เป็นประเด็นร้อนๆ ที่สังคมไทย บรรดาผู้บริโภค และได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ขณะนี้ สำหรับกรณีขนมดังสนั่นโลกออนไลน์ ที่ล่าสุด ระบุว่า ขนมนี้มีความกังวลใจถึงภัยร้าย นั่นก็คือกรณีของ "ขนมไขขี้ผึ้ง" ที่มีรูปลักษณะ เป็นขนมน้ำหวานสีสวย น่ารัก ที่เคลือบไขขี้ผึ้ง แต่ทว่าภายใต้ความสวยงามนี้ มีความอันตรายแฝงอยู่ หากเผลอกลืนไขขี้ผึ้งเข้าไป
(อันนี้ยาวหน่อย)
กระแสแรงจนติดงอมแงมกันเหลือเกินไอ่ขนมไขขี้ผึ้งเนี่ย เข้าใจนะว่ามันกินได้ แต่อยากให้ตระหนักสักนิดนึงว่ามันก็มีอันตรายแฝงอยู่ โดยเฉพาะลูกๆหลานๆ
ขนมไขขี้ผึ้ง จะเรียกว่าขนมก็กระไรอยู่ ข้างในเป็นน้ำหวานรสผลไม้ เคลือบด้วยขี้ผึ้ง เวลากินก็แค่กัดแล้วดูดน้ำข้างในเยิ้มๆแค่นั้น
หลายคนมองว่ามันเป็นขนมก้อน กินง่าย กินได้ทั้งก้อน แต่หารู้ไม่ว่าห้ามกลืนขี้ผึ้งเด็ดขาด
ให้นึกภาพเคี้ยวเทียนอ่ะ เคี้ยวไหวไหมล่ะ แล้วนี่ยังจะกลืนอีก ท้องไส้ย่อยยากเด้อ หนักกว่าเดิมอี๊ก!!!!
อยากจะเตือนว่าถ้าเป็นไปได้ ไม่อยากให้กินขนมแบบนี้เลย ไม่รู้ว่าอร่อยยังไง อย. ก็ไม่มี แต่เด็กๆกินไม่ดีแน่ ถึงแม้จะมีคำเตือนก็ตาม
ยังไงก็ฝากเตือนๆกันด้วย เลี่ยงได้เลี่ยง
บางอย่างไม่ต้องตามกระแสก็ได้จ้า
#ผู้บริโภค
โดยประเด็นที่ถูกพูดถึงจำนวนมากนี้ ย้อนไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึง "ขนมไขขี้ผึ้ง" ที่ขายผ่านช่องทางออนไลน์ อ้างนำเข้าจากประเทศจีน ว่า
จากการตรวจสอบพบว่า ไม่ได้รับการอนุญาตจาก อย. ถือเป็นการนำเข้าอาหารโดยผิดกฎหมาย เรียกกันว่าขนมเถื่อน และไม่มีฉลากภาษาไทย ตอนนี้ อย. ได้ออกหนังสือไปยังทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้นำสินค้าดังกล่าวออกจากการจำหน่าย
ซึ่งหากแพลตฟอร์มไม่ดำเนินการนำสินค้าดังกล่าวออก ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 การจำหน่ายอาหารที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท ล่าสุดในแพลตฟอร์มของลาซาด้า จะไม่เจอ "ขนมไขขี้ผึ้ง" แล้ว ส่วนในช้อปปี้ ก็เริ่มทยอยออกแล้ว แต่ที่ขายในแพลตฟอร์มติ๊กต็อกนั้น จะเป็นการขายโดยผู้ที่เป็นแม่ค้า โดยใช้แพลตฟอร์มเป็นช่องทางขาย ผู้ที่ขายจะมีความผิดด้วย
หากแพลตฟอร์มใด ไม่ดำเนินการนำสินค้าดังกล่าวออกก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 การจำหน่ายอาหารที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
นอกจากนี้ ในส่วนกรณีไลฟ์สดจำหน่ายนั้น "ขนมไขขี้ผึ้ง" ในแพลตฟอร์มติ๊กต็อก จะถือว่ามีความผิดหรือไม่นั้น ทางด้าน ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการ อย. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า
"โดยปกติแล้ว ขี้ผึ้ง ไม่ใช่สิ่งที่เราควรรับประทาน ส่วนอีกประเด็น คือสินค้าไม่มีฉลากภาษาไทยและไม่มีเครื่องหมาย อย. เท่ากับว่าผู้บริโภคจะไม่ทราบถึงกระบวนการผลิต ว่ามีคุณภาพ ถูกสุขลักษณะหรือไม่ ดังนั้นผู้บริโภคไม่ควรรับประทาน"
"อย.จะต้องขอความร่วมมือจากแพลตฟอร์ม ให้ช่วยดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะหากมีการซื้อขายจริง ก็จะผิดในฐานการจำหน่ายสินค้าที่ไม่มีฉลาก อย. มีโทษกับทำแพลตฟอร์มและผู้ที่เป็นคนจำหน่ายด้วย"
อีกคำแนะนำจาก ด้าน รศ.ดร.เชาวนี ชูพีรัตน์ รอง ผอ.สถาบันโภชนาการ เปิดเผยว่า
"ขนมไขผึ้งนี้ นอกจากเสี่ยงติดคอ จากการเคี้ยวกลืนขนม แล้ว แว็กที่เคลือบขนม ยังทำให้ระบบทางเดินอาหารไม่ย่อย เสี่ยงลำไส้อุดตัน เพราะร่างกายไม่สามารถดูดซึมไขขี้ผึ้งได้ ยิ่ง ผลิตภัณฑ์นี้ไม่มีอย. ก็ยังไม่สามารถประเมินได้อีกว่า มีสารปนเปื้อนอื่นตกค้างหรือไม่"
"ส่วนกรณีที่เด็กดูดกลืนน้ำหวานของขนมนั้น เพราะไม่มีอย. ทำให้ไม่มีข้อมูลว่า สิ่งที่ทุกคนหรือเด็กๆ เข้าใจว่าเป็นน้ำหวานใช้ดูดกลืนนั้น เป็นน้ำตาลจริง หรือสารให้ความหวานกันแน่ หรือจะมีการผสมสีอื่นๆ หรือสารอะไรลงไปหรือไม่ อยากเตือนว่า อย่ารับประทาน ควรหลีกเลี่ยง ขนมอื่นมีให้รับประทานอีกเยอะ แม้ไม่รู้ว่าเป็นสารอะไร แต่ทำให้ฟันผุแน่นอน และเกิดอาการอ้วนตามมาได้ด้วย"
อย.-สถาบันโภชนาการ เตือน "ขนมไขขี้ผึ้ง" กินไปไร้ประโยชน์ เสี่ยงลำไส้อุดตัน เพราะขี้ผึ้งใช้ในอุตสาหกรรมยาภายนอก เครื่องสำอาง ทานไปไม่ย่อย เตือนแพตฟอร์มออนไลน์ ห้ามจำหน่าย ไม่ตราอย.เข้าข่ายขนมเถื่อน
ย้อนอ่านโพสต์ก่อนหน้านี้
7 ธันวาคม 2566 เฟซบุ๊กผู้บริโภค ได้โพสต์ถึงขนมชนิดหนึ่ง รูปร่างหน้าตาเหมือนเทียนไข แต่ข้างในมีไส้หวานๆ เปลือกที่เป็นไขนั้นลักษณะเนื้อคล้ายเทียน กัด ดูดน้ำ บางคนเคี้ยว แล้วคายขี้ผึ้งออก
"กระแสแรงจนติดงอมแงมกันเหลือเกิน ขนมไขขี้ผึ้ง จะเข้าใจนะว่ามันกินได้ แต่อยากให้ตระหนักสักนิดนึงว่ามันก็มีอันตรายแฝงอยู่ โดยเฉพาะลูกๆ หลานๆ นมไขขี้ผึ้ง จะเรียกว่าขนมก็กระไรอยู่ ข้างในเป็นน้ำหวานรสผลไม้ เคลือบด้วยขี้ผึ้ง เวลากินก็แค่กัดแล้วดูดน้ำข้างในเยิ้มๆ แค่นั้น"
"หลายคนมองว่ามันเป็นขนมก้อน กินง่าย กินได้ทั้งก้อน แต่หารู้ไม่ว่าห้ามกลืนขี้ผึ้งเด็ดขาด ให้นึกภาพเคี้ยวเทียนอ่ะ เคี้ยวไหวไหมล่ะ แล้วนี่ยังจะกลืนอีก ท้องไส้ย่อยยากเด้อ หนักกว่าเดิมอีก"
อยากจะเตือนว่าถ้าเป็นไปได้ ไม่อยากให้กินขนมแบบนี้เลย ไม่รู้ว่าอร่อยยังไง อย. ก็ไม่มี แต่เด็กๆ กินไม่ดีแน่ ถึงแม้จะมีคำเตือนก็ตาม ยังไงก็ฝากเตือนๆ กันด้วย เลี่ยงได้เลี่ยง บางอย่างไม่ต้องตามกระแสก็ได้จ้า”
ต่อมา ทางด้าน "หมอแมว" หรือ นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา ท่านได้เข้ามาคอมเมนต์ ใจความระบุว่า
"คือสมัยก่อนมันเป็นขนมมาในรูปขวดขี้ผึ้งยาวข้อนิ้วกว่าๆ ตรงกลางเป็นน้ำหวาน เวลาจะกินก็กัดหัวคายทิ้งแล้วบีบน้ำหวานดูดออก บางอันก็แบบเป็นท่อทรงกระบอก ไม่ค่อยมีใครกินตัวขวดกัน อารมณ์ประมาณดูดน้ำหวานดอกเข็มแต่ปริมาณเยอะกว่าเดี๋ยวนี้ทำเป็นรูปอื่น มันบีบน้ำหวานไม่หมด"
ขณะที่บรรดาผู้บริโภคและชาวโซเชียลจำนวนมาก ต่างรู้สึกกังวลใจว่า จะเป็นอันตรายต่อเด็กที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งนี้ ทาง อย. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรรีบเข้ามาตรวจสอบ และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นร้อนๆ นี้เป็นกรณีเร่งด่วน
ส่องคอมเมนต์ปังๆ
เป็นต้น
คอข่าวสามารถติดตามอ่านต่อ ได้ที่นี่ >>