
เพราะการกินส่งผลกับสุขภาพร่างกาย เราจึงควรเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์เป็นประจำ ยิ่งในช่วงนี้ผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ทำให้เกิดฝุ่นควันและ PM 2.5 ที่ส่งผลร้ายกับสุขภาพ โดยเฉพาะ "ระบบทางเดินหายใจ" และ "ปอด" อวัยวะสำคัญต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งทำหน้าในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนเข้าสู่ระบบเลือดในร่างกาย และแลกเปลี่ยนเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากระบบเลือดออกมา ดังนั้ง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องบำรุงรักษาให้ปอดให้แข็งแรงอยู่เสมอ
โดยจากข้อมูลบทความวิชาการที่เผยแพร่ในวารสารต่างประเทศ ระบุว่ามีแหล่งอาหารหลายชนิดที่หากรับประทานเป็นประจำจะส่งผลดีต่อการทำงานของปอด ประกอบด้วย
1 ขิง เป็นสมุนไพรที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร ช่วยต้านการอักเสบ
2 พริกหวาน เป็นแหล่งวิตามินซีที่ดี ช่วยต้านอนุมูลอิสระและทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้เป็นปกติ
3 แอปเปิ้ล มีใยอาหาร วิตามินซีและมีสารต้านอนุมูลอิสระ
4 ฟักทอง มีสารอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพปอดหลายชนิด โดยเฉพาะแคโรทีนอยด์ เบต้าแคโรทีน ลูทีน และซีแซนทีน
5 กะหล่ำ กะหล่ำดอก บลอคโคลี ผักทั้งสามอย่างนี้ช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งปอดได้มากกว่าครึ่ง เพราะพวกมันเต็มไปด้วยสารคลอโรฟิลล์ที่ช่วยล้าง สร้างเม็ดเลือด และต่อต้านสารอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี
6 ขมิ้นชัน มีสารเคอร์คูมินเป็นส่วนประกอบหลักการศึกษาวิจัยพบว่าการบริโภคเคอร์คูมินมีความสัมพันธ์กับการทำงานของปอดที่ดีขึ้น
7 มะเขือเทศ มีสารไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ที่จะช่วยลดการอักเสบของทางเดินหายใจในผู้ที่เป็นโรคหอบหืดและช่วยเรื่องการทำงานของปอดในผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
8 ส้ม วิตามินซี และ บี6 จากส้มจะช่วยให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนที่ปอดดีขึ้น และยังช่วยลดอาการหอบหืดจากการออกกำลังกายได้ถึง 52%
9 ธัญพืชเต็มเมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสีหรือขัดสีน้อย เช่น ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์ ข้าวฟ่าง เป็นต้น เป็นอาหารที่มีเส้นใยสูงอุดมด้วยวิตามินอี ซีลีเนียมและกรดไขมันจำเป็น ซึ่งดีต่อสุขภาพปอด
10 ถั่ว ถั่วแต่ละชนิดมีแมกนีเซียมที่ช่วยให้ปอดทำงานได้ดี และยังมีไขมันดีที่ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ถือเป็นของว่างชั้นเลิศเลยทีเดียว
11 น้ำมันมะกอก เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเพราะมีสารโพลีฟีนอลและวิตามินอีที่ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
12 หอยนางรม อุดมด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อสุขภาพปอด ได้แก่ สังกะสี ซีลีเนียม วิตามินบีและทองแดง
13 ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น สตรอว์เบอรี่ บลูเบอร์รี่ มีฟลาโวนอยด์ที่เรียกว่าแอนโธไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นต้น
14 แครอท มีเบต้าแคโรทีนสูงเช่นกัน และมีปริมาณวิตามินเอสูงมาก ซึ่งช่วยป้องกันอาการหอบหืด และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของเราให้มีความแข็งแรงมากขึ้นได้
15 รังนก มีสรรพคุณช่วยบำรุงปอด เสริมพลัง และยังช่วยในการช่วยละลายเสมหะ แก้ไอ อีกทั้งยังบำรุงและระบายความร้อนในร่างกาย
16 ชาดำ ชาดำมีคาเฟอีนอยู่จำนวนไม่น้อย ควรเลือกดื่มชาใบสน เพราะมีสรรพคุณช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปากและลำคอ เคลียร์ลมหายใจของเราให้สะอาด ส่งผลให้การทำงานของปอดดีตามไปด้วย
และอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นและขาดไม่ได้คือ "น้ำเปล่า" ที่เป็นส่วนประกอบหลักของร่างกาย ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังปอดได้สะดวก และยังช่วยให้ปอดชุ่มชื้น และช่วยพาสารพิษออกจากปอดด้วย
ทั้งนี้ การกินผักและผลไม้เป็นประจำให้ได้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม โดยแบ่งเป็นผักสุก 3 มื้อๆ ละ 2 ทัพพี ผลไม้ตามฤดูกาลวันละ 3-5 ส่วน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคปอด เนื่องจากผักและผลไม้อุดมไปด้วยวิตามินและ แร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินดี สังกะสี ซิลิเนียม สารอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยสร้างภูมิต้านทานและเสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้สามารถกำจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ผักและผลไม้ยังมีสาร ฟลาโวนอยด์ มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ปอดถูกทำลายได้