เปิดตัว “บิ๊กตู่” แคนดิเดตนายกฯ ขุมกำลังล็อตแรก “รทสช.” สู้ศึกเลือกตั้ง

รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)  เป็นพรรคการเมืองที่ “แรมโบ้ อีสาน”  นายเสกสกล อัตถาวงศ์ จดทะเบียนก่อตั้ง เป็นพรรคการเมือง เมื่อวันพุธที่ 31 มี.ค. พ.ศ. 2564  โดย  “รีโนแวท”  ครั้งใหญ่ เปลี่ยนโลโก้ เปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรค เติม “ที่ปรึกษาพรรค”  ซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองดัง เสริมทัพเตรียมลุยศึกเลือกตั้งปี 2566 

“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค”  อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปัจจุบันเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  “พีระพันธุ์” มานั่งเป็นหัวหน้าพรรครทสช. โปรไฟล์ก่อนหน้านี้ พีระพันธุ์ มีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้พิพากษา และข้าราชการตุลาการมาก่อน เข้าสู่แวดวงการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ ในเดือน ธ.ค. ปี 2562 พีระพันธุ์ ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดตัวเป็นข้าราชการการเมือง ที่ปรึกษาของ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วสลับมาเป็นเลขาธฺการนายกรัฐมนตรี กระทั่งได้รับการเรียกขานเป็น “นายกฯน้อย”

เมื่อ 4 เม.ย. 2565  “พีระพันธ์” ระบุว่า ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว จนกระทั่งมาเป็นนั่งเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ต่อมาวันที่ 3 ส.ค. 65 ที่ได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค พีระพันธุ์ ยังอุบชื่อ “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี”  แต่ภาพค่อนข้างชัดเจน “ พล.อ.ประยุทธ์” น่าจะอยู่ในลิสต์แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคนี้ เพราะเป็นแม่ทัพใหญ่มีบารมีเป็นที่ศรัทธาของเหล่า ส.ส. บรรดาคีย์แมนรทสช.ล้วนเชื่อฟังที่สำคัญสามารถสร้างความเชื่อถือแก่ปชช.เจ้าของคะแนนเสียง เกื้อหนุนการเลือกตั้งได้มากกว่า    

เลขาธิการพรรค “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์”  อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อีกคน ที่ลาออกจากพรรคเก่ามาสักพักใหญ่ก็ได้มาทำหน้าที่ “พ่อบ้าน” พรรคการเมืองเต็มตัว ที่น่าสนใจไม่น้อย “เหรัญญิกพรรครวมไทยสร้างชาติ”  กับการปรากฏตัวของทายาทอีกคนของจอมพลผิน ชุณหะวัณ หัวหน้าคณะทหารแห่งชาติ “ปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ”  บุตรของจอมพลผิน กับนางสุภาพ ชุณหะวัณ ขณะที่ นายทะเบียนพรรค เป็นการลงสนามการเมืองใหญ่ครั้งแรกของ “เกรียงยศ สุดลาภา”  อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สมัย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง 

นอกจากนี้ กรรมการบริหารพรรคอีก 5 คน ก็ล้วนเป็นที่คุ้นเคยของคนในแวดวงการเมืองพื้นที่ภาคใต้ ไล่เรียงจาก “วิทยา แก้วภราดัย”  อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงเกิด คดีฉาวของ “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” อดีตรองหัวหน้าพรรค

“ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง” อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน และอดีตเลขาธิการพรรครวมพลังประชาชาติไทย เสริมทัพ “ชื่นชอบ คงอุดม” ลูกชาย “ชัชวาลย์ คงอุดม” หรือ ชัช เตาปูน ชื่นชอบนั้นมีความสนิทสนมกับ “พีระพันธุ์” ตั้งแต่สมัยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ด้วยกัน “วิสุทธ์ ธรรมเพชร” ที่เคยมีข่าวย้ายจากประชาธิปัตย์ไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ สมัย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังเป็นเลขาธิการพรรค มาเปิดตัวอยู่กับรวมไทยสร้างชาติ  ทีมรุกคนสุดท้าย “เกชา ศักดิ์สมบูรณ์”  อดีต ส.ว.ราชบุรี  ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2565

ขณะที่ “ทีมกุนซือ” ได้รับความสนใจไม่น้อย  “ที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ”  มี “ปองพล อดิเรกสาร”  อดีตรองนายกรัฐมนตรีสมัย “ทักษิณ ชินวัตร”  และรัฐมนตรีหลายกระทรวง บุตรของ  “พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร” อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และ “ นพ.ปรีชา มุสิกุล”  อดีต ส.ส.กำแพงเพชร  อดีต รมช.สาธารณสุข อดีต รมช.วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็เคยเป็นสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมทีม “พีระพันธุ์” ด้วยเช่นกัน

23 ธันวาคม 2565  “บิ๊กตู่”  ประกาศชัดเปิดตัวเป็น “แคนดิเดตนายกฯ” พรรครวมไทยสร้างชาติ หลังอ้ำอึ้งมานาน พร้อมย้ำว่า พี่น้อง 3 ป.ไม่แตกสัมพันธ์พี่น้องทหาร ตัดกันไม่ขาด  แม้ “บิ๊กตู่”  อยู่ได้อีก 2 ปี “พีระพันธุ์” ย้ำว่า ไม่เป็นอุปสรรคกับรวมไทยสร้างชาติ เพราะการทำงานเพื่อบ้านเมืองไม่มีกำหนดเวลาว่า กี่ปี แต่เงื่อนไข 2 ปี คือ ห้ามเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ห้ามทำงานแบบอื่น หรืออยู่กับพรรคการเมือง หรือรับตำแหน่งใดๆ ที่สำคัญคนดีอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ 1 วันก็อยู่ได้ 

“ทีมข่าวเนชั่นออนไลน์” ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวรวมไทยสร้างชาติว่า กลุ่มที่ชัดเจนแล้วมาร่วมงาน “ชุมพร” ฐานเสียงสำคัญ “กลุ่มจุลใส”  ที่ผูกขาดการเมืองทั้งระดับชาติ ท้องถิ่นมานาน กลุ่มธรรมเพชร ในจังหวัดพัทลุง มีฐานเสียงเหนียวแน่น จะมาเป็นกองกำลังสำคัญ รวมทั้งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่แว่วมาว่า มีว่าที่ผู้สมัครส.ส.ที่มีฐานเสียงแข็งแกร่ง ในระดับท้องถิ่น ตอบตกลงจะร่วมหัวจมท้ายกับ “รทสช.”  นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีตส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ มีแนวโน้มสูงจะมาร่วมงานและลงสมัครส.ส.ตรัง แน่นอน

แนวโน้มกลุ่มที่คาดว่า น่าจะย้ายตาม “บิ๊กตู่”  เข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกอบด้วยกลุ่มส.ส.ภาคใต้ “พลังประชารัฐ” ที่คาดว่า น่าจะย้ายซบตาม “บิ๊กตู่” เช่น นายสายัณ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช นายศาสตรา ศรีปาน ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี นายพยม พรหมเพชร 

ภาคกลาง-กทม. นส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ และอาจได้ “กลุ่มสามมิตร” ของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน- สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ที่มีส.ส.ในกลุ่มมากกว่า 20 คน มาผนึกกำลังด้วย

กลุ่มเสี่ยเฮ้ง “สุชาติ ชมกลิ่น”  แกนนำกลุ่มชลบุรี 3-5 คน  จากโซนภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมถึงกลุ่มของ “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” ที่มีฐานอยู่ในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี

นอกจากยังมีกลุ่มของเสี่ยชัช-ชัชวาลล์ คงอุดม ที่พูดชัดเจน จะลาออกจากพรรคพลังท้องถิ่นไท มาร่วมงานกับ บิ๊กตู่ ยังไม่นับรวมกลุ่มที่ อยู่ในข่ายเตรียมผละออกจาก พรรคประชาธิปัตย์ พรรคขนาดกลาง ขนาดเล็กอีกหลายคน ที่จ่อเตรียมย้ายตามมา อีกเพียบ

ปิดบัญชีเบ็ดเสร็จรวมๆแล้ว รทสช.  น่าจะโกยส.ส.ได้เป็นกอบเป็นกำ พอสมควรในระดับ 15 บวกๆ มีความเป็นไปได้สูง ในรอบแรกของการเปิดดตัว “พล.อ.ประยุทธ์” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวกลับหวนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีย่อมมีความเป็นไปได้สูง..!!