svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ทสท."อัดรัฐต้นตอทำปชช.แบกค่าไฟจี้เลิกสัญญาผลิตคุมสำรองไม่เกิน 25%

22 ตุลาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ไทยสร้างไทย"ซัดรัฐบาลเอื้อนายทุนผลิตไฟฟ้ามากกว่าใช้จริง 57% เป็นเหตุให้ประชาชนทั้งประเทศต้องทนแบกภาระค่าใช่จ่ายสูงเป็นประวัติการณ์ จี้รัฐยกเลิกสัญญาคุมการสำรองไม่ให้เกิน 25%

22 ตุลาคม 2565 "นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส" รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย "นายรณกาจ ชินสำราญ" กรรมการบริหาร และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย ร่วมแถลงข่าวหัวข้อ "ชำแหละยุทธการตบตาประชาชน ที่ค่าไฟแพง เพราะราคาแก๊สขึ้น หรือเพราะเอื้อนายทุน จนประชาชนต้องรับผลกรรม" ณ ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย

 

"ทสท."อัดรัฐต้นตอทำปชช.แบกค่าไฟจี้เลิกสัญญาผลิตคุมสำรองไม่เกิน 25%

 

โดย นายตรีรัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีปริมาณการใช้ไฟอยู่ที่ประมาณ 33,177 เม็กกะวัตต์ ในขณะที่ตัวเลขการผลิตไฟฟ้ามีมากถึง 52,389 เม็กกะวัตต์ ซึ่งมากกว่าปริมาณที่ใช้จริงถึง 57% โดยที่มาของการผลิตไฟนั้น มาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ที่ 32% หรือ 16,906 เม็กกะวัตต์ / ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ (IPP) 31% หรือ 16,124 เม็กกะวัตต์ และ ผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก อีก 26% โดยมีตัวเลขการนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศ อยู่ที่ 11% หรือ 5,721 เม็กกะวัตต์

 

 

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสนใจว่าเหตุใดรัฐบาลถึงปล่อยให้มีการทำสัญญาผลิตไฟที่สูงเกินปริมาณใช้จริงมากถึงขนาดนี้ เพราะโดยทั่วไปแล้ว การสำรองไฟจะอยู่ที่ไม่เกิน 20% ของปริมาณใช้ไฟเท่านั้น แต่สำหรับประเทศไทยนั้นมีตัวเลขสำรองไฟฟ้าสูงถึงเกือบ 60% เป็นเหตุให้ประชาชนต้องทนแบกรับค่าไฟที่สูงขึ้น จากการสำรองไฟที่มากไป โดยถูกคิดไปคำนวนเป็นค่า FT ที่สูงถึง 93 สตางค์

 

"ทสท."อัดรัฐต้นตอทำปชช.แบกค่าไฟจี้เลิกสัญญาผลิตคุมสำรองไม่เกิน 25%

 

นอกจากนี้ ยังเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เจอวิกฤตพลังงานโลก ส่งผลให้ราคาแก๊สธรรมชาติพุ่งสูง ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของการผลิตไฟ ส่งผลให้ประชาชนคนไทยไม่มีทางเลือก แต่ต้องแบกรับค่าไฟที่แพง ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยมีสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ออกมาเตือนรัฐบาลตั้งแต่ต้นปีแล้วว่า รัฐได้มีการสำรองไฟมากเกินความจำเป็น เป็นต้นเหตุให้ค่าไฟแพง แต่รัฐบาลก็ยังไม่ฟัง และได้ปรับค่า FT ขึ้นอีกรอบตอนเดือนก.ย. ที่ผ่านมา

ขณะที่ นายรณกาจ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยได้ทำสัญญาซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่จำนวนมากถึง 16,124 เม็กกะวัตต์ โดยยังไม่นับผู้ผลิตไฟรายเล็ก ซึ่งการมีการสำรองไฟฟ้า ถือเป็นเรื่องที่ดี เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ต้องอยู่เกณฑ์ที่เหมาะสม คือ ไม่ควรมากเกินกว่า 20% แต่รัฐบาลกลับมีการทำสัญญาซื้อไฟฟ้ามากกว่าการใช้งานมากถึงเกือบ 60% ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าการเซ็นสัญญาเหล่านี้ เป็นการเอื้อนายทุนหรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องออกมาชี้แจงเรื่องนี้

 

"ทสท."อัดรัฐต้นตอทำปชช.แบกค่าไฟจี้เลิกสัญญาผลิตคุมสำรองไม่เกิน 25%

 

"พรรคไทยสร้างไทยได้มีข้อเสนอให้รัฐบาลยกเลิกการต่อสัญญาการผลิตไฟฟ้าที่ใกล้หมด เพื่อปรับลดปริมาณการสำรองไฟให้ไม่เกินอยู่ที่ 25% พร้อมเจรจาลดการนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศ และสนับสนุนให้ประชาชนติดโซลาร์ในครัวเรือน เพื่อสามารถผลิตไฟใช้ได้เอง ซึ่งนอกจากจะสร้างความยั่งยืนแล้ว โซลาร์ยังเป็นพลังงานที่สะอาด ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย" นายรณกาจ กล่าว 

 

logoline