
KEY
POINTS
ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มค่ำคืนวันพุธนี้ น่าจะเป็นอีกเกมที่แฟนบอลทั่วโลกจับตามอง เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 7 ของตารางลีกเฟส เปิดรังเอติฮัด สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมอันดับ 6 จากเยอรมนี โดยเวลานี้ทั้งสองทีมเก็บไปแล้ว 7 คะแนนจาก 3 นัดแรกเท่ากัน แต่ “เสือเหลือง” นำหน้าเพราะมีผลต่างประตูที่ดีกว่าเล็กน้อย
ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังเดินหน้าในเส้นทางยุโรปอย่างมั่นคง โดยเจอคู่แข่งระดับท็อปอย่าง นาโปลี, โมนาโก และบียาร์เรอัล แต่ยังสามารถเก็บได้ถึง 7 คะแนนจากการชนะ 2 นัด เสมอ 1 นัด โดยเกมรุกทำได้ 6 ประตูจาก 3 นัด ถือว่าน้อยที่สุดในบรรดาทีม 12 อันดับแรก แต่ก็เพียงพอให้พวกเขาอยู่ในเส้นทางเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยตรง
หลังความพ่ายแพ้สุดเจ็บปวดต่อ แอสตัน วิลล่า ในพรีเมียร์ลีก “เรือใบสีฟ้า” กลับมาคืนฟอร์มด้วยการชนะ สวอนซี ซิตี้ และ บอร์นมัธ ด้วยสกอร์ 3-1 ทั้งสองเกม โดย เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กลับมาระเบิดฟอร์มอีกครั้ง ยิงสองประตูในเกมล่าสุด ทำให้เขากลายเป็นนักเตะเพียงไม่กี่คนที่ทำประตูในพรีเมียร์ลีกแตะหลักร้อยได้เร็วที่สุด
ชัยชนะเหนือทีมเยอรมันยังเป็นอีกจุดแข็งของซิตี้ โดยพวกเขาชนะรวด 11 นัดหลังสุดที่เล่นในบ้านกับทีมจากบุนเดสลีกา และไม่เคยแพ้ ดอร์ทมุนด์ ที่เอติฮัดเลยสักครั้ง
ฝั่ง "เสือเหลือง" ของ นิโก โควัช กำลังอยู่ในช่วงที่เกมรุกดุดันที่สุดในยุโรป พวกเขายิง 4 ประตูต่อเกม ตลอดสามนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม เริ่มจากเสมอ ยูเวนตุส 4-4, ถล่ม แอธเลติก บิลเบา 4-1 และบุกชนะ โคเปนเฮเกน 4-2 โดยได้สองประตูจาก เฟลิกซ์ เมช่า และสองแอสซิสต์จาก โจ๊บ เบลลิงแฮม
นี่คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่ดอร์ทมุนด์ยิงได้ 4 ลูกติดต่อกันสามนัดในถ้วยยุโรป รวมเป็น 12 ประตู ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับสองร่วมกับ บาเยิร์น มิวนิค และตามหลัง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เพียงประตูเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผลงานในลีกกลับต่างออกไป พวกเขายิงได้เพียงลูกเดียวในสามเกมหลัง (ชนะ โคโลญจน์, ชนะ แฟรงก์เฟิร์ต และชนะ เอาก์สบวร์ก ด้วยสกอร์ 1-0 ทั้งหมด โดยเกมกับแฟรงก์เฟิร์ตต้องต่อเวลาจนถึงดวลจุดโทษในเดเอฟเบ โพคาล)
แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เคยขาดคือ “การยิงประตูในเกมเยือน” เพราะดอร์ทมุนด์ทำประตูได้ทุกนัดในฐานะทีมเยือนของฤดูกาลนี้ รวมถึงทั้งสามครั้งที่บุกมาเอติฮัด แม้จะจบด้วยความพ่ายแพ้ 1-2 ทั้งสองหนก่อนหน้านี้ในปี 2021 และ 2022
ฝั่งเจ้าบ้าน แมนฯ ซิตี้ ได้รับข่าวดีเมื่อทั้ง ฮาลันด์ และ โรดรี เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 2024 ฟิตสมบูรณ์และมีส่วนร่วมในเกมลีกล่าสุด ขณะที่ มาเตโอ โควาซิช ยังต้องพักยาวจากอาการเจ็บข้อเท้า ส่วน แบร์นาร์โด ซิลวา ต้องระวังเรื่องใบเหลือง เพราะหากโดนอีกครั้งจะถูกแบนหนึ่งนัดในเกมถัดไป
ฮาลันด์ซึ่งถูกถอดออกก่อนทำแฮตทริกในเกมวันอาทิตย์ เตรียมกลับมาเจอทีมเก่าอีกครั้ง โดยดอร์ทมุนด์เป็นสโมสรที่เขายิงไว้ถึง 86 ประตูจาก 89 นัด และเจ้าตัวยังเป็นคนยิงประตูชัยให้ซิตี้ชนะดอร์ทมุนด์ 2-1 ในเกมปี 2022 อีกด้วย
ขณะเดียวกัน ดอร์ทมุนด์ เจอข่าวร้ายเมื่อกัปตันทีม ยูเลียน บรันด์ท มีอาการกล้ามเนื้อฉีกต้องพัก ส่วน นิคลาส ซือเล ยังไม่ฟื้นจากอาการเจ็บนิ้วเท้า แต่ นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค พร้อมคืนสนามอีกครั้ง ขณะที่ดาวรุ่ง ฌูเลียง ดูร็องวิลล์ เริ่มกลับมาซ้อมกับทีมชุดยู-23 แล้ว
คาดว่า ชล็อตเตอร์เบ็ค จะได้ลงตัวจริงแทนที่ อารอน อันเซลมิโน (กองหลังที่ยืมมาจากเชลซี) ส่วนแดนกลาง โจ๊บ เบลลิงแฮม น่าจะได้โอกาสลงสนามแทน ปาสกาล กรอสส์ หลังโชว์ฟอร์มสุดเด่นในเกมกับโคเปนเฮเกน
-----
คืนวันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2025