
เปิดข้อมูลเบื้องลึก อ้างอิงจาก ป.ป.ช. ชวนส่องบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของ "เสี่ยโต้ง" สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อดีตสส.ศรีสะเกษคนดัง ล่าสุดรับหน้าที่โฆษกกระทรวงศึกษาธิการและอีกบทบาทที่โซเชียลคุ้นเคยคุ้นชื่อกันดีใน ฐานะผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ "สัปเหร่อ" และ ไทบ้านเดอะซีรีส์
จากความสำเร็จเกินคาดหมาย เกินคาดหวังของหนังดังในวันนี้ ภาพยนตร์"สัปเหร่อ" ที่ยังคงเดินหน้าโกยรายได้ ยังทำผู้คนในสังคม คอหนังและคนทั่วไป ได้รู้จักผู้กำกับคนดังอีกชื่อหนึ่ง "ต้องเต" และบรรดานักแสดงของอาณาจักรไทบ้านไปพร้อมๆ ด้วยเช่นกัน
มาทำความรู้จัก "เสี่ยโต้ง" กันอีกครั้ง
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ชื่อเล่น "โต้ง" เกิดวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2519 ปัจจุบันอายุ 47 ปี
"สิริพงศ์" เกิดที่ตำบลเมืองเหนือ อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ท่านเป็นบุตรของนายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองศรีสะเกษ และนางสกุลทิพย์ อังคสกุลเกียรติ
ประวัติการศึกษา
แต่เดิมครอบครัวทำอาชีพโรงสีไฟ แต่ต่อมาประสบภาวะขาดทุน จึงหันมาประกอบธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง จำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จ รายเดียวในจังหวัดศรีสะเกษ กิจการเติบโตตามลำดับ ครอบครัวมีฐานะดีขึ้น ก่อนที่บิดาจะสนับสนุนให้สิริพงศ์เรียนทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยรังสิต
หลังเรียนจบ "สิริพงศ์" เข้าทำงานที่บริษัทที่ปรึกษาออกแบบถนนของกรมทางหลวงชนบท และกรมโยธาธิการ ก่อนตัดสินใจไปเรียนปริญญาโทที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังเรียนจบ กลับมาสานต่อโครงการบ้านจัดสรรของครอบครัวในจังหวัดศรีสะเกษ กระทั่งปิดโครงการสำเร็จ
คุณพ่อของเขาจึงนำกำไรมาซื้อที่ดินอีกแปลงหนึ่งให้เป็นสมบัติเพื่อต่อยอดธุรกิจ จึงได้ก่อตั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริมงคลพร๊อพเพอร์ตี้ ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว ทั้งหมด 7 โครงการ รวมกว่า 1 พันยูนิตในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ รวมทั้งทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ ก่อนขยายธุรกิจบ้านจัดสรรไปยังพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี
นอกจากนี้ "สิริพงศ์" ยังเคยทำธุรกิจอื่นอีก อาทิ โรงเรียนกวดวิชา ธุรกิจรถนำเข้า ร้านอาหารญี่ปุ่น ธุรกิจเฟรนส์ไชส์ ร้านกาแฟ รวมทั้งเป็นนายทุนให้กับ ไทบ้าน เดอะซีรีส์ และภาคต่อของภาพยนตร์ดังกล่าว
เส้นทางคนการเมือง
นายสิริพงศ์ เริ่มก้าวสู่ถนนการเมือง โดยเป็น สส.ศรีสะเกษ พรรคชาติไทย เมื่อปี 2550 และเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทย แต่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2551 (บ้านเลขที่ 109) กระทั่งพ้นกำหนดเวลาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง จึงได้เข้าสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนาและเคยได้รับเสนอชื่อวางตัวเป็นเลขาธิการพรรค
ต่อมานายสิริพงศ์ ได้ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ก่อนที่จะลงสมัคร สส.ศรีสะเกษ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ชนะนายธเนศ เครือรัตน์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย เป็นสส.สมัยที่ 2 ได้เป็นผลสำเร็จ
นายสิริพงศ์ เคยได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 2 สมัย คือ เมื่อปี พ.ศ. 2550 จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดพรรคชาติไทย และอีกครั้งเมื่อปี 2562 จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดพรรคภูมิใจไทย
ย้อนอ่านมุมมองการเมืองแบบสิริพงศ์ "ไม่ซ้ายจัด-ไม่ขวาจัด"
“ผมเติบโตในยุคที่ประชาธิปไตยเต็มใบ แต่พรรคการเมืองเสียงข้างมากในเวลานั้น บอกว่าทุกคนที่ไม่สนับสนุนพรรคถือเป็นศัตรู และจะไม่ได้รับการสนับสนุน เช่น ถูกขึ้นบัญชีรายชื่อว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ใครโหวตสวนมติพรรค จะไม่ถูกส่งลงสมัคร ขณะที่การอยู่พรรคขนาดกลาง กลับทำให้ได้เป็นตัวของตัวเอง
ผมควรอยู่ข้างไหน ข้างที่เรียกตัวเองว่าเป็นประชาธิปไตย แต่แท้จริงเป็นเผด็จการ หรือข้างที่เป็นเผด็จการเพื่ออ้างความถูกต้อง แต่สุดท้ายตัวเองก็ทุจริต แล้วใครอยู่ข้างประชาชน ผมศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย ฉะนั้น รูปแบบใดที่เป็นเผด็จการ ทั้งเผด็จการทหารหรือเผด็จการประชาธิปไตย ผมก็ไม่นิยม
นักการเมืองควรทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ทหารเข้ามามีบทบาทในการเมืองอีก
“ก่อนอื่นต้องยอมรับก่อนว่า ที่ผ่านมานักการเมืองมีส่วนอย่างมากในการเร่งปฏิกิริยาให้เกิดรัฐประหาร ดังนั้น ทางออกคือต้องเรียนรู้ว่าอย่าเอาชนะกันแค่เพียงการเมือง อย่าเอาอุดมการณ์มาอ้าง อย่าเอาศรัทธาของประชาชนมาเป็นตัวประกัน และคิดถึงประเทศชาติให้มาก ส่วนคนไทย ผมคิดว่ามีแค่ 3 คำสำหรับการมาถึงของรัฐประหารทุกครั้งคือ อดทนไม่เป็น เย็นไม่พอ รอไม่ได้”
การเมืองต้องใช้ทุน แต่ต้องใช้ให้เป็น(ประโยชน์)
รู้กันดีว่า "สิริพงศ์" เขาคือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ กิจการของเขาแตกแขนงหลายสาขา ทั้งด้านพัฒนาที่ดิน มีร้านอาหารญี่ปุ่น มีโชว์รูมรถ และยังเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชื่อดังที่คุ้นหูคอหนังไทยอย่าง “ไทบ้านเดอะซีรีส์” พลันที่ “สิริพงศ์” ย่างเข้ามาทำงานบนเส้นทางสายการเมือง แทบจะเป็นเรื่องอัตโนมัติที่คนในสังคมบางส่วน อาจมองข้ามความสำเร็จทางธุรกิจของเขา และเห็นเพียง ความเป็นนักธุรกิจ ที่หวังจะเข้ามากอบโกยผลประโยชน์และอำนาจจากตำแหน่งหน้าที่
ผมคิดว่าสังคมมองภาพลบกับทุกคน เห็นตำรวจก็ด่าตำรวจ นักการเมืองก็ด่านักการเมือง เพราะสังคมไทยเป็นสังคมกูดี แต่ผมก็พยายามพิสูจน์ตัวเองในพื้นที่มาตลอด ว่าไม่เคยรับงานหลวง ไม่เคยทำอาชีพที่เกี่ยวกับระบบสัมปทาน สิริพงศ์ชี้แจงข้อครหา
ได้เวลาเปิดตู้เซฟ อ้างอิงชุดข้อมูลจากการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดจากทาง ป.ป.ช.
บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ เสี่ยโต้ง หรือ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นกรณีพ้นจากตำแหน่ง สส.เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 พบรายละเอียดดังนี้
ย้อนประวัติการทำงานย้อนหลัง 5 ปี
ชวนคอข่าว เจาะข้อมูลเชิงลึก เฉพาะทรัพย์สินและหนี้สินเฉพาะของ เสี่ยโต้ง พบข้อมูลปรากฎดังนี้
หนี้สิน
หากมาดูกันที่การชี้แจงบัญชีทรัพย์สิน
หนี้สิน
ขอขอบคุณที่มาข้อมูล: สำนักงานป.ป.ช. / ฐานเศรษฐกิจ
ขอขอบคุณเครดิตภาพ: สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ