
ลูก้า โมดริช กองกลางวัย 39 ปี โพสต์บนอินสตาแกรมว่าเขาจะลงเล่นเกมสุดท้ายในถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว วันเสาร์นี้ ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของศึกลาลีกา ฤดูกาล 2024-25 ที่ทีมจะเปิดบ้านพบ เรอัล โซเซียดาด
โมดริชยังระบุในข้อความว่า เขาจะร่วมทีมในศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน ถึง 13 กรกฎาคม ก่อนอำลาอย่างสมบูรณ์
แม้ความตั้งใจหลักของเขาคือการอยู่กับสโมสรต่อไป แต่หลังจากการเจรจาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายก็ตัดสินใจแยกทาง
และนี่คือข้อความจากความรู้สึกของยอดมิดฟิลด์รายนี้:
"ถึงแฟนมาดริดิสต้าที่รักทุกคน
เวลานั้นมาถึงแล้ว... เวลาที่ผมไม่เคยอยากให้มาถึงเลย แต่ฟุตบอลก็เป็นเช่นนี้ และในชีวิต ทุกสิ่งมีจุดเริ่มต้นและจุดจบ... วันเสาร์นี้ ผมจะลงเล่นนัดสุดท้ายที่ซานติอาโก เบร์นาเบว
ผมย้ายมาที่นี่ในปี 2012 ด้วยความฝันที่จะได้สวมเสื้อของทีมที่ดีที่สุดในโลก และความมุ่งมั่นที่จะสร้างสิ่งยิ่งใหญ่ แต่ผมไม่เคยจินตนาการได้เลยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตามมา
การได้เล่นให้กับเรอัล มาดริด เปลี่ยนชีวิตผมไปทั้งในฐานะนักฟุตบอลและในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง
ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดช่วงหนึ่งของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ผมขอขอบคุณสโมสรจากใจจริง โดยเฉพาะท่านประธาน ฟลอเรนติโน่ เปเรซ, เพื่อนร่วมทีม, โค้ช และทุกคนที่ให้การสนับสนุนผมตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา
ตลอดหลายปีนี้ ผมได้สัมผัสกับช่วงเวลาที่น่าเหลือเชื่อ การกลับมาที่แทบเป็นไปไม่ได้, นัดชิงชนะเลิศ, การเฉลิมฉลอง และค่ำคืนอันมหัศจรรย์ที่เบร์นาเบว... พวกเราคว้ามาทุกถ้วย และผมมีความสุขมาก… มากจริงๆ
แต่เหนือสิ่งอื่นใด มากกว่าถ้วยรางวัลและชัยชนะ ผมจะจดจำความรักของแฟนมาดริดิสตาทุกคนไว้ในหัวใจ ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงถึงสายใยพิเศษที่ผมมีต่อพวกคุณ ความรู้สึกที่ได้รับการสนับสนุน ได้รับความเคารพ และได้รับความรักที่ผมรู้สึกมาตลอด – ผมจะไม่มีวันลืมเสียงปรบมือทุกครั้ง และทุกการแสดงออกของความรักที่พวกคุณมีให้ผม
ผมจากไปพร้อมหัวใจที่เต็มเปี่ยม เต็มไปด้วยความภูมิใจ ความซาบซึ้ง และความทรงจำที่ไม่มีวันลืม และแม้ว่าหลังจบศึกชิงแชมป์สโมสรโลก ผมจะไม่ได้สวมเสื้อตัวนี้ลงสนามอีกต่อไป แต่ผมจะเป็นมาดริดิสต้าเสมอ
เราจะได้พบกันอีก เรอัล มาดริดจะเป็นบ้านของผมตลอดไป"
นับตั้งแต่ย้ายจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์มาเมื่อปี 2012 โมดริชลงเล่นให้ เรอัล มาดริด ไปแล้ว 590 นัด ยิงได้ 43 ประตู และคว้าแชมป์ถึง 26 รายการ ซึ่งรวมถึงแชมป์ลาลีกา 4 สมัย และแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกอีก 6 สมัย
หลังคว้าแชมป์ยุโรปในปี 2017-18 และนำโครเอเชียเข้าชิงฟุตบอลโลกปี 2018 โมดริชกลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่แย่งรางวัลบัลลงดอร์มาครองได้จากคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และลิโอเนล เมสซี นับตั้งแต่กาก้าในปี 2007
ในปี 2024 โมดริชยอมลดค่าเหนื่อยเพื่อต่อสัญญากับทีมอีกหนึ่งปี แม้บทบาทในสนามจะลดลงโดยมักถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองก็ตาม
จำนวนแชมป์ 26 รายการของเขาเทียบเท่ากับ นาโช่ เฟร์นานเดซ ที่อำลาทีมไปซาอุดิอาระเบียเมื่อปีก่อน โมดริชยังทำลายสถิติของเฟเรนซ์ ปุสกัส ด้วยการเป็นผู้เล่นอายุมากที่สุดที่ลงเล่นให้มาดริดในลาลีกา และยังกลายเป็นผู้ทำประตูอายุมากที่สุดของทีมเมื่อยิงประตูในวัย 39 ปี 116 วัน ในเกมชนะบาเลนเซีย 2-1
โมดริชถือเป็นผู้เล่นที่รับใช้ทีมในลาลีกายาวนานเป็นอันดับ 3 รองจาก ออสการ์ เด มาร์กอส ของแอธเลติก บิลเบา และโกเก้ ของแอตเลติโก มาดริด
ฤดูกาลนี้เขาลงเป็นตัวจริง 23 นัด และสำรอง 25 นัดรวมทุกรายการ แต่ทีมกลับจบฤดูกาลโดยไร้ถ้วยรางวัลใหญ่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ฤดูกาล 2020-21 โดยการอำลาของโมดริชยังเกิดขึ้นพร้อมกับการจากไปของกุนซือคาร์โล อันเชล็อตติ ซึ่งเตรียมไปคุมทีมชาติบราซิล