
15 พฤศจิกายน 2566 จากกระแสร้อนแรงก่อนหน้านี้ #แบนเที่ยวเกาหลี มีคนไทยไปท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ ถูกตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ปฏิเสธ ถูกส่งกลับประเทศ โดยไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง ทั้งที่มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ ทั้งจองที่พัก รายละเอียดการท่องเที่ยว รวมทั้งเป็นบุคคลที่มีการทำงานมั่นคง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตุว่า คนไทยถูกจับตาในการเข้าประเทศเกาหลีใต้เป็นพิเศษ จากการลักลอบทำสิ่งผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ โดยเฉพาะ "ผีน้อย" หรือแรงงานผิดกฎหมาย ที่เดินทางไปทำงานที่เกาหลีใต้จำนวนมากกันมากขึ้น ในขณะที่ทางเกาหลีใต้ออกมาระบุว่า ไม่ได้มีการเพ่งเล็งคนไทยเป็นพิเศษ แต่เป็นวิจารณญาณของเจ้าหน้าที่ ตม. เท่านั้น
ล่าสุด เกิดเรื่องราวดรามา #แบนเที่ยวเกาหลี ขึ้นอีกครั้ง เมื่อเพจเฟซบุ๊ก "Happy Together" ซึ่งประกอบกิจการบริษัททัวร์ โพสต์ตามหาลูกทัวร์ที่หายไปจากโรงแรมกลางดึก ไม่สามารถติดต่อได้ พร้อมลีฟออกจากกรุ๊ปไลน์ โดยทางบริษัททัวร์ เกรงว่า ไกด์ต้องเดือดร้อน ถูกแบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศเกาหลีใต้ในระยะยาว เนื่องจากไปช่วยการันตีทั้งสองนักท่องเที่ยว วิงวอนให้กลับประเทศภายใน 90 วัน โดยมีรายละเอียดระบุว่า..
📌📌 #ฝากแชร์ต่อค่ะ หรือ ท่านไหนที่รู้จักลูกค้า 2 ท่าน
#คุณธัญญาพร กXXXXXXXXXX
#คุณเอกลักษณ์ กXXXXXXXXXX
รบกวนแจ้งลูกค้าเดินทางกลับไทยด่วนนะคะ!! เนื่องจากลูกค้าได้ หายไปจากที่พักของทัวร์ ตอนตี 2 ของวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 และจนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้
หากท่านไหนรู้จักลูกค้า 2 ท่านนี้รบกวนช่วยแจ้งลูกค้าด้วยว่า หากลูกค้าไม่กลับไทยภายใน 90 วัน “หัวหน้าทัวร์” จะโดนแบล็กลิสห้ามเข้าเกาหลี 5 - 10 ปี เนื่องจากหัวหน้าทัวร์ช่วยการันตีลูกค้าให้ผ่าน ตม. เพราะลูกค้าได้โชว์ ทะเบียนสมรส, ข้อมูลและรูปถ่ายเกี่ยวกับธุรกิจส่วนตัว รวมถึงสเตจเม้นท์ ยอดเงินในบัญชีกว่า 300,000 บาท ทำให้หัวหน้าทัวร์มั่นใจ และตัดสินใจการันตีลูกค้า
ตอนนี้ทางเราได้แจ้งทาง ตม.เกาหลี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราไม่มีส่วนรู้เห็น อีกทั้งทางเรามีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน และทางเราจะแจ้งความดำเนินคดีกับลูกค้าทั้ง 2 ในขั้นตอนต่อไป
นี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ทุกบริษัททัวร์แจ้งหัวหน้าทัวร์ว่า ห้ามเซ็นการันตีลูกค้า เพราะอย่างที่ทราบกันว่าถ้าลูกค้าไม่กลับพร้อมทัวร์ ทางหัวหน้าทัวร์จะต้องเป็นคนรับผิดชอบ และโดนทางเกาหลี Blacklist ไม่ให้เข้าประเทศเกาหลีอีกต่อไป
#ทัวร์เกาหลี #Happytogether #ตมเกาหลี #keta #วีซ่าเกาหลี
ภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป กระแส #ท่องเที่ยวเกาหลี ร้อนแรงอีกครั้ง ได้มีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย เข้ามาแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง รวมทั้งเป็นห่วงไกด์ถึงการถูกแบนเข้าเกาหลีในระยะยาว จึงได้ช่วยการส่งจ่อข้อความของโพสต์ และไปแจ้งตามหาในเพจท่องเที่ยวต่างๆ ดังนี้