30 ธันวาคม 2565 นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตส.ส.กทม. ปชป. เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ช่วยเหลือประชาชนที่ถูกฉ้อโกงหลายปี กว่า 15 คดี ซึ่ง แชร์ลูกโซ่ มีหลายรูปแบบทั้งในแง่ของการ ลงทุนกับสหกรณ์ออมทรัพย์ การลงทุนทองคำ การลงทุนกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ การลงทุนกับ cryptocurrency การลงทุนเกี่ยวกับพลังงานการลงทุนเกี่ยวกับสินค้าเกษตร แม้แต่การลงทุนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่มีลักษณะ trade on trade หรือ ทุนต่อทุน คือ โดยมีการลงทุนต่อยอดในกิจการที่มีผลกำไร
โดยตนอยากฝากเตือนมายังพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับข้อสังเกต ที่เข้าข่ายการถูกหลอกลงทุน ที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ หรือ money game มีข้อสังเกต 5 ข้อดังนี้
1. มีลักษณะจูงใจให้ลงทุนทั้งสินค้าและบริการที่ต้องใช้อุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน โดยอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนที่สูงเกินร้อยละ 7 ขึ้นไป หรือให้ฝากเงินเทรดหุ้น ออมทรัพย์กับสหกรณ์ หรือบริษัทโดยให้ผลตอบแทนที่สูงเกิน 10% ขึ้นไป อาจเข้าข่ายมีความเสี่ยงเป็นการฉ้อโกงประชาชน
2. การลงทุนที่ไม่สามารถอธิบายในเชิงเศรษฐศาสตร์ได้ว่า สามารถมีผลกำไรตอบแทนจากการลงทุนนั้นได้อย่างไร เช่น อ้างว่าแค่กดไลค์ กดแชร์ให้ก็รับเงินได้
3. มีลักษณะเชิญชวนให้หาเครือข่าย หาสมาชิกมาลงทุนแล้วได้ ค่านายหน้าจากการชี้ชวนเป็นทอด ๆ
4. คนร้ายมักอวดอ้างภาพลักษณ์เป็นคนรวยใช้ชีวิตหรูหรา หรือสร้างภาพลักษณ์เกี่ยวกับการเป็นคนดีมี Connection กับผู้มีอำนาจในวงการต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในรูปแบบต่าง ๆ มีการจัดอีเว้นท์สร้างภาพลักษณ์
5. โอนให้ง่ายแต่ขอคืนยาก มีเงื่อนไขเยอะกว่าจะขอเงินคืน และถ้าเป็นช่วงท้ายก่อนจะหนีมักมีโปรโมชั่นจูงใจให้ลงก้อนใหญ่เพื่อให้ได้คืนทั้งต้นและกำไร
"กลุ่มเป้าหมายมักจะเป็นประชาชนที่สูงอายุ หรือเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่าย เพราะกลุ่มพวกนี้มักจะใช้ช่องทางในการโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดียซ้ำ ๆ หลายครั้ง จนเกิดจิตวิทยาหมู่ ในการหลงเชื่อและลงทุน ดังนั้นจึงอยากขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะว่าแต่ละคดีนั้นตามเงินคืนกลับมาด้วยความยากลำบากจริง ๆ" นายแทนคุณ ระบุ