ก่อนอื่นไปเข้าใจความหมายของ “ทะเบียนบ้านกลาง” กันก่อน
“ทะเบียนบ้านกลาง” คือทะเบียนที่สำนักทะเบียนจัดทำขึ้นเพื่อลงรายการผู้ที่ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านด้วยสาเหตุต่าง ๆ เช่น
ฉะนั้นคนกลุ่มนี้จึงกลายเป็นบุคคลตกหล่นที่อาจไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านปกติได้ สำนักทะเบียนจึงต้องนำชื่อบุคคลนั้นไปไว้ในทะเบียนบ้านกลางนั่นเอง
ดร.ถวิลวดี บุรีกุล รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า เรื่องนี้กลายเป็นปัญหา เพราะคนที่อยู่ “ทะเบียนบ้านกลาง” ใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ได้ ซึ่งถือว่าไม่ได้ทำหน้าที่ของพลเมืองตามมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญ (การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทย)
รัฐธรรมนูญ มาตรา 50 (7) ระบุว่า “บุคคลมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้...ไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือลงประชามติอย่างอิสระโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นสำคัญ”
นอกจากนี้ในทะเบียนบ้านกลาง บางกรณีก็เป็นแหล่งของธุรกิจสีเทา เพราะนำชื่อของคนต่างด้าวมาสวม อาจกลายเป็นช่องทางให้ทุจริตเลือกตั้งได้เหมือนกัน เพราะมีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ระบุว่า มีการนำคนต่างชาติมาสวมเป็นคนไทย แทนคนไทยที่อาจตามตัวไม่เจอ เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านกลางจำนวนหนึ่ง แล้วค่อยย้ายออก
ดร.ถวิลวดี กล่าวต่อ ยิ่งไปตัดสิทธิคนในทะเบียนบ้านกลาง อาจทำให้กลายเป็นช่องทางทุจริตได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถนำต่างด้าว หรือคนต่างพื้นที่มาสวม และการตัดสิทธิก็ไม่เป็นธรรม เพราะพวกเขาไม่ได้มีคุณสมบัติต้องห้าม แบบพวกเป็นนักบวช โรคจิต หรือต้องโทษถูกตัดสิทธิทางการเมือง
ฉะนั้นควรให้ กกต.แก้ระเบียบใหม่ อย่างน้อยอาจให้มีสิทธิเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ได้ เพราะระบบเขตอาจจะยุ่งยาก
ดร.ถวิลวดี กล่าวอีกว่า เฉพาะในกรุงเทพฯ มีชื่อคนในทะเบียนบ้านกลาง มากถึง 45,980 คน ไม่นับรววมต่างจังหวัด จำนวนขนาดนี้ อาจเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้ง ส.ส.บางเขต บางคนได้เลยทีเดียว