
เป็นประเด็นร้อน ๆ ให้ชาวโซเชียลได้แชร์และวิจารณ์กันจนเป็นไวรัลอีกแล้ว เมื่อ "แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร" อดีตพระนักเทศน์ ฉายา "พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ" อดีตพระลูกวัดประจำ วัดสร้อยทอง พระอารามหลวง การศึกษาจบ "เปรียญธรรม 9 ประโยค" ซึ่งเป็นระดับชั้นสูงสุดของการศึกษา แผนกบาลีของคณะสงฆ์ไทย จบการศึกษาทางโลก ในระดับปริญญาโทพุทธศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย และ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
โดยคราวนี้ "แพรรี่" ได้ออกโพสต์คลิปความยาว 4 นาที บนเฟซบุ๊กส่วนตัว ไพรวัลย์ วรรณบุตร เมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) โดยพูดถึง "ความเชื่อเรื่องปีชง" ชนิดเดือดปุดว่า
“ปีชงมันมีไว้สำหรับหลอกคนโง่ค่ะ เพราะมันขายของได้ไง ถ้ามันบอกว่ามันชง ปีชงตามมาด้วยอะไรจ้า ตามมาด้วยการทำพิธีกรรม ทุกอย่างแก้ได้ด้วยการเสียเงิน หรือจะเถียงกู โดยรายละเอียดทั้งหมดดูจากคลิป
ภายหลังที่คลิปของ "แพรรี่" ถูกเผยแพร่ ได้มีชาวเน็ตและแฟนเพจจำนวนมาก เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย และส่วนใหญ่ก็มีมติเป็นเอกฉันท์คือ เห็นด้วยกับคำพูดของ "แพรรี่"
อย่างไรก็ตาม การออกมาให้ความเห็นของ "แพรรี่" ครั้งนี้ ต้องจับตาว่า สร้างส่งกระทบอย่างไร กับผู้ที่มีความเชื่อในเรื่องนี้ และแม้จะไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ความเชื่อของใครเป็นฝ่ายที่ถูกต้องที่สุด แต่ เนชั่นออนไลน์ จะพาไปทำความรู้จักว่า ปีชงคืออะไร ส่งผลต่อชีวิตอย่างไร ..........
ทำความรู้จักความเชื่อ "ปีชง"
ความเชื่อเรื่องปีชงนั้น รากฐานมาจากความเชื่อพื้นบ้านของคนจีน ที่ผสมผสานความเชื่อ จากหลักคิดของขงจื้อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภูตผีปีศาจ สิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ ความเชื่อเรื่องปีชงนั้น อยู่คู่สังคมจีนโบราณมายาวนาน จนซึมลึกในวิถีชีวิต จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม
นอกจากนี้ ความเชื่อเรื่องปีชง ยังมีรากฐานจากลัทธิเต๋า ที่เชื่อเรื่องดวงชะตา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ เพราะตั้งแต่สมัยพุทธกาล ก็ไม่เคยมีการบันทึกเรื่องปีชงเอาไว้
โดยแนวคิดนี้เรื่องปีชง เริ่มเข้าสู่ประเทศไทย จากการอพยพถิ่นฐานของคนจีนโพ้นทะเล ที่เข้ามาตั้งรกรากในไทย ก่อนเริ่มแพร่หลายมากขึ้น และเริ่มมีการหลอมรวมเข้ากับวัฒนธรรมไทย จนในปัจจุบันนอกจากคนไทยเชื้อสายจีน เจ้าของรากฐานความเชื่อดั้งเดิม ยังแพร่หลายไปถึงคนหลายกลุ่มอีกด้วย
ปีชงในไทยกับที่จีนแตกต่างกันไหม
ภายหลังเมื่อมีการหลอมรวมวัฒนธรรม ระหว่างจีนและไทย ความหมายของคำว่าปีชง รวมถึงรูปแบบการแก้ไข จึงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม รวมถึงยังมีการนำเรื่องเชิงพาณิชย์ เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้รูปแบบแตกต่างไปจากเดิมมาก
1. ปีชงของชาวจีนไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ๆ
เดิมแนวความเชื่อของชาวจีน "ปีชง" สามารถส่งผลได้ทั้งแง่บวกและลบ การแก้ชงคือนำสิ่งเลวร้ายออกไป เสริมสิริมงคลแก่ชีวิต แต่ปัจจุบันปีชงกลับเหลือเพียงความหมายด้านลบ ตกหล่นด้านที่ส่งเสริมดวงชะตาไปพอสมควร
2. สถานที่แก้ไขปีชงมีความเปลี่ยนแปลงไป
เดิมการแก้ชงสามารถทำที่ใดก็ได้ ไม่จำกัดสถานที่ แต่ปัจจุบันการแก้ชง ได้ย้ายมาสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีน เช่น ศาลเจ้า วัดจีน ฯลฯ บางส่วนยังแผ่ขยาย ไปถึงศาสนสถาน วัดต่าง ๆ ซึ่งส่วนนี้มากจากทั้งการโยกย้ายถิ่นฐาน และการปรับตัวเข้าสู่โลกปัจจุบัน รวมถึงเรื่องของพุทธพาณิชย์
3. ปีชงที่เคยมีแค่ปีตรงข้ามกับนักษัตร แต่ปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น
เริ่มแรกปีชงจะเกิดขึ้นแค่ปีนักษัตรเดียวในรอบปีเท่านั้น ถ้าชงกับปีนักษัตรใด ก็จะได้รับผลกระทบอยู่ปีเดียว ไม่มีการแบ่งสัดส่วน หรือผลกระทบไปหาปีนักษัตรอื่น แต่ปัจจุบันมีการแบ่งแยกย่อย แตกส่วนลดหลั่นกันไปเป็นระบบ ตั้งแต่ 100% 75% 50% 25% นับว่า ขยายการชงไปยังนักษัตรอื่นในแต่ละปี ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
4. การนับปีชงด้วยหลักธาตุทั้งห้าถูกลืมเลือนไป
ความเชื่อเรื่องปีชงสมัยก่อน ต้องพิจารณาถึงธาตุทั้งห้า ดิน น้ำ ไฟ ไม้ ทอง ควบคู่ไปด้วย บางครั้งแม้เราอยู่ในปีชง แต่ธาตุอาจไม่ชงก็ได้ เช่น ปีนี้เป็นปีมะเส็งธาตุน้ำ ผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักสุด คือปีกุนธาตุไฟ ที่นับเป็นปีชง เพราะอยู่ในธาตุแพ้ทาง แต่ปัจจุบันกลับคำนึงถึงแค่ปีนักษัตร โดยละเลยส่วนธาตุทั้งห้าไปจนหมด
5. ช่วงเวลาแก้ชงหมดความหมายไปในปัจจุบัน
สมัยก่อนการแก้ชง มักกระทำหลังตรุษจีน เพราะถือเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านปี รวมถึงต้องคำนึงถึงวันที่เป็นฤกษ์เหมาะสมในการแก้ชงด้วย แต่ในปัจจุบันสามารถแก้ชงได้โดยสะดวกในทุกช่วงเวลา ไม่มีการจำกัดแบบแต่ก่อน ไม่ยึดติกับช่วงเวลามงคลตามตำราจีนอีกต่อไป
6. ผู้ดำเนินพิธีกรรมแก้ปีชงที่จำกัดลงกว่าแต่ก่อน
การแก้ชงสมัยก่อน สามารถทำได้ตามบ้านเรือนทั่วไป ขอแค่มีผู้รู้พิธีดำเนินการให้อย่างถูกต้อง วิธีแก้ชงจึงสามารถตกทอดมาจากบรรพบุรุษ มีตำรา หรือเนื้อความที่ระบุในปฏิทิน แต่ในปัจจุบันการแก้ชง จำกัดอยู่แค่ตามสถานที่ที่กำหนดไว้ ขั้นตอนวิธีการก็ตามที่ผู้เชี่ยวชาญในสถานที่นั้น ๆ เป็นผู้กำหนด
7. การแก้ปีชงจากเพื่อความสบายใจ กลายเป็นการขอพรเทพเจ้า
ในอดีตผู้ที่ตกปีชง หากไม่สะดวกใจในการแก้ชง สามารถเปลี่ยนเป็นการพก ฮู้ หรือ ยันต์ เครื่องรางจีนเพื่อเสริมดวง รวมถึงอาศัยการทำดี มีสติ ในการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง แต่ปัจจุบันกลายเป็นข้อบังคับ สำหรับคนที่มีความเชื่อเรื่องปีชง ให้ต้องไปแก้ไขด้วยการกราบไหว้สักการะเทพเจ้า เพื่อขอความช่วยเหลือพึ่งพาบารมี เพื่อช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาแทน
8. การตลาดและพาณิชย์ เปลี่ยนหลักคิดเกี่ยวกับปีชงไปตลอดกาล
เดิมของไหว้และวัตถุมงคลในการแก้ชง ถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้ความสบายใจ เป็นไปในเชิงสัญลักษณ์ ให้ยึดเหนี่ยว แต่ปัจจุบันชุดไหว้รวมถึงวัตถุมงคล มีหลากหลายมากขึ้น รวมถึงสถานที่แก้ชง ก็เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยว มีการสร้างสถานที่ให้กลายเป็นแหล่งแก้ชง และนำมาเชิดชูเป็นจุดขาย เพื่อเหตุผลทางการตลาด
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า การแก้ชงเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่จุดหมายแรกเริ่มอาจเป็นกุศโลบาย เพื่อย้ำเตือนผู้คนให้มีสติ ระลึกรู้ พึงระวังในการใช้ชีวิตเป็นหลัก อาจมาจากประสบการณ์ของชาวจีนโบราณ ที่แต่ละช่วงวัยปีนักษัตรคือช่วงใดของชีวิต สามารถคำนวณได้ว่าช่วงปีใดคือช่วงเวลาเป็นอันตราย จึงอยากให้ลูกหลานระมัดระวังตัวมากขึ้น เพื่อไม่ให้ผิดพลาดซ้ำรอยบรรพบุรุษ
ของแถม มาดูกันว่า ปีชง 2567 มีปีอะไรบ้าง
ปีชง 2567 ปีจอ 100% หรือผู้ที่เกิดในปี พ.ศ. 2477, 2489, 2501, 2513, 2525, 2537, 2549, 2561
ปีชงร่วม คือปี ได้รับผลกระทบเล็กน้อย
ได้แก่ ปีมะโรง ผู้ที่เกิดในปี พ.ศ. 2459, 2471, 2483, 2495, 2507, 2519, 2531, 2543, 2555
ได้แก่ ปีฉลู ผู้ที่เกิดในปี พ.ศ. 2456, 2468, 2480, 2492, 2504, 2516, 2528, 2540, 2552, 2564
ได้แก่ ปีมะแม พ.ศ. 2462, 2474, 2486, 2498, 2510, 2522, 2534, 2546, 2558
ข้อมูลจาก
https://www.nationtv.tv/original/378860184