
19 ธันวาคม 2566 จากกรณี "อาจารย์น้องไนซ์" หรือ "น้องไนซ์ เทวานิรมิตจุติ" เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่อ้างตนว่าเป็นร่างอวตารองค์เพชรภัทรนาคานาคราช และบุตรของพระศากยมุนี จนกลายเป็นผู้ทรงภูมิความรู้ด้านวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อเผยแผ่ธรรมะด้านวิปัสสนากรรมฐานให้ผู้ที่สนใจจนโด่งดัง และมีผู้คนติดตามในแอปพลิเคชั่นต่างๆ
ประสานสำนักพุทธฯจับตา"น้องไนซ์"
ล่าสุดนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักพุทธศาสนาและพระสงฆ์ เข้าไปดูแลและพูดคุยกับน้องไนซ์ เพราะสิ่งที่น้องพูดไม่ตรงกับหลักคำสอนของพุทธศาสนา ซึ่งหากพบว่ามีการหลอกลวงก็คงต้องเข้าไปคุยก่อนเบื้องต้น และเท่าที่ทราบเจ้าตัวอ้างเป็นพญานาค แต่พญานาคเขาไม่ได้มีการให้คำสอน และก็ไม่ใช่หลักของศาสนาพุทธ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังตรวจสอบไม่การกระทำผิดกฎหมาย จึงไม่สามารถสั่งระงับยับยั้งกิจกรรมต่างๆได้ และการที่คนเอาเงินไปให้ ก็เป็นการไปทำบุญกับเขาเอง
"น้องไนซ์" ไม่เครียด-กดดัน
ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวในส่วนของ พม. หน้าที่ของกรมกิจการเด็กและเยาวชน ดูแลสิทธิเด็กและสวัสดิภาพที่เด็กควรจะได้รับ ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยกับครอบครัวและครูอาจารย์ที่โรงเรียน ทำให้ทราบว่าน้องไนซ์มีผลการเรียนที่ดี ไม่มีสัญญาณของความเครียดหรือแรงกดดันอะไร มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนตามวัย ไม่ได้มีการพูดถึงกิจกรรมดังกล่าวในโรงเรียน ก็เหมือนเด็กทั่วไปคนหนึ่ง ส่วนการพูดคุยกับผู้ปกครอง สอบถามถึงพัฒนาการต่างๆ ก็ได้รับข้อมูลว่าน้องไนซ์ได้รับการดูแลตามที่เด็กคนนึงพึงจะได้รับ
รอตำรวจชี้ชัดพ่อแม่ใช้ลูกหากินหรือไม่
ส่วนที่สังคมตั้งข้อสังเกตเป็นการหาประโยชน์จากเด็กนั้น นายวราวุธ กล่าวว่า ทาง พม. ต้องรอการสอบสวนจากตำรวจให้ได้ข้อสรุปเสียก่อน พม. ไม่สามารถตัดสินได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิหรือไม่ แต่ยืนยันว่าน้องไนซ์ได้รับการดูแลตามสิทธิ์อันสมควรที่เด็กจะได้รับ และจากการสอบถามน้องไนซ์ ได้น้องก็สามารถพูดคุยได้เองตามปกติไม่ได้มีการเตรียมสคริปต์ใดๆจากผู้ปกครอง
เมื่อถามว่า ได้มีการสอบถามผู้ปกครองหรือไม่ ว่าการให้ดำเนินการเช่นนี้จะส่งผลต่อตัวเด็กในอนาคต นายวราวุธ ยืนยันว่าเด็กไม่ได้มีความเครียดใดๆ แต่เราไม่รู้ว่าเมื่อสถานการณ์บานปลายและพัฒนาออกไปเรื่อยๆ เด็กจะมีปัญหาหรือไม่ ซึ่งหากมีปัญหาก็ให้โทรหาเจ้าหน้าที่ หรืออาจต้องเข้าไปพูดคุยกันอีกรอบ
“พม. ไม่ได้เป็นคนตัดสินว่าเป็นการหากินกับผู้เยาหรือไม่เรารับผิดชอบเรื่องสวัสดิภาพของเด็กส่วนที่มีการกล่าวหาผู้ปกครองว่าหาผลประโยชน์กับเด็กให้เป็นหน้าที่ของตำรวจหากได้ข้อสรุปแล้ว พม. จะดำเนินการตามข้อสรุปเหล่านั้น พม. ไม่มีอำนาจสืบสวนสอบสวน”
จุดเริ่มต้น “อาจารย์น้องไนซ์” เชื่อมจิต
“น้องไนซ์” เริ่มเป็นที่พูดถึงเป็นวงกว้าง จากคลิปวิดีโอ “กิจกรรมเชื่อมจิต” ที่มีผู้คนจำนวนมาก ก้มกราบเด็กวัยแค่ 8 ขวบ และเหตุการณ์ที่ “น้องไนซ์” ยกแก้วน้ำราดลงบนศรีษะของหนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรม จนกลายเป็นไวรัล
ซึ่งภายหลัง แม่ของน้องไนซ์ออกมาชี้แจงคลิปดังกล่าวว่า เกิดจากการ "เชื่อมจิต" ของน้องไนซ์กับผู้เข้าร่วมรายดังกล่าว ที่รู้สึกไม่สบายใจและนึกอยากให้น้องรดน้ำให้ แต่น้องไนซ์กลับรับรู้จิตของบุคคลนั้นได้โดยที่เขาไม่ต้องบอกกล่าว จึงเอาน้ำราดลงบนหัวของอีกฝ่าย ทำให้เจ้าตัวรู้สึกยินดีมาก ทำให้ผู้เข้าร่วมรายอื่นๆ จึงสนใจอยากให้น้องรดน้ำให้ด้วยเช่นกัน
เรื่องราวความมหัศจรรย์ของ “น้องไนซ์” ถูกถ่ายทอดจากแม่ถึงชาติกำเนิดว่า ก่อนท้องแม่ฝันเห็นแสงสีขาวพุ่งลงมากลางห้อง จากนั้นถึงวันอาสาฬหบูชา แม่เจ็บท้องคลอด ทั้งที่อายุครรภ์เพียง 6 เดือนเท่านั้น จนวันเข้าห้องคลอด แม่ก็เห็นคนนุ่งขาวห่มขาวมาตามดูไม่ห่าง
จนน้องไนซ์อายุ 3 ขวบ เริ่มสอนพ่อแม่ให้ทำสมาธิ ทำจิตปล่อยวาง ก่อนบอกพ่อกับแม่ว่า ตัวเองคือ “องค์เพชรภัทรนาคานาคราช” อวตารลงมาเกิด โดยได้รับภารกิจจาก “พระศากยมุนี” พระพุทธเจ้า เพื่อให้ช่วยฟื้นฟูศาสนาบนโลกมนุษย์
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ครอบครัวจึงตั้งกลุ่มนิรมิตเทวาจุติ เผยแผ่ธรรมะบนโลกออนไลน์ ทั้งลงคลิป ไลฟ์ ในการพูดคุยธรรมะ ผ่านทั้งช่องทาง TikTok ยูทูบ เฟซบุ๊ก และกลุ่มไลน์โอเพนแชต จนเกิดเป็น “อาจารย์น้องไนซ์” มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก โดยทุกครั้งที่สอนนั่งสมาธิ อาจารย์น้องไนซ์ จะ “เชื่อมจิต” ส่งไปยังแฟนคลับ