svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เปิดภาพปอด "หมอกฤตไท" มาดูกันว่าทำไม เจ้า "PM2.5" มันถึงร้ายกาจ

12 ธันวาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดภาพเอกซเรย์ปอด "หมอกฤตไท" ก่อนเสียชีวิตจากมะเร็งปอด มาดูกันว่าทำไม เจ้า "PM2.5" มันถึงร้ายกาจ ก่อให้เกิดโรค อาการเจ็บป่วยมากมายขนาดนั้น

กำลังเป็นปัญหาคุกคามสุขภาพประชาชน ในพื้นที่ กทม. และตามเมืองใหญ่ต่าง ๆ สำหรับ "ฝุ่น PM2.5" ที่กลับมาปกคลุมท้องฟ้า จากสภาพอากาศตามฤดูกาลที่เอื้ออำนวย  โดยที่ผ่านมาแม้หลายภาคส่วน จะพยายามแก้ไขต้นตอปัญหา แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย 

ดังนั้น สิ่งที่ทำได้ง่าย เริ่มได้ทันทีคือ การรณรงค์ให้ประชาชนป้องกันตัวเอง จากอันตรายของ "ฝุ่น PM2.5" แต่อย่างไรก็ตามพบว่า ยังมีประชาชนอีกจำนวนไม่น้อย ยังไม่ตระหนักถึงพิษภัย ของ "ฝุ่น PM2.5" ว่ามีความอันตรายมากน้อยเพียงใด 
เปิดภาพปอด \"หมอกฤตไท\" มาดูกันว่าทำไม เจ้า \"PM2.5\" มันถึงร้ายกาจ

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า ได้โพสต์ถึงภาพเอกซเรย์ปอดของ "คุณหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล" เจ้าของ "เพจสู้ดิวะ" เพิ่งจากโลกนี้ไป ด้วยโรคมะเร็งปอด โดยมีสาเหตุจาก PM2.5 เพื่อเผยถึงความอันตรายของเจ้าฝุ่นพิษนี้ โดยระบุว่า  
เปิดภาพปอด \"หมอกฤตไท\" มาดูกันว่าทำไม เจ้า \"PM2.5\" มันถึงร้ายกาจ

 

ภาพนี้เป็นภาพปอดของ คุณหมอกฤตไท ที่ปอดข้างขวาหายไปครึ่งนึง  

จำได้มั้ยครับ หมอเคยโพสต์เตือนเรื่องมลพิษทางอากาศ และ PM2.5 ซึ่งตอนนั้น หมอเคยตั้งคำถามเรื่องอากาศ ที่เราหายใจเข้าไปว่า ไม่มีจัดลำดับความสำคัญ หรือให้น้ำหนักกับการแก้ไขปัญหาที่แหล่งกำเนิดของ PM2.5 อย่างจริงจังมากพอ ต้องมีหน่วยงานขึ้นมา เพื่อร่วมมือกันแก้ปัญหานี้ คนเก่ง ๆ ในประเทศเรามีเยอะแยะ งบประมาณเราก็มี นักการเมืองก็มี นักวิชาการก็มี   

แต่ประเทศไทย ก็ยังติดอันดับปัญหาฝุ่นในระดับโลก ติดต่อมาหลายปี ยังไม่เห็นความชัดเจนในการหาต้นตอของปัญหา และลงลึกถึงสาเหตุและแหล่งกำเนิดหลักของฝุ่น PM2.5 เพื่อแก้รากเหง้าปัญหาอย่างตรงจุดและยั่งยืน หมอแกเคยว่าไว้แบบนี้   

วันนี้ก็ยังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมเหมือนเดิมครับ พอเช้าขึ้นมาหลายคนยังโพสต์ภาพฝุ่นหนาอย่างกะหมอก เราทุกคนรู้ว่าฝุ่นพิษ PM2.5 มันคือฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก ซึ่งอยู่คู่กับประเทศไทยมาหลายปี และมันจะมาเป็นฤดูกาล ตั้งแต่หน้าหนาวยาวข้ามปีไปหน้าร้อน 

ความร้ายกาจของ PM 2.5 คือ มันไม่ได้มาตัวเปล่า แต่ดันเอาเพื่อนอย่าง สารปรอท แคดเมียม โลหะหนักอื่น ๆ และพวกสารก่อมะเร็งอีกมากมายติดมาด้วย   

PM2.5 สามารถทำให้เราเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดได้จริง ซ้ำร้ายยังสามารถเหนี่ยวนำ ให้เป็นมะเร็งชนิดอื่น ๆ ได้อีกด้วยนะครับ   

ป้องกันตัวเองไว้ก่อนดีสุดนะครับ เพราะตอนนี้ปัญหาฝุ่นยังคงมีอยู่ พอถึงจุดที่เราป่วยเข้าจริงๆ เงินทองอะไรทั้งหลายก็ไม่มีค่า การได้มีชีวิต ใช้ชีวิต และไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มันคือดีที่สุดแล้ว 

ตอนนี้ยังเป็นคำถามอยู่ว่า ถึงเวลาที่เราจะช่วยกันแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังแล้วหรือยัง

 

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้พยายามนำเสนอถึงการแก้ปัญหา PM2.5 อย่างถูกต้องแทนที่จะเป็นการแก้แบบผิด ๆ อย่างที่ผ่านมา โดยระบุว่า 

ขอรีรันประเด็นนี้ หวังว่ารัฐบาลชุดนี้ จะไม่ทำเรื่องไร้สติปัญญาแบบ พ่นน้ำขึ้นฟ้าลดฝุ่น PM2.5

การใช้เครื่องพ่นน้ำเพื่อลด PM2.5 เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำด้วยหลายๆสาเหตุ ดังต่อไปนี้

1. มันไม่ช่วยอะไรหรือมีผลน้อยมากกกกกกกก เพราะไอ้ PM2.5 มันลอยฟุ้งอยู่ในชั้นบรรยากาศสูงมาก (ซึ่งมึงไม่มีปัญญาพ่นน้ำให้ถึงระดับนั้นหรอก ถ้าจะทำได้ต้องระดับทำฝนหลวงนู่น ที่พอจะถึงระดับความสูงนั้นได้ )

ต่อให้พ่นน้ำให้แทบตายยังไง มันก็ลดได้แค่แว่บเดียว เพราะไอ้ที่ลอยค้างเติ่งบนชั้นบรรยากาศจำนวนมหาศาลมันยังอยู่ เด๋วแม่งก็ลงมาอีก เปลืองเงินเปลืองน้ำโดยใช่เหตุ

2.หลักการพ่นน้ำเพื่อลดฝุ่น PM2.5 ต้องใช้เครื่องพ่นน้ำแรงดันสูงมาก เพื่อให้เกิดอนุภาคขนาดเล็กมากๆ จนจับ PM2.5 ให้ตกลงมาที่พื้นได้ ยิ่งพ่นแรง พ่นจนเกิดอนุภาคน้ำขนาดเล็กเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีพื้นที่สัมผัสสูง ถ้าพ่นน้ำทั่วไป ไม่ช่วยครับ มันไม่แรงพอ ต้องระดับพวกปืนพ่นหมอกของ ตปท. ที่เขาพัฒนามา ให้พ่นอนุภาคน้ำขนาดเล็กมาก แบบนั้นพอได้ แต่ผลก็ออกมาว่า มันมีผลค่อนข้างน้อยมากๆๆๆๆ จนไม่คุ้มเอาซะเลย 

3.อีกสาเหตุที่สำคัญมากคือ การไปพ่นน้ำ ใกล้ ๆ เซ็นเซอร์วัดฝุ่นเนี่ย มันจะทำให้ตัวเซ็นเซอร์วัดค่าผิดเพี้ยนไปได้ เหมือนอย่างในบางพื้นที่ของบ้านเรา ที่มีฝุ่นควันปกคลุมทั้งจังหวัด แต่ตัวเลขออกมาสวยฉิบหาย เพราะปริมาณความชื้นในอากาศ มันมีผลกับเซ็นเซอร์วัดฝุ่น บางทีไม่ใช่ว่า ฉีดน้ำไปแล้วลดฝุ่นหรอกนะ แต่พ่นไปแล้วเซ็นเซอร์มันเพี้ยน ค่าลดลงก็มาเย้ว ๆ กันว่า นี่ไงลดฝุ่นได้ ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่เว้ยยยย แล้วถ้าค่าลดเพราะเซ็นเซอร์เพี้ยน ปชช. ไม่ใส่หน้ากากเพราะเห็นว่า ค่ามันลดแล้ว ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ มันยังไม่ลดนี่บรรลัยเลยนะ 

ดังนั้น วอนทุกท่านที่เกี่ยวข้อง เวลาเกิดปัญหา PM2.5 หยุดเอารถพ่นน้ำออกมาพ่นได้แล้ว เปลืองงบเว้ย นี่เราเจอเรื่องแบบนี้กันมากี่รอบแล้ว ป่านนี้มันน่าจะรู้กันหมดละมั้งว่า มันไม่เวิรคคคคคคคคคคคคคคค

ขอบคุณข้อมูลและภาพ เฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า , Drama-addict 

logoline