8 กุมภาพันธ์ 2566 "นายชวน หลีกภัย" ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฏร ชี้แจงถึงกรณีนัดประชุมร่วมรัฐสภานัดพิเศษ 2 วันนี้ว่า เพื่อให้ร่างกฎหมาย ต่างๆ สามารถผ่านการพิจารณาไปได้ทั้งหมด เพราะหากนัดประชุมวาระปกติมี "ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ"ค้างอยู่ อาจทำให้ร่างกฎหมายที่ต่อคิวอยู่ล่าช้าได้
ดังนั้น จึงกำหนดวาระพิจารณาร่าง ส่งพ.ร.บ. ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน และร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา159 และ 272 เรื่องตัดอำนาจส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี และที่มาของนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาพิจารณาเรื่องละ 1 วัน เพื่อให้งานสภาขับเคลื่อนไปได้ไม่มีกฎหมายค้างอยู่เหมือนร่างกฎหมายกัญชา กัญชง ที่สกัดกั้นไม่ให้ร่างกฎหมายอื่นได้พิจารณา
ทั้งนี้ ได้นัดประชุมวิป 3 ฝ่ายเมื่อวานนี้ เพื่อกำชับให้สมาชิกใช้วุฒิภาวะในการอภิปราย อย่าก้าวร้าว เหยียดหยาม หยาบคาย กับวุฒิสภา ให้ เสนอแนวทางแก้ไขกฎหมายอย่างผู้มีวุฒิภาวะ หากทำได้เช่นนั้นข้อขัดแย้งก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส.ว. ส่วนหนึ่ง ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นกฎหมายที่เปิดโอกาสให้ด่าหรือตำหนิวุฒิสภา และเป็นที่มาของการไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมของสมาชิกวุฒิสภาซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อน ในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมา
ทั้งนี้จะมีส.ส. แสดงความประสงค์อภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกือบ10 คน เชื่อว่าจะสามารถลงมติได้ไม่เกิน 14:00 น. วันนี้
ขณะเดียวกันในสัปดาห์หน้าจะมีการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ก่อนที่สัปดาห์สุดท้ายจะพยายามพิจารณาเรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ให้ครบทุกเรื่อง โดยขอร้องสมาชิกอย่าสกัดกั้นกฎหมาย ขอให้ผลงานได้ออกมา
"นายชวน" ยังระบุว่า รัฐบาลได้เสนอกฎหมายใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 3-4 ฉบับ จึงได้โทรศัพท์ไปพูดคุยสอบถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่า”ไหนบอกว่าจะไม่ส่งมาแล้ว” โดยนายวิษณุชี้แจงว่าเป็นเรื่องที่คณะกรรมการประสานงานส่งมา ในส่วนของรัฐบาลไม่มีแล้ว ดังนั้นจึงทำหนังสือ ส่งไปยังนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่า จากการตรวจสอบจำนวนสมาชิก เมื่อ 6 ก.พ. ฝ่ายรัฐบาลยังมีเสียงข้างมาก หากต้องการให้กฎหมายหรือญัตติใดผ่าน ทำได้โดยใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างจำกัด ด้วยการ รักษาองค์ประชุมให้ครบ เพราะสภาฯชุดนี้ยังอยู่ได้จนถึง 23 มีนาคม 2566 และสามารถเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้ โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ