฯเป็นห่วง เพราะที่ผ่านมาหลายปีก็พยามทำเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่าวันหน้าตนเตรียมงานให้เด็กๆแล้ว ฉะนั้นโตขึ้นขอให้เป็นพลังของแผ่นดิน พร้อมย้ำว่า “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” ซึ่งเป็นที่รักยิ่งของพวกเรา รักกันมากๆ รักกันไว้เถิด เราเกิดเป็นไทย สำหรับลุงยึดและรักทั้ง 3 สถาบัน และรักประชาชน ขอให้เด็กทุกคนเป็นคนดีรู้รักสามัคคี และตอนหนึ่งนายกฯหยอกล้อเด็กๆให้รักษาฟันให้ดีๆ ขณะที่เด็กๆบอกว่าเคยเห็นนายกฯแต่ในติ๊กต๊อก เพิ่งเคยเจอตัวจริงวันนี้
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เข้าสักการะหลวงพ่อสมปรารถนา พระประทานในโบสถ์และกราบนมัสการเจ้าอาวาส หลังจากนั้นได้พบปะกับชาวบ้าน ที่มารอต้อนรับอยู่โดยรอบบริเวณวัด โดยชาวบ้านได้ตะโกนให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ว่า “นายกรัฐมนตรีสู้ๆ ลุงตู่อยู่ต่อ” ขณะเดียวกันมีป้ายให้กำลังใจว่า “หนีเมียมาเชียร์ลุง” “ลุงตู่คนจริง 2023” และชาวบ้าน ขอถ่ายรูปนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ได้บอกตลอดว่า ขอให้ถ่ายรูปร่วมกับนายกรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียวและไม่ให้จับมือ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า มือของตนอักเสบจากแผลการผ่าตัด โดย นายอัครเดช ส.ส.ได้ชี้แจงกับชาวบ้านว่า “นายกรัฐมนตรีอยากจับมือกับทุกคนแต่มือเจ็บ”
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมแปลงสาธิต โดยระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมควายไทยลักษณะงามช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าไปทักทายกระบือหรือควายที่มีคนมาถวายวัด รวมทั้งได้สอบถามเจ้าอาวาสถึงการเลี้ยงดู แต่เนื่องจากมีคนจำนวนมากทำให้ “เจ้าโควิด” ควายเผือกซึ่งมีอายุสี่ปี ที่เกิดช่วงโควิดระบาดพอดี เกิดอาการระแวงและทำท่าฮึดฮัดพล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวปลอบว่า “อย่าไปทำอะไรเขานะ พวกนักข่าวไม่มีใครทำร้ายนายกรัฐมนตรีหรอก แต่ใครที่คิดจะทำร้ายนายกฯก็ขอให้ระวังก็แล้วกัน คิดดีทำดี”
โดยก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรีได้พบกับกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้าน โดยได้ถ่ายรูปร่วมกัน ก่อนที่จะกล่าวว่า จะทำให้ดีที่สุด กระจายอำนาจ อย่าให้มีเรื่อง จะได้ดูแลได้
นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านตะโกนขอขึ้นเบี้ยผู้สูงอายุ แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้กล่าวตอบอะไร
ผ้าขาวของลุง