svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ประกาศแล้ว! "บิ๊กตู่" จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ"รทสช."(มีคลิป)

23 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ประยุทธ์" ประกาศเอง! จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เพียงคนเดียว แจ้ง "บิ๊กป้อม" ทราบเรียบร้อยแล้ว ยัน ไม่แตกสัมพันธ์พี่น้องทหาร ตัดกันไม่ขาด

23 ธันวาคม 2565  ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนเป็นประธานในพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติของกระทรวงวัฒนธรรม  "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตั้งใจเดินมาหาสื่อมวลชนที่ดักรอสัมภาษณ์ระหว่างทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี เพื่อประกาศความชัดเจนทางการเมือง

ประกาศแล้ว! \"บิ๊กตู่\" จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ\"รทสช.\"(มีคลิป)

โดยกล่าวว่า วันนี้ทาง"พรรครวมไทยสร้างชาติ"ได้เสนอมาแล้ว ว่ายินดีสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ในการเลือกตั้งสมัยหน้า จึงจำเป็นต้องทำให้เกิดความชัดเจน เพื่อป้องกันการวิพากษ์วิจารณ์ที่ทำให้เกิดความเสียหายหลายอย่าง ซึ่งเคยบอกแล้วว่า ที่ผ่านมาตนเองได้รับการสนับสนุนจาก"พรรคพลังประชารัฐ" และในวันนี้"พรรคพลังประชารัฐ"มีการเสนอชื่อหัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไปแล้ว จึงได้ตัดสินใจวันนี้ก็แล้วกัน

"แต่จริงๆแล้วมีการเตรียมการไว้นานพอสมควรว่าจะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้สบายใจกันก็แล้วแต่ประชาชนว่าจะให้การสนับสนุนใครอย่างไร" 

"ผมต้องตัดสินใจแบบนี้ เพราะหลายอย่างที่ผมได้ทำไว้มาอย่างต่อเนื่องหลายปีที่ผ่านมา น่าจะได้มีการสานต่อ หากผมสามารถอยู่ได้ในระยะเวลาที่กำหนด ในระหว่างนั้นจะได้สานต่อในสิ่งที่ค้างคาและไม่สำเร็จ ยังมีปัญหาอยู่ จะแก้ไขปัญหาเหล่านั้น ในระยะเวลาที่ผ่านมาทั้ง 4 ปีแรกและ 4 ปีหลัง นายกรัฐมนตรีก็ทำงานมาอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงแรกจะเป็นรัฐบาลมาจากอย่างอื่นก็ตาม และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีการเสนอชื่อในวาระที่ 2 ได้มีการทำแผนงานโครงการทุกจังหวัดไม่ได้แบ่งแยกเป็นพื้นที่ของใคร ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ของฝ่ายรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ พื้นที่ไหนผมก็ไป"

พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

"นายกฯ" กล่าวว่า  แม้ว่าไปเชียงรายจะไม่มีส.ส.สักคนก็ยังไป เพราะมองประชาชนเป็นหลัก ขณะเดียวกัน ก็มองว่าส.ส.ทุกคนคือตัวแทนของราษฎรที่เลือกเข้ามา ตนรับได้อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ก็นำเสนอเข้าครม.เพื่อจัดสรร แต่ทุกอย่างต้องทำไปด้วยความโปร่งใส ตามขั้นตอน ตามกฎหมาย นั่นคือ สิ่งที่ยึดมั่นมาโดยตลอด และไม่คิดแสวงหาผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น และยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์แม้แต่เพียงเล็กน้อย 

เมื่อถามว่าได้มีการปรึกษากับ"พล.อ.ประวิตร"แล้วหรือไม่ เกี่ยวกับการตัดสินใจในครั้งนี้ "พล.อ.ประยุทธ์" กล่าวว่า ได้กราบเรียน "พล.อ.ประวิตร"ไปนานแล้วนานแล้วหลายครั้ง และครั้งสุดท้าย ตัดสินใจว่าตนเองมีความจำเป็น ซึ่ง"พล.อ.ประวิตร"ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกันทั้งสิ้น การเมืองว่ากันไปตามการเมือง ตามระบอบประชาธิปไตย

พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

 

"ผมไม่ได้จากไปไหน ยังพูดคุยกันอยู่เหมือนเดิม อย่าลืมว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทหารกับทหารด้วยกันลึกซึ้งกว่า อย่าลืมว่าผมจบมาก็อยู่ในการดูแลของท่าน อยู่ด้วยกันมาตลอดชีวิตรับราชการมา ความผูกพันตรงนี้ไม่มีใครลบล้างผมได้ ท่านเองรู้สึกเหมือนกันท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร การออกมาระบุถึงความชัดเจนดังกล่าว เพื่อความสบายใจเพราะมีแรงกดดันมากมายหลายประการ ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้ว และผมต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนวันและเวลานั้นจะต้องมีการกำหนดให้ชัดเจนก่อน" นายกฯ ตอบคำถามว่าเป็นการจากกันด้วยดีกับ"พล.อ.ประวิตร" ใช่หรือไม่ 

 

ส่วน"พล.อ.ประยุทธ์" จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ เพียงคนเดียวใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้มีตนเองเพียงคนเดียวหล่ะมั้ง 

 

เมื่อถามต่อว่า อีก 2 ปีข้างหน้า หลังจากสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี นั้น "พล.อ.ประยุทธ์" กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปถามถึงตอนนั้นเลย "ถามโน้น ถามนี่ ถามโน้นไปนี่ ถามไปเรื่อย แล้วจะตอบอย่างไรเล่า"

 

เมื่อถามว่าจะจับมือกับ"พล.อ.ประวิตร" ในทางการเมืองหรือไม่ "นายกรัฐมนตรี" กล่าวว่า นั่นเป็นอีกเรื่องไม่ใช่หรือ ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งประชาชนจะเลือกใครเข้ามาก็ยังไม่รู้เลย ถึงเวลานั้นภาษาการเมืองเรียกว่าการจับขั้วทางการเมือง ใครจะเป็นฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล เหมือนกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

 

เมื่อถามว่าการประกาศในครั้งนี้ถือเป็นการสู้ศึกการเลือกตั้งในครั้งหน้าใช่หรือไม่ "นายกรัฐมนตรี" กล่าวว่า ขนาดนี้ยังไม่ชัดไม่ชัดอีกหรือ ส่วน ครอบครัวให้การสนับสนุนหรือไม่ ซึ่งก็เข้าใจว่าทำเพื่ออะไร

 

ส่วนนายกรัฐมนตรีจะทำการเมืองเองเลยหรือไม่ "พล.อ.ประยุทธ์" กล่าวว่า เขามีหัวหน้าพรรคอยู่แล้วไม่ใช่หรือ หัวหน้าพรรคเขาก็ทำ แต่จะต้องคุยกันว่าสิ่งใดที่รัฐบาลนี้ได้ทำไว้ คงจะต้องสานต่อในอนาคต อย่างมั่นคงยั่งยืนไม่ใช่ผิวเผิน ไม่ใช่นโยบายที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งต้องดูว่าสามารถทำได้หรือไม่ด้วย หากให้โน่นให้นี่จะนำเงินมาจากที่ใด โดยใน 4 ปีแรกและ 4 ปีหลังได้พยายามหารายได้เข้าประเทศ เพราะเราต้องดูแลประชาชนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เป็นภาระ และมีกฎกติกาชัดเจน และย้ำว่าเรามีโอกาสอีกเยอะ ขออย่าท้อแท้ทะเลาะเบาะแว้งกัน ถ้าเราเอาชนะท้าทายกันขัดแย้งกันก็กลับที่เดิมหมด และยืนยันว่าจะพยายามทำให้บ้านเมืองสงบสุขมากที่สุด 

 

"พล.อ.ประยุทธ์" กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทุกอย่างต้องมีหลักคิด ว่าจะทำอย่างไรเลือกใคร เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกพรรคการเมืองเลือก ส.ส. ตนเองมองว่าไม่ใช่แค่นายกรัฐมนตรี เพราะเมื่อได้เสียงมาต้องมาจับขั้ว ใครได้มากก็เป็นฝ่ายรัฐบาล นายกฯที่เขาเสนอชื่อไปก็ได้เป็นนายก นี่เป็นเรื่องของอนาคตอยู่แล้วไม่มีอะไรแน่นอน แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

"ครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่มีความสำคัญที่สุดขอให้คิดไตร่ตรองให้รอบคอบ มีเหตุมีผลมีหลักคิด หากอยากได้โน่นได้นี่เกินขีดความสามารถของรัฐบาล เกินขีดความสามารถของงบประมาณที่มีอยู่จะเดือดร้อน ประเทศชาติจะเสียหาย ขอให้คิดให้ดี เพราะมีประโยชน์โดยรวม สามารถเฉลี่ยใช้จ่ายเงินที่ดี นายกฯใช้หลักการนี้บริหารจัดการไปโดยตลอดหลายๆอย่างก็ดีขึ้นหลายอย่าง เจอปัญหาประสบปัญหา แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โดยรอบด้วย" 

 

"วันนี้ก็จำเป็นต้องพูด เพราะเกรงว่าหากไม่พูดจะไปกันเรื่อย วิพากษ์วิจารณ์กันไปเรื่อยๆ และผมตัดสินใจแล้ว อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณพรรคพลังประชารัฐในการสนับสนุนผมเป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งที่ผ่านมา เราไม่ใช่ศัตรูกัน"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

เมื่อถามย้ำ ถึงอนาคตทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีมีความชัดเจนแล้ว อนาคตของรัฐบาลจะมีการยุบสภาในเวลาใดนั้น "พล.อ.ประยุทธ์" กล่าวว่า เคยบอกไปแล้วว่า ขณะนี้มีหลายปัญหาที่ยังต้องดำเนินการอยู่ ฉะนั้นต้องดูจากเวลา  แต่อย่างไรก็ตามเป็นไปตามกฎหมายกกต. การย้ายพรรคอะไรต่างๆต้องดูไม่ให้มีปัญหา ต้องหารือกันกับฝ่ายการเมืองกับพรรคใหม่อะไรด้วย และความพร้อมของพรรครัฐบาลด้วย

 

"พล.อ.ประยุทธ์"  กล่าวว่า งานหลักของนายกฯคือดูแล ชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ และประชาชน นี่คืองานของนายกฯ ในการยืนอยู่ตรงนี้ ซึ่งเคยบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าที่เข้ามาด้วยเหตุผลอะไรความจำเป็นคืออะไรทุกคนก็ทราบอยู่แล้วหรือลืมไปหมดแล้ว ลืมไปหมดแล้ว ขณะเดียวกันก็มีคนมาพูดจาเสียหาย มาตำหนิตนเรื่องโน้นเรื่องนี้ ลืมไปแล้วหรือไม่ว่าท่านทำความเสียหายอะไรไปบ้าง ตนเองเข้ามาพยายามแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ดีขึ้น แต่ยังคงมีปัญหาอยู่ด้วยความเข้าใจ ด้วยการเจริญเติบโตทางเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้อะไรหลายๆอย่างควบคุมลำบาก ถ้าเราใช้อะไรที่มันเด็ดขาดเกินไปก็ลำบากเหมือนกัน 

 

"ขอให้ทำความเข้าใจด้วยว่าทั้งหมดหากท่านได้รัฐบาล ผมไม่ขออ้างถึงผม ขอให้ได้รัฐบาลที่ดีๆซื่อสัตย์สุจริต แล้วทำในสิ่งที่เป็นไปได้และทำในสิ่งที่ถูกต้อง ในส่วนที่มีคดีความว่ากันไป ผมเองก็มีนโยบายอยู่แล้วในการสั่งงานทุกครั้ง ทุกอย่างต้องทำในความสุจริตโปร่งใสเป็นธรรม ผมไม่อยากให้หน่วยงานราชการมาเดือดร้อนด้วยจึงต้องระมัดระวังมากที่สุด  การจะให้อะไรก็ตามต้องคำนึงถึงงบประมาณเป็นส่วนสำคัญที่สุด ว่าจะนำงบประมาณมาจากไหน  ทำไมผมจะไม่อยากให้ แต่ให้แล้วจะพอหรือไม่ หลายๆอย่างจะให้เท่านู้นเท่านี้คน ผมถามว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ ผมไม่ได้ว่าใคร รายหัวเท่าโน้นเท่านี้เราใช้งบประมาณในส่วนนี้ดูแลประชาชน ในสาธารณูปโภคพื้นฐานเป็นจำนวนมาก การใช้จ่ายเงิน หลายคนบอกว่าทำอย่างไรทำไมจะรวยเท่ากันไม่ได้มันเป็นไปไม่ได้หรอกในโลกใบนี้"

 

"เพราะฉะนั้นอยู่ที่เราจะพัฒนาได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่รัฐบาลหน้าหรือรัฐบาลไหนใครเป็นก็ตาม น่าจะต้องทำแบบนี้ เข้าใจหรือไม่ ไม่สร้างภาระ ที่รัฐบาลกู้เงินมา นายกฯอยากกู้หรือไม่ ในเมื่อเงินไม่พอเงินไม่มี แล้วเงินกู้ทั้งหมดเอามาทำอะไร ดูแลเรื่องวัคซีนเรื่องยาการรักษาพยาบาล ดูแลภาคธุรกิจเป็นกลุ่มๆ เท่าที่จะสามารถให้ได้มากน้อย ฟื้นฟูเศรษฐกิจ เงินผมไม่ได้เอามาใช้ส่วนตัวสักบาทเข้าใจหรือยัง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

"พล.อ.ประยุทธ์" กล่าวว่า ไม่ให้อยากฟังแล้ววิพากษ์วิจารณ์ไปเรื่อยเปื่อยทุกเรื่อง เห็นใจประเทศของเรากันเองบ้าง นี่คือประเทศของเรา ถ้าแตกแยกกันอยู่อย่างนี้ ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยวันนี้ ผมจำเป็นต้องพูดเพราะดูแล้วแรงขึ้นทุกวัน เราต้องค่อยๆลดระดับอุณหภูมิลงเพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งที่มีประสิทธิภาพมีคุณภาพ ผมไม่ได้ว่าใครไม่ดี หากได้ส.ส. ดีเข้ามาจะฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลได้นายกฯ ที่ท่านต้องการ ซึ่งไม่ได้ยืนยันว่าต้องเป็นผมตลอดไปเสียหน่อย ขึ้นอยู่กับประชาชนจะเลือกหรือไม่เลือก เพียงแต่วันนี้ไม่อยากให้โจมตีกันไปกันมาเสียหายจะเห็นได้ว่าตนเองก็รักษามารยาทเต็มที่กับทุกท่าน โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ เมื่อเขาเสนอพล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาครั้งที่แล้ว 

พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาดโหม

"เมื่อวันนี้เขาเปิดแคนดิเดตของพรรคเขา ผมจำเป็นต้องพูดแบบนี้ เพื่อที่จะได้เลิกสับสนอลหม่านเสียที เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ช่วงนี้ขอให้ บ้านเมืองสงบจะได้เลือกตั้งได้ ให้คนมีเวลาคิดกับสิ่งที่สร้างสรรค์ ในสิ่งที่เป็นไปได้หรือควรจะเป็น นี่คือสิ่งที่ปัญหาของเราอย่างเดียว เรามีความพร้อมทุกอย่าง หากเรานำพาประเทศไปในทางที่ถูกต้อง ไปในทางที่ดีงามสุจริตโปร่งใสประเทศไทยก็ไม่น้อยหน้าใครทั้งสิ้น หลายอย่างเราปรับแก้ไปแล้วกรุณาให้ความสนใจด้วย ทั้งระเบียบวิธีการกฎหมายต่างๆ จึงเกิดงานได้ แต่ก็ยังมีอีกเยอะที่ต้องทำต่อ ถ้าผมไม่อยู่ ต้องฝากคนใหม่ทำไป แต่ขึ้นอยู่กับท่านจะทำหรือไม่ทำผมไม่รู้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีจะเข้าไปอยู่ในกรรมการบริหาร"พรรครวมไทยสร้างชาติ" ด้วยหรือไม่ "พล.อ.ประยุทธ์" กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดตรงนั้น และเมื่อถามย้ำถึงวันที่จะไปสมัครสมาชิก"พรรครวมไทยสร้างชาติ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เอาล่ะ อย่าถามมาก"

 

ส่วนการที่ตั้ง"นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค" หัวหน้า"พรรครวมไทยสร้างชาติ" เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีถือเป็นความชัดเจนทางการเมืองอีกแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่เกี่ยว เขาทำงานกับผมอยู่แล้ว ไม่ได้มองการเมืองอย่างเดียวหรอก"

logoline