
จากกรณีเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ซาฟารีเวิลด์ วัย 58 ปี ถูกฝูงสิงโตรุมขย้ำเสียชีวิต ต่อหน้านักท่องเที่ยวจำนวนมาก เมื่อวันที่ 10 ก.ย.68
ล่าสุด ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เผยผลชันสูตรศพเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ถูกสิงโตรุมทำร้าย สาเหตุเสียชีวิตหลักๆ มี 3 บาดแผลใหญ่ กระดูกหักต้นคอ หลอดลมฉีก ต้นขาฉีกขาด ทำให้เส้นเลือดแดง และเส้นเลือดดำฉีกขาด แต่อวัยวะยังอยู่ครบไม่ได้ถูกกิน
11 กันยายน 2568 เปิดพฤติกรรม "เสือ-สิงโต" ล่าเหยื่อยังไง
ทำไม "เสือ-สิงโต เวลาล่าเหยื่อจะกัดที่คอเป็นอันดับแรก
สาเหตุที่การกัดคอมีประสิทธิภาพสูงเพราะ?
หลอดลม: การกัดที่คอจะทำให้หลอดลมของเหยื่อถูกกดทับหรือฉีกขาด ทำให้เหยื่อหายใจไม่ออกและขาดอากาศ ซึ่งนำไปสู่การตายอย่างรวดเร็ว
เส้นเลือดใหญ่: ที่คอมีเส้นเลือดใหญ่ที่ลำเลียงเลือดไปเลี้ยงสมอง การกัดทำให้เส้นเลือดเหล่านี้ถูกทำลาย ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้และทำให้สมองตายในที่สุด
กระดูกสันหลังส่วนคอ: การกัดที่คออย่างรุนแรงสามารถหักกระดูกสันหลังส่วนคอได้ ทำให้ไขสันหลังได้รับความเสียหายและเหยื่อเป็นอัมพาตทันที ซึ่งเป็นการหยุดการเคลื่อนไหวและทำให้เหยื่อไม่สามารถต่อสู้ได้
นอกจากนี้ การกัดคอของเหยื่อยังเป็นสัญชาตญาณที่สืบทอดกันมาของนักล่าเหล่านี้ เพื่อใช้พลังงานในการล่าน้อยที่สุดและลดความเสี่ยงที่นักล่าจะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับเหยื่อด้วยครับ
พฤติกรรมสิงโตและเสือในการล่าเหยื่อนั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
สิงโต (Lion)
สิงโตเป็นสัตว์สังคม มักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงที่เรียกว่า "Pride" การล่าของสิงโตจึงเป็นการทำงานร่วมกันเป็นทีม ตัวเมียจะเป็นผู้ล่าหลักในฝูง โดยใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า การซุ่มโจมตี (Ambush) และ การประสานงาน (Coordination)
กลยุทธ์: สิงโตตัวเมียจะกระจายกำลังกันออกเป็นวงกว้างเพื่อโอบล้อมเหยื่อ โดยบางตัวจะซุ่มอยู่ด้านหน้า เพื่อปิดทางหนี ขณะที่ตัวอื่นๆ ค่อยๆ ต้อนเหยื่อให้เข้ามาในกับดัก เมื่อเหยื่อเข้ามาในระยะที่เหมาะสม สิงโตจะพุ่งเข้าโจมตีพร้อมกัน
เหยื่อ: สิงโตมักล่าเหยื่อขนาดใหญ่ เช่น ควายป่า ม้าลาย หรือวิลเดอบีสต์ ซึ่งเป็นเหยื่อที่สิงโตต้องใช้ความแข็งแกร่งและพลังของฝูงในการล้ม
วิธีการสังหาร: เมื่อเข้าใกล้เหยื่อได้แล้ว สิงโตจะเข้ากัดที่คอเพื่อรัดคอเหยื่อให้ขาดอากาศหายใจ หรือบางครั้งอาจกัดที่จมูกและปากเพื่อปิดกั้นทางเดินหายใจของเหยื่อ
เสือ (Tiger)
เสือเป็นสัตว์สันโดษ มักออกล่าเพียงลำพัง การล่าของเสือจึงเน้นไปที่ความคล่องแคล่ว ความว่องไว และความแข็งแกร่งเฉพาะตัว
กลยุทธ์: เสือจะใช้กลยุทธ์ การซุ่มโจมตี (Stalk and ambush) โดยใช้ลายพรางของมันในการแอบเข้าใกล้เหยื่อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นจะพุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็วและรุนแรงในชั่วพริบตา
เหยื่อ: เสือสามารถล่าเหยื่อได้หลากหลายขนาด ตั้งแต่เหยื่อขนาดกลาง เช่น กวางและหมูป่า ไปจนถึงเหยื่อขนาดใหญ่ เช่น ควายและกูร
วิธีการสังหาร: เสือมักจะกระโดดเข้าตะครุบเหยื่อและใช้กรงเล็บอันแหลมคมตรึงเหยื่อไว้ จากนั้นจะกัดเข้าที่คออย่างแม่นยำเพื่อหักกระดูกสันหลังส่วนคอหรือทำลายหลอดลมและเส้นเลือดใหญ่ เพื่อให้เหยื่อตายอย่างรวดเร็วที่สุด
สรุปแล้ว แม้ว่าทั้งสิงโตและเสือจะใช้วิธีการกัดที่คอ เพื่อสังหารเหยื่อเหมือนกัน แต่พฤติกรรมและกลยุทธ์ในการเข้าถึงเหยื่อนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติการใช้ชีวิตของสัตว์ทั้ง 2 ชนิด ได้อย่างชัดเจน