"ไทยสร้างไทย" ชี้ รัฐขึ้นค่าไฟ ทำปชช.เดือดร้อนหนัก หลังสภาวะเศรษฐกิจถดถอย

30 ธันวาคม 2565 นายรณกาจ ชินสำราญ กรรมการบริหาร และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย กว่าถึงกรณีที่ กกพ. ประกาศขึ้นค่าไฟภาคธุรกิจ 61 สตางค์วานนี้ ว่า ต้นทุนค่าไฟฟ้าของภาคธุรกิจปรับขึ้นมาตลอดปี 65 และจะเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 13% จาก 4.61 บาท เป็น 5.33 บาท หลังปีใหม่นี้ โดยเรื่องนี้ไม่ใช่ของขวัญปีใหม่ของคนไทย เพราะต้นทุนค่าครองชีพจะพุ่งขึ้นต่อเนื่องในขณะที่ประชาชนรายได้เท่าเดิม และประเทศยังอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอย อีกทั้งผลกระทบของค่าไฟที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้ความสามารถในการแข่งขันในการผลิตสินค้าและบริการในประเทศลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

"เรื่องการบริหารจัดการค่าพลังงานในประเทศไทย ที่รับผิดชอบโดยรัฐบาล มีความสลับซับซ้อน ยากต่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไป มีการจัดการเอื้อประโยชน์สูงสุดให้เฉพาะบางกลุ่ม แม้ว่าจะปรับขึ้นค่าไฟในภาคธุรกิจ ไม่ปรับในภาคประชาชน แต่คนทำธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็กก็ยังเป็นประชาชนคนตัวเล็ก ที่ต้องแบกรับภาระในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น และสุดท้ายปลายสุดของห่วงโซ่ ประชาชนทุกคนก็ต้องแบกรับภาระทุกค่าใช้จ่ายจากข้าวของแพงอยู่ดี " นายรณกาจ กล่าว

นายรณกาจ กล่าวอีกว่า รัฐจำเป็นต้องแสดงความจริงใจ และต้องมุ่งเป้าไปที่เรื่องที่เป็นต้นเหตุที่แท้จริง คือ "การบริหารจัดการค่าพลังงานไฟฟ้าในไทย" ต่างหาก เพราะเมื่อเข้าไปดูไส้ใน จะเห็นว่ามีเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลจากรัฐอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าความพร้อมจ่าย (AP) ที่รัฐต้องจ่ายให้กับโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ ปีละหลายหมื่นล้าน โดยที่เอกชนไม่ต้องเดินเครื่องผลิต ยกตัวอย่างในปี 2565 จ่ายเงินให้เอกชนไปตั้งสองหมื่นกว่าล้านบาท ทำให้เอกชนมีกำไรสูงต่อเนื่อง แต่ประชาชนอ่อนแรงลงทุกวัน

"แม้แต่เรื่องการบริหารจัดการต้นทุนก๊าซธรรมชาติ (LNG) ที่เป็นต้นทุนหลักของการผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ของประเทศไทยและกำลังจะหมดจากอ่าวไทยแล้ว รัฐก็ยังไม่มีนโยบายการจัดซื้อ LNG ด้วยสัญญาระยะยาวที่ควบคุมราคาได้ ทำให้เกิดความผันผวนอย่างมากของต้นทุนก๊าซธรรมชาติ ที่รัฐใช้เป็นข้ออ้างมาตลอด" นายรณกาจ กล่าว