svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ทนายอนันต์ชัย" ยื่น อสส. ตรวจสอบ อจคช. เอื้อ "ลัทธิเชื่อมจิต" หรือไม่

"ทนายอนันต์ชัย" ยื่น อสส. ตรวจสอบ อจคช. เอื้อ "ลัทธิเชื่อมจิต" หรือไม่ ขณะที่ โฆษก อสส.เเจงชัดไม่มีอัยการเชื่อมจิต ระบุ พม.ไม่เคยขอให้อัยการยื่นศาลเยาวชน

27 พฤษภาคม 2567 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เดินทางมายื่นหนังสือให้สำนักงานอัยการสูงสุด เร่งสอบกรณีพบอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายสุราษฎร์ธานี ไม่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ให้คำแนะนำในการยื่นคำร้องต่อศาลในกรณีลัทธิเชื่อมจิต 

ทนายอนันต์ชัย ระบุว่า ต้องการให้สำนักงานอัยการสูงสุด ตรวจสอบการทำหน้าที่ของอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายสุราษฎร์ธานี (อจคช.) ว่า มีการปฎิบัติหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้ลัทธิเชื่อมจิตหรือไม่ รวมถึงจะให้ความช่วยเหลือ พม. ในการตรวจสอบลัทธิเชื่อมจิตหรือไม่
\"ทนายอนันต์ชัย\" ยื่น อสส. ตรวจสอบ อจคช. เอื้อ \"ลัทธิเชื่อมจิต\" หรือไม่

โดยเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 66 สหวิชาชีพได้ลงพื้นที่บ้านของลัทธิเชื่อมจิต เท่าที่ตนทราบแม่ของลัทธิเชื่อมจิตได้ถามเจ้าหน้าที่ว่า น้องเป็นออทิสติกหรือไม่ หรืออาการพัฒนาการทางสมองล่าช้า ซึ่งถ้าเป็นก็จะเข้า พ.ร.บ.คนพิการประเภทที่ 7 ลูกชายตนก็เป็นออทิสติก ลักษณะของออทิสติกจะไม่ชอบเด็ก แต่จะชอบผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ต้องดูแลเพราะเด็กมีอาการป่วยเป็นโรค ซึ่งประเด็นดังกล่าวมีการประชุมกันในวันที่ 22 ธ.ค. 66 ทั้งอัยการ สหวิชาชีพ ต่างรู้ข้อมูลดี

ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นประเด็นใหญ่ เพราะแม่ถามหมอว่า ลูกเป็นออทิสติก ทำไมถึงไม่ให้นำเด็กไปตรวจว่า ลูกเป็นจริงหรือไม่ ถ้าอายุมากขึ้น ต่อไปจะเป็นคนที่ก้าวร้าว ไม่ฟังคน ไม่มีเหตุผลวิเคราะห์ไม่เป็น ในเมื่อการประชุมของเจ้าหน้าที่รู้แล้ว ทำไมถึงไม่เร่งดำเนินการ การเอาเด็กที่มีสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์มาสอนธรรมะ มันใช้ได้หรือไม่
 

ขณะที่ นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการคดีพิเศษและโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงกรณีที่กล่าวหาว่า อจคช. ไม่เข้าไปช่วยเหลือว่า ผู้ที่มีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กได้ คือ ญาติ พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่ องค์กรที่มีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเด็กหรือหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่คุ้มครองเด็ก 

ซึ่งในกรณีนี้จากการตรวจสอบแล้วพบว่า พมจ.สุราษฎร์ธานี เป็นผู้ที่ยื่นเอง ตามนัยยะของข้อบังคับประธานศาลฎีกาข้อที่ 7  ซึ่งสามารถทำได้ โดยไม่ได้ร้องขอให้ อจคช. เข้าไปยื่น หากมาขอก็จะไม่มีเหตุให้ อจคช. จะปฏิเสธ ซึ่งกรณีเดียวสามารถยื่นได้แค่ 1 ครั้ง พมจ.ยื่นแล้ว อัยการไม่สามารถยื่นต่อได้อีก
โดยกรณีดังกล่าวทาง พมจ. ได้ยื่นขอให้คุ้มครองชั่วคราว 2 กรณีฉุกเฉิน ต่อมาศาลยก ซึ่งก็สามารถยื่นใหม่ได้ แต่ตามกระบวนการจะต้องเป็น พมจ.เป็นผู้ยื่นอีกเช่นเดิม
นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการคดีพิเศษและโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

ส่วนหลังจากนี้การยื่นคำร้องจะต้องมีกระบวนการสืบพยาน นำพยานเข้าสืบ หาก พมจ. มีข้อขัดข้องหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถประสานอัยการมาได้ เรายินดีจะให้ความช่วยเหลือ ชี้แนะ ย้ำอีกครั้งอัยการไม่ได้เพิกเฉย ไม่ได้ไม่เข้าไปดูแล แต่ พมจ.เลือกที่จะยื่นเองโดยไม่ผ่านอัยการ ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับอัยการในพื้นที่ด้วย 

สำหรับเรื่องอื่น ๆ ที่จะดำเนินการกับลัทธิเชื่อมจิตนั้น ต้องรอคำสั่งจากศาล เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างการพิจารณา สำนักงานอัยการสูงสุดไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ เพราะที่ศาลยก 2 ข้อ ยกเฉพาะในส่วนของการคุ้มครองชั่วคราว แต่ศาลก็นัดไต่สวนเร็ว ๆ นี้เพื่อจะมีคำสั่งในภาพรวม 

ส่วนกระแสข่าวว่า มีอัยการบางคนเข้าไปเกี่ยวข้องกับ "ลัทธิเชื่อมจิต" หรือไม่นั้น นายประยุทธ กล่าวว่า จากการตรวจสอบอัยการ ทุกคนยืนยันว่าไม่มีใครรู้จักครอบครัวนี้ ไม่มีใครมีความเชื่อในเรื่องของลัทธิเชื่อมจิต และไม่มีใครเข้าไปเกี่ยวข้อง 
\"ทนายอนันต์ชัย\" ยื่น อสส. ตรวจสอบ อจคช. เอื้อ \"ลัทธิเชื่อมจิต\" หรือไม่

ทั้งนี้ภายหลังทนายอนันต์ชัย ฟังคำชี้แจงจากสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ได้เปิดเผยว่า จะไม่โต้แย้งใด ๆ แต่ยืนยันว่ากองทัพธรรมมีพยานหลักฐานชัดเจน จากนี้ขอให้สังคมเป็นผู้พิจารณา กองทัพธรรมมีความห่วงใยในสถาบันหลักของชาติ คือ พระพุทธศาสนา ไม่อยากให้ถูกบ่อนทำลาย โดยวันนี้ไม่ได้มาเพื่อหาเรื่องหรือกล่าวหาใคร แต่ต้องการให้ศาลฯ สั่งหยุดการกระทำดังกล่าวของ ลัทธิเชื่อมจิต เพื่อไม่ให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย

ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ พมจ. พยายามอยากจะขอแยกตัวเด็ก เพื่อไปตรวจอย่างละเอียดโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญว่า เด็กมีความปกติหรือไม่ แต่ทางผู้ปกครองไม่ยอม  ซึ่งตัวเองอยากรู้ว่าเป็น “เด็กออทิสติก“ หรือไม่ เพราะหากเป็นเช่นนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่ให้เด็กที่ไม่ปกติ มาทำพฤติกรรมลักษณะแบบนี้

ขณะที่ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต สส.กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีข้อสงสัย และได้ฝากโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้อัยการสูงสุดเข้าไปกำกับดูแลพัฒนาสังคมจังหวัดสุราษฎร์ธานี และให้อัยการฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลฯ ไต่สวน ฉุกเฉินขอให้หยุดการกระทำดังกล่าวของลัทธิเชื่อมจิต
\"ทนายอนันต์ชัย\" ยื่น อสส. ตรวจสอบ อจคช. เอื้อ \"ลัทธิเชื่อมจิต\" หรือไม่