svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

จ่อเอาผิดคนจีน แอบเข้าพื้นที่ตึกถล่ม ขนแฟ้มเอกสาร 32 รายการออกมา

ตร.เตรียมเอาผิดคนจีนเข้าพื้นที่หวงห้าม แอบขนแฟ้มเอกสาร 32 รายการเกี่ยวกับอาคาร สตง.ที่พังถล่ม ขณะที่ เขตจตุจักร ส่งนิติกร แจ้งความแล้ว

30 มีนาคม 2568 ช่วงบ่าย ที่อาคารก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ย่านจตุจักรถล่ม เจ้าหน้าที่ได้พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยกำลังทยอยเคลื่อนออกจากพื้นที่เพื่อนำส่งสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ โดยรถของมูลนิธิร่วมกตัญญูที่นำร่างผู้เสียชีวิตออกไปแล้ว 3 ราย ด้วยรถ 2 คัน

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ทั้งกู้ภัยจากหลายมูลนิธิ ตำรวจ ทหาร รวมถึงสถาบันการศึกษาที่นำหุ่นยนต์ และเครื่องจักรเข้ามาช่วยในภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิต ยังคงระดมกำลังเร่งกู้ซากอาคารถล่ม และค้นหาผู้รอดชีวิตโดยได้รับความร่วมมือจากต่างชาติหลายหน่วยงานทั้งกองทัพทหารสหรัฐฯ และอิสราเอล 

ส่วนสภาพอากาศบริเวณโดยรอบพื้นที่ตอนนี้มีกลุ่มเมฆฝน ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อภารกิจการค้นหา กู้ชีพ และกู้ภัยผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารถล่มในวันนี้ ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายและทุกหน่วยงานต้องเร่งระดมสรรพกำลังปฏิบัติงานแข่งกับเวลา

จ่อเอาผิดคนจีน แอบเข้าพื้นที่ตึกถล่ม ขนแฟ้มเอกสาร 32 รายการออกมา

ขณะที่ พลตำรวจโทสยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงมีสำนวนคดีอื่นที่ต้องทำคือ การชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตซึ่งจะต้องแยกเป็นอีกสำนวนหนึ่งเพราะกระบวนการสืบสวนและสอบสวนต้องแยกกันทำแต่ว่าพยานหลักฐานที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ก็จะต้องนำไปใช้ประกอบกัน อีกทั้งได้มีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปหลายปากแล้ว 

จ่อเอาผิดคนจีน แอบเข้าพื้นที่ตึกถล่ม ขนแฟ้มเอกสาร 32 รายการออกมา

โดยในส่วนของการกู้ชีพกู้ภัยก็จะมีฝ่ายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นคนดำเนินการ แต่ในส่วนที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องรับผิดชอบในการทำสำนวนการสอบสวนและหาสาเหตุในการเสียชีวิตว่าเกิดจากการกระทำของผู้ใด หรือเกิดจากความประมาทของผู้ใดหรือไม่ ซึ่งอยู่ในกระบวนการต่อไปที่จะต้องดำเนินการ 

เบื้องต้น มีการสอบปากคำญาติของผู้ได้รับผลกระทบและจะมีการทยอยสอบปากคำไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนการแยกแยะเอกสารที่ตรวจยึดมาได้จากชาวจีนทั้ง 4 คน ก็จะต้องเชิญวิศวกร เข้ามาช่วยตรวจสอบด้วย

ด้านพลตำตรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้า หลังเมื่อวานที่ผ่านมา(29 มี.ค.2568) มีชายชาวจีน 4 คน เข้าไปลักลอบขนเอกสาร ซึ่งเป็นแฟ้ม 32 รายการ ออกจากด้านหลังของอาคารซึ่งพังถล่มลงมาโดยไม่ได้รับอนุญาตว่า ปัจจุบันผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ประกาศให้พื้นที่เกิดเหตุเป็นเขตพื้นที่สาธารณภัย ซึ่งจากคำสั่งดังกล่าว ครอบคลุมตามข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่งผลให้เขตพื้นที่นี้ เป็นพื้นที่หวงห้ามบุคคลหนึ่งบุคคลใด ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ได้รับอนุญาต จะไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ได้  

จ่อเอาผิดคนจีน แอบเข้าพื้นที่ตึกถล่ม ขนแฟ้มเอกสาร 32 รายการออกมา

ซึ่งหลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบเห็นกลุ่มบุคคลประมาณ 4 คน ได้นำเอาเอกสารออกจากบริเวณดังกล่าวและมีลักษณะการค้นแฟ้มเอกสารออกไป ตำรวจจึงได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการติดตามตัว กระทั่งพบกับชายชาวจีน 1 คน ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่เกิดเหตุ โดยเจ้าตัวอ้างว่าเป็นผู้อำนวยการโครงการเกี่ยวกับการขอก่อสร้างตึก 

จากการสอบปากคำพร้อมตรวจสอบวีซ่า ใบอนุญาตทำงานและหนังสือเดินทางก็พบว่ามีใบอนุญาตทำงานถูกต้องและมีเอกสารที่ยืนยันว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวทำงานอยู่ในบริษัทซึ่งเป็นกิจการร่วมค้ากับบริษัทอิตาเลียนไทย 

และจากการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด 32 รายการ พบเป็นเอกสารหลายชนิด เช่น เอกสารผู้รับเหมาก่อสร้าง, สำเนาอาร์เอฟไอ, เอกสารที่เกี่ยวข้องกับคำชี้แจงหนังสือแจ้งให้ตรวจสอบงานทั่วไป, เอกสารขอความคิดเห็นและทำการชี้แจงเอกสารผู้รับเหมา, เอกสารผู้รับเหมาเช่าช่วงและเอกสารเกี่ยวกับผู้รับเหมา 3-4 รายการ, เอกสารงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้าและขนส่ง พนักงานสอบสวนจึงทำการตรวจยึดไว้ตรวจสอบ 

ส่วนชาวจีนทั้ง 4 คน หลังสอบปากคำแล้วเสร็จก็ได้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ได้ประสานการทำงานตรวจสอบร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้นิติกรตรวจสอบว่าชาวจีนทั้ง 4 คนนี้ ได้เข้ามาในพื้นที่โดยได้มีการขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่หรือไม่ 

เบื้องต้น สำนักงานเขตจตุจักรได้ อยู่ระหว่างร่างคำร้อง เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 4 คน ในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเมื่อมีการเข้าแจ้งความ พนักงานสอบสวนก็จะติดตามตัวทั้ง 4 คน เข้ามาพบและดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ อีก 1 ราย ผู้จ้างวานอยู่ระหว่างการตรวจสอบและขยายผลต่อไป 

โดยหากกรุงเทพมหานครแจ้งความแล้วก็จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฐานผู้ใดเข้าไปในพื้นที่โดยไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฏหมายหรือตามคำสั่งของผู้อำนวยการ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน  3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 6,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุเพราะมีข้อบังคับและมีการติดประกาศแจ้งเตือนไว้แล้ว โดยหากจะเข้ามาต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครก่อน

ทั้งนี้ จากการสอบปากคำเบื้องต้น ทั้ง 4 คน ระบุว่าต้องการเข้าไปในพื้นที่เพื่อเอาเอกสารไปเคลมประกันภัย ซึ่งเอกสารดังกล่าวอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ของลานจอดรถ ซึ่งเป็นสถานที่ชั่วคราวของบริษัท แต่ไม่ได้มีการขออนุญาตโดยทั้ง 4 คน เป็นพนักงานรายย่อยของผู้รับเหมาในเครือบริษัทอิตาเลียนไทย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารที่ตรวจยึดมาได้ว่าเกี่ยวข้องกับกรณีตึกถล่มหรือไม่ และจะมีการเรียกสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยอยู่ระหว่างการประสานงาน 

เบื้องต้น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการสั่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องการชันสูตรพลิกศพ รวมถึงการตั้งคณะพนักงานสืบสวนว่าสาเหตุของการพังถล่มลงมาว่าเกิดจากสาเหตุใด 

พร้อมกันนี้ ตำรวจยังได้มีการประสานข้อมูลร่วมกับบริษัทประกันภัย ว่ามีเอกสารส่วนใดที่จะต้องทำการส่งต่อเพื่อทำการส่งมอบ รวมถึงตรวจสอบว่ามีเอกสารส่วนใดที่หากมีการนำออกไปจากจุดเกิดเหตุแล้วจะส่งผลกระทบกับการทำคดีนี้เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล

จ่อเอาผิดคนจีน แอบเข้าพื้นที่ตึกถล่ม ขนแฟ้มเอกสาร 32 รายการออกมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา15.00น. นิติกร ฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตจตุจักร เดินทางมาสน.บางซื่อ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี “ชาวจีน” 5 คน ที่ฝ่าฝืนประกาศเข้าไปในอาคารที่เกิดเหตุ ขนเอกสารพิมพ์เขียวและเอกสารอื่นๆ ออกนอกพื้นที่ก่อสร้างอาคาร สตง.ที่เกิดเหตุถล่ม