24 มกราคม 2566 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์กรณีความชัดเจนการร่วมมือทางการเมืองกับพรรคสร้างอนาคตไทยว่า ยังหารือกัน เป็นเรื่องที่ตกลงใจเป็นพันธมิตรในการทำงานเชิงลึก ส่วนการหารือการทำงานยังอยู่ระหว่างพูดคุย หากมีความคืบหน้าจะเรียนให้ทราบ ส่วนอีก 2 สัปดาห์ จะออกมาเป็นรูปธรรมได้หรือไม่นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องเร่งคุย
เมื่อถามว่า จะมีคนจากพรรคกล้าลาออกมาร่วมงานพรรคไทยสร้างไทยหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ยังไม่มีการตกลงกัน เราตกลงว่า จะร่วมมือกันทำงาน
เมื่อถามอีกว่า แคนดิเดตนายกฯคาดว่า จะเสนอชื่อทั้ง 2 ท่าน (สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์) หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ยังไม่ถึงนั่นเลย ตอนนี้รู้แค่ว่า มี 2 คนเป็นขุนพล (การุณ โหสกุลและชวลิต วิชยสุทธิ์)
เมื่อถามว่า จะมีใครเข้ามาร่วมงานในพรรคอีกหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า จะมีคนดี มีความรู้ มีความสามารถ เป็น ส.ส. เข้ามาเพิ่มเติมอีก เร็วๆนี้จะทยอยเปิดตัว
เมื่อถามว่า ขณะนี้แต่ละพรรคในเขต กทม. มีการเปิดตัวทีมใหญ่ มีความกังวลหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่กังวล การแข่งขันมีทุกครั้ง การลงสนามเลือกตั้งไม่มีคู่แข่งไม่เคยมี ต้องมีทุกครั้ง เรากลับยินดีประชาชนจะได้มีทางเลือก นำเสนอนโยบายในทางสร้างสรรค์ แต่ที่ห่วงมากที่สุดเกรงว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการใช้เงินมากที่สุดในประวัติศาสตร์ อยากให้ประชาชนมั่นใจและช่วยกันเป็นพลังที่จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมตามเจตนารมณ์ของประชาชน
เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไร กรณีภาครัฐมีค่าพาหนะแก่ประชาชนที่เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง คนละ 500 บาท คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การจะส่งเสริมให้คนไปเลือกตั้งมันมีมากกว่าเรื่องของตัวเงิน การอำนวยความสะดวกโดยภาครัฐหรือการทำให้คูหาเลือกตั้งเข้าไปอยู่ใกล้ เขาทำให้มีโอกาสไปใช้สิทธิได้ง่าย รักษาสิทธิและตรวจสอบสิทธิได้มีความสำคัญมากกว่า ความพยายามให้คนไปเลือกตั้งมากๆเป็นเรื่องที่ดีไม่ได้ตำหนิติติง
แต่อยากให้คิดให้รอบด้าน แต่ถ้าเราส่งเสริมประชาธิปไตย เราต้องต่อต้านการซื้อเสียง เราต้องอำนวยความสะดวกให้คนไปใช้สิทธิได้ง่าย ใกล้บ้าน อนาคตอาจพัฒนาการใช้เสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งในหลายประเด็นทำแล้ว ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยใหญ่ที่สุดในโลก คนมากที่สุดอย่างอินเดีย โดยใช้เครื่องมือ และเที่ยงธรรมด้วย ดังนั้นการเลือกตั้งที่เที่ยงธรรมเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันคิดและทำให้เกิดขึ้น
เมื่อถามว่า จะมีวิธีการสู้กับพรรคการเมืองอื่นอย่างไร ที่เน้นในภาคอีสานเช่นเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นลูกคนอีสาน ตนเติบโตในภาคอีสานแทบจะต้องตระเวนทุกจังหวัดกับคุณพ่อตั้งแต่เด็ก เราได้เห็นถึงความยากลำบากของคนอีสาน จริงๆคนอีสาน หากเราช่วยเขาอย่างยั่งยืน เขาจะเป็นกำลังในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ จะพลิกพื้นดินที่แห้งแล้งให้กลายเป็นพื้นที่ทองในการทำมาหากินได้ คนอีสานขาดโอกาส เป็นภาคที่ใหญ่ที่สุด มีประชากรถึง 26 ล้านคน 1 ใน 3 ของประเทศ อย่างข้าวอร่อยที่ในโลก
แต่กลายเป็นภาคที่ยากจนมากที่สุด เพราะขาดโอกาส ดังนั้นเราจึงได้ประกาศนโยบายอีสานมั่งคั่ง หายแล้ง หายจน มีรายได้ตุงเต็มกระเป๋า เกิดขึ้นได้ถ้าได้คนอย่างไทยสร้างไทยที่เอาใจใส่ภาคอีสาน และตนลงพื้นที่ กิน นอนอยู่กับชาวบ้าน นำความทุกข์มาคิดนโยบายในการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด อีสานอย่างแรกต้องเติมน้ำ หายแล้งก็หายจน รวมทั้งการเติบน้ำมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ลาวน้ำเหลือนำมาเติมในภาคอีสานของเราเกื้อกูลกัน เรามองว่า ภาคอีสานนอกจากเรื่องเกษตรควรจะเป็นศูนย์กลางในเรื่องของการผลิตทางด้านอุตสาหกรรม อย่างจังหวัดนครราชสีมาตอนนี้มีเขตอุสาหกรรมที่ไฮเทค อุปสรรคปัญหาคือต้นทุน
“ไทยสร้างไทยเป็นรัฐบาลเราจะรื้อสัญญาทาส เพื่อที่จะแก้ไขการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนและให้ประชาชนได้ใช้ไฟถูกไม่เกิน 3.50 บาทให้ได้ และในภาคอีสานและเหนือจะใช้ได้ถูกกว่านั้น เพื่อดึงดูดการลงทุน เป็นสิ่งที่เราต้องหาจุดขายในแต่ละภูมิภาค ให้แต่ละภูมิภาคมีรายได้ดีขึ้นทุกภาค” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว