“บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่เมืองกาญจน์ ! ตอบโจทย์แก้จน เสียงตะโกน “รักลุงป้อมๆ”

13 กุมภาพันธ์ 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส , น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ , นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง , และ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กล่โหม เดินทางไปปฏิบัติราชการ เพื่อติดตามการพัฒนาทรัพยากรน้ำ และแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ที่โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี

โดยได้ร่วมประชุมหารือและรับฟังบรรยายสรุปภาพรวม จ.กาญจนบุรี อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลอง และลุ่มน้ำท่าจีน ปัญหาน้ำท่วมมักเกิดจากน้ำหลากจากเทือกเขาต้นน้ำ ลำน้ำระบายได้ช้า เนื่องจากมีสิ่งกีดขวาง และลำน้ำตื้นเขิน  ปัญหาภัยแล้งเกิดจากภาวะฝนน้อย และฝนทิ้งช่วง ทำให้ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร และความต้องการจากการเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว

ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนโครงการต่างๆ ทั้งงบปี 61-65 , งบกลางปี 65 และงบบูรณาการปี 66 รวมทั้งอีก 3 โครงการสำคัญ วงเงิน 16,669 ล้านบาท ซึ่งประชาชนจะได้รับประโยชน์ 75,469 ครัวเรือน ได้แก่ โครงการขยายความจุอ่างเก็บน้ำลำอีซู และโครงการผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ระยะที่1 และโครงการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์  รวมทั้งดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาล และขยายระบบส่งน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่ขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะ อ.เลาขวัญ และอ.ห้วยกระเจา ซึ่งประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ถึงขนาดเรียกว่าเป็น “อีสาน จ.กาญจนบุรี”

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดตาม 10 มาตรการฤดูแล้งอย่างเคร่งครัด รวมทั้งเร่งรัดการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำอีซู และโครงการอื่นๆ เพื่อทำให้หลุดพ้นจาก คำว่า อีสาน จ.กาญจนบุรี ให้ได้ และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยเร็ว

จากนั้น พล.อ.ประวิตร เป็นประธานพิธีมอบสมุดประจำตัว และหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ที่ดินทำกิน (ส.ป.ก.4-01) จำนวน 10 อำเภอ รวม 2,978 ไร่ (คทช.ในเขตป่าสงวน 8,030 ไร่ ได้มอบไปแล้ว) พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับหนังสืออนุญาตดังกล่าว

ซึ่งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก.4-01 เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดิน และความยากจน ด้วยการกระจายสิทธิ์การถือครองและนำไปสู่ความมั่นคงในที่ดินทำกิน ป้องกันการบุกรุก และจะส่งผลให้ชาวบ้านหรือเกษตรกร มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป

พล.อ.ประวิตร  ยังได้พบปะประชาชน ที่มาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และรับฟังข้อคิดเห็นต่างๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่ารัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาทุกความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อให้มีความอยู่ดีกินดีทุกครัวเรือน ทุกพื้นที่ ให้ได้ ซึ่งก็มีชาวบ้านจำนวนมากมาขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่มีความห่วงใย และสามารถแก้ไขปัญหาทั้งในเรื่องน้ำ ที่ดินทำกิน และอื่นๆได้เป็นผลสำเร็จ

โดยกล่าว สะท้อนความรู้สึกออกมาว่า พล.อ.ประวิตร เป็นคนใจดี มีเมตตากับประชาชนทุกคน มีภาวะผู้นำโดดเด่น เป็นศูนย์รวมความสามัคคี และประสานงานได้ทุกกลุ่ม โดนใจคนเมืองกาญจน์ เหมาะเป็นนายกฯ คนต่อไป

ทั้งนี้ ระหว่างลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้วิดีโอคอลไปยังนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคลำปาง จ.ลำปาง พูดคุยกับนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคลำปาง ตัวเเทนนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคทั่วประเทศ และตัวเเทนนักเรียนศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5 (โรงเรียนพลตำรวจภาค 5) ที่เข้ากิจกรรมสร้างความปรองดองที่วิทยาลัยเทคนิคลำปาง ตามแนวคิด "มีลุง มีรัก" เนื่องในเทศกาลวันวาเลนไทน์

ด้าน พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่มอบกำลังใจให้ เราต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง เราไม่ขัดแย้ง และทะเลาะกับใคร หากทุกคนอยากให้ตนเป็นนายกฯ ก็ขอให้เลือก ขอฝากทุกคนด้วย ท่ามกลางเสียงปรบมือ และเสียงตะโกน “รักลุงป้อมๆ”  และ “ลุงป้อมสู้ๆ” ในวิดีโอคอลเป็นระยะๆ

สำหรับว่าที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐในทั้ง 5 เขตเลือกตั้ง  ประกอบด้วย

เขต 1 นายจีรเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี

เขต 2 นายชูเกียรติ จีนาภักดิ์ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี

เขต 3 พลตำรวจตรีกมลสันติ กลั่นบุศย์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี

เขต 4 นางลำยอง ยิ้มใหญ่หลวง อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี

และเขต 5 นายประเทศ บุญยงค์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิ

นอกจากนี้ ยังมี ซ้อเจน นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ซึ่งเป็นอดีต สส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ย้ายมาสังกัดพรรคพร้อมลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคด้วย