
KEY
POINTS
ไบรอัน เอ็มเบอโม่ วัย 25 ปี ได้เซ็นสัญญาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นระยะเวลา 5 ปี ไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2030 พร้อมพ่วงออปชั่นขยายสัญญาเพิ่มอีก 12 เดือน ตามรายงานของ The Athletic เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดีลนี้มีมูลค่ารวมสูงถึง 71 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3.2 พันล้านบาท) โดยแบ่งเป็นค่าตัวเริ่มต้น 65 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.9 พันล้านบาท) ซึ่งจะทยอยจ่าย 4 งวด และมีโบนัสตามผลงานสูงสุดอีก 6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 270 ล้านบาท)
การเจรจาคว้าตัว เอ็มเบอโม่ ใช้เวลานานหลายสัปดาห์ เนื่องจากเบรนท์ฟอร์ดต้องการค่าตัวที่สูงกว่า 62.5 ล้านปอนด์ที่แมนฯ ยูไนเต็ดจ่ายให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เพื่อคว้าตัว มาเธอุส คุนญ่า ไปก่อนหน้านี้ในตลาดซื้อขายเดียวกัน โดยข้อเสนอแรกของยูไนเต็ดที่ 45 ล้านปอนด์ บวกโบนัส 10 ล้านปอนด์ถูกปฏิเสธ เช่นเดียวกับข้อเสนอครั้งที่สองที่ 55 ล้านปอนด์ บวกโบนัส 7.5 ล้านปอนด์
แม้จะมีสโมสรชั้นนำอย่าง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์, อาร์เซนอล และ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ให้ความสนใจในตัวเอ็มเบอโม่ แต่ตัวนักเตะเองมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะย้ายมาร่วมทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสโมสรที่เขาตามเชียร์มาตั้งแต่เด็ก ตามที่ The Athletic รายงานเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน
เอ็มเบอโม่กล่าวถึงการย้ายทีมครั้งนี้ว่า "ทันทีที่ผมรู้ว่ามีโอกาสได้ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมต้องคว้าโอกาสในการเซ็นสัญญากับสโมสรในฝัน ทีมที่ผมใส่เสื้อตอนโตขึ้นมา"
"ความคิดของผมคือการเป็นคนที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน ผมรู้ว่าผมมีจิตวิญญาณและบุคลิกที่จะก้าวไปอีกระดับที่นี่ ได้เรียนรู้จาก (หัวหน้าโค้ช) รูเบน อโมริม และได้เล่นเคียงข้างนักเตะระดับโลก" เขากล่าวเสริม "ทุกคนเล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่กำลังถูกสร้างขึ้นที่นี่ และแผนการที่น่าตื่นเต้นสำหรับอนาคต นี่คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ มีสนามที่น่าทึ่ง และแฟนบอลที่ยอดเยี่ยม พวกเราทุกคนมุ่งมั่นอย่างแท้จริงที่จะท้าทายเพื่อถ้วยรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"
ด้าน เจสัน วิลค็อกซ์ ผู้อำนวยการฟุตบอลของแมนฯ ยูไนเต็ด กล่าวชื่นชมว่า "สถิติการทำประตูและแอสซิสต์ของไบรอันในพรีเมียร์ลีกนั้นยอดเยี่ยมมาก ความสม่ำเสมอที่โดดเด่นของเขาทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในอังกฤษตลอดสามฤดูกาลที่ผ่านมา"
"ความเชื่อมั่นของไบรอันในโครงการของเรา และความมุ่งมั่นที่จะย้ายมาร่วมสโมสร ยืนยันว่าเขาเหมาะสมอย่างยิ่งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และวัฒนธรรมที่เรากำลังพัฒนาอยู่" วิลค็อกซ์เสริม "เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้คว้าตัวเป้าหมายหลักอีกคนของเราก่อนทัวร์ปรีซีซั่น ประสบการณ์ในสหรัฐอเมริกาจะเป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบสำหรับไบรอันในการทำงานร่วมกับรูเบนและเพื่อนร่วมทีมใหม่ของเรา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลที่น่าตื่นเต้นข้างหน้า"
ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ถือเป็นการเซ็นสัญญาในแนวรุกคนที่สามของยูไนเต็ดในฤดูร้อนนี้ ต่อจาก มาเธอุส คุนญ่า และ เอ็นโซ่ คานา-บิยิก กองหน้าดาวรุ่งวัย 18 ปี ซึ่งจะถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นกับ ลูซานน์-สปอร์ต ในสวิสซูเปอร์ลีกในฤดูกาลหน้า
จากการวิเคราะห์ของ เจย์ แฮร์ริส นักข่าวฟุตบอลผู้เชี่ยวชาญของ The Athletic เอ็มเบอโม่ได้พัฒนาจากปีกที่มีพรสวรรค์แต่ยังขาดความสม่ำเสมอ มาเป็นผู้เล่นที่อันตรายในการทำประตูอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเวลาที่อยู่กับเบรนท์ฟอร์ด เขาได้เล่นในหลายตำแหน่งในแนวรุก รวมถึงกองหน้าตัวสนับสนุนของ ไอแวน โทนี่ย์ ในแผนกองหน้าสองคน แต่ก็ทำผลงานได้ดีที่สุดในตำแหน่งปีกขวา
เอ็มเบอโม่มีสไตล์การเล่นที่ชอบตัดเข้าในด้วยเท้าซ้ายเพื่อยิงประตูหรือเปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ และเคยถูก โธมัส แฟรงค์ อดีตกุนซือเบรนท์ฟอร์ด ใช้เป็นวิงแบ็คขวาเชิงรุกในบางโอกาสเมื่อทีมต้องการประตู
ช่วงฤดูกาลแรกของเบรนท์ฟอร์ดในพรีเมียร์ลีก เอ็มเบอโม่ยิงได้เพียง 4 ประตูจากค่า xG (expected goals) ที่ 9.5 และยิงชนเสาชนคานถึง 7 ครั้ง ซึ่งบ่งบอกถึงความผิดพลาดในการตัดสินใจหน้าปากประตู อย่างไรก็ตาม ด้วยการฝึกซ้อมอย่างหนัก เขาก็ได้พัฒนาเป็นผู้เล่นที่จบสกอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในฤดูกาล 2023-24 เขาทำไป 7 ประตูและ 4 แอสซิสต์จากการลงสนาม 15 นัด ก่อนจะได้รับบาดเจ็บเอ็นข้อเท้าต้องเข้ารับการผ่าตัดในเกมที่แพ้ไบรท์ตัน แต่เขาก็กลับมาคืนฟอร์มเก่งในฤดูกาลที่แล้ว โดยทำได้ถึง 20 ประตูในลีก
นอกจากนี้ เอ็มเบอโม่ยังมีสถิติการยิงจุดโทษที่ยอดเยี่ยม โดยพลาดเพียงครั้งเดียวจากการยิงทั้งหมด 12 ครั้งให้กับเบรนท์ฟอร์ด เขายังเป็นผู้เล่นที่วิ่งทำทางเพื่อทีมได้อย่างไม่เห็นแก่ตัว และทำงานหนักในยามไม่มีบอล ความพร้อมด้านร่างกายของเขาก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ดีสำหรับยูไนเต็ด เนื่องจากเขาพลาดการลงสนามไปเพียง 16 เกมตลอดสี่ฤดูกาลในพรีเมียร์ลีกกับเบรนท์ฟอร์ด
การคว้าตัวเอ็มเบอโม่ของยูไนเต็ดเป็นการได้นักเตะที่มีคุณภาพซึ่งผ่านการพิสูจน์แล้วในพรีเมียร์ลีก และสมควรได้รับโอกาสในสโมสรที่ใหญ่ขึ้น แม้เบรนท์ฟอร์ดจะเสียดาย แต่พวกเขาก็เคยอยู่ในสถานการณ์นี้หลายครั้งแล้วกับการจากไปของ คริสเตียน อีริคเซน, ไอแวน โทนี่ย์ และ ดาบิด ราย่า โดยการขายเอ็มเบอโม่ครั้งนี้ได้สร้างสถิติค่าตัวสูงสุดของสโมสรเบรนท์ฟอร์ด ซึ่งสูงกว่าสถิติเดิมที่ ไอแวน โทนี่ย์ ย้ายไป อัล-อาห์ลี ในซาอุดีโปรลีก เมื่อปีที่แล้วด้วยค่าตัว 33.6 ล้านปอนด์
เอ็มเบอโม่ ลงสนามให้กับเบรนท์ฟอร์ดไปทั้งหมด 242 นัด นับตั้งแต่ย้ายมาจากสโมสร ทรัวส์ ในฝรั่งเศสเมื่อปี 2019 โดยทำไป 70 ประตู และ 51 แอสซิสต์ในทุกรายการแข่งขัน