svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน 

16 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เป็นกระแสแชร์สนั่นโซเชียลอีกครั้ง หลัง จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี เผย พร้อมเป็นพยาน กกต.ไต่สวน ว่ายังคงสถานะสื่ออยู่หรือไม่ ยืนยันมีหลักฐานการเลิกจ้าง หนังสือรับเงินชดเชย วอนอย่าสร้างตราบาปให้กัน ข่าวนี้ต้องจับตาทุกประแสร้อนๆ กันต่อไป

"อย่าเอาสื่อที่พวกผมรัก เคยเอาชีวิตไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาเป็นแพะทางการเมือง อย่าสร้างตราบาปให้กับสื่อที่ถูกปิดไปอีกเลยครับ ถ้าท่านต้องการไต่สวนผม ผมพร้อมจะไป แต่ขอให้แจ้งล่วงหน้านิดหน่อย เพราะส่วนใหญ่ผมอยู่แต่ในสวนของผมครับ"

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน 

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 2566 ได้เกิดประเด็นร้อนให้คอข่าวสายการเมืองได้ติดตามกันต่อ มาครบทั้งในมิติการเมือง และมิติการบวนการยุติธรรม เมื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นคำร้องต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส. และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่ เนื่องจากมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น

ความคิดเห็นถูกแบ่งออกเป็น 2 ด้าน ในขณะที่ชื่อของสถานีโทรทัศน์ iTV หรือ ไอทีวี ทีวีเสรี ได้เลือนลางไปจากความทรงจำของผู้คนจำนวนมาก และแน่นอนว่าคน Gen Z เกิดไม่ทัน ไม่เคยได้เห็นการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ iTV 

จากกรณีที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบว่า การที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่ เนื่องจากมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น ขณะที่ นายพิธา ได้ออกมาชี้แจงว่าหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นมรดก และเคยหารือและชี้แจงเรื่องนี้กับ ป.ป.ช.แล้ว 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >>

ปธ.กกต. ขอบคุณปชช.ร่วมใช้สิทธิเลือกตั้ง เล็งคลี่ปมหุ้นสื่อ "พิธา"

"ส.ว.กิตติศักดิ์" ลั่น สเป็กนายกฯ ต้องจงรักภักดี ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน  ส่วนทางด้าน กกต.ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า จะมีผลต่อการรับรองผลการเลือกตั้งหรือไม่ว่า ตอนนี้มีคำร้องแล้วก็จะต้องตรวจสอบว่าเป็นไปตามระเบียบหรือไม่ ซึ่งจะมีการเรียกมาชี้แจง ซึ่งจะต้องใช้เวลาและถ้าถึงเวลาจะประกาศให้ทราบ

ล่าสุดปรากฎกระแสข่าวร้อนๆ ย้อนไปเมื่อวานนี้ (15 พ.ค. 2566) ที่เพจเฟซบุ๊ก จตุรงค์ สุขเอียด ได้โพสต์ข้อความระบุไว้ว่า

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน   

"เรียนประธาน กกต. ผมนายจตุรงค์ สุขเอียด เป็นอดีตประธานสหภาพแรงงานหัวหน้างาน บ.ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เป็นพิธีกรรายการถอดรหัสและบรรณาธิการข่าวเฉพาะกิจ เป็นหน้าที่สุดท้ายในวันที่ไอทีวี ถูก สปน.สั่งยึดความถี่จนมีสภาพจอดำเมื่อปี 2550 ก่อนเปลี่ยนผู้ผลิตใหม่ เป็นไทยพีบีเอสจนถึงปัจจุบัน


ปี 2549 ผมเป็นตัวแทนพนักงานไอทีวีทุกคน ไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราวจากกรณีรปิดไอทีวีจาก มติ ครม.ปี 2549 ต่อมาศาลปกครองไต่สวนผมและคณะ แล้วมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเป็นเวลา 1 ปี จากปี 2549-2550 จึงเปลี่ยนการออกอากาศในชื่อทีไอทีวี แล้วเมื่อครบจึงให้ยกเลิกความคุ้มครอง เท่ากับบริษัทไอทีวีไม่มีคลื่นความถี่มาออกอากาศได้ทันที


วันรุ่งขึ้นพวกพนักงานนับพันคน หลายพันชีวิตในครอบครัวลำบากมากครับ จากการตกงาน บริษัทไอทีวีจึงกำหนดการชำระเงินเลิกจ้างตามกฎหมายแรงงาน พนักงานบางส่วนถูกถ่ายโอนไปสังกัดไทยพีบีเอส โดยนับอายุงานใหม่ เพราะไม่ใช่บริษัทเดียวกันและไม่ใช่ไอทีวีสาขา 2 แต่อย่างใด เพราะไม่เกี่ยวข้องใดๆ ต่อกัน พนักงานบางส่วนชราภาพไม่มีที่ทำงานต้องกลับบ้านเดิมจนวาระสุดท้าย บางส่วนได้งานทำในสื่ออื่นๆ ตามความรู้ความสามารถ ส่วนผมทำงานกับช่อง 3 ในข่าว 3 มิติจนปัจจุบัน


ผมพร้อมไปเป็นพยานให้คณะกรรมการไต่สวนให้กับท่านได้ว่าไอทีวียังคงทำหน้าที่สื่อสารกับประชาชนอยู่หรือไม่ การสิ้นสุดสถานภาพสื่อสารต่อสาธารณในฐานะสื่อมวลชนยุติไปแล้วหรือไม่ พร้อมมีหลักฐานการเลิกจ้าง หนังสือเลิกจ้าง หนังสือรับเงินชดเชยการเลิกจ้าง หนังสือการไปรับเงินสงเคราะห์คนว่างงานจากกระทรวงแรงงาน และตลอด 16 ปีที่ผ่านมาในฐานะที่เป็นสื่อมวลชน ผมไม่เคยได้เห็นหรือรับชมข่าวใดๆ จากการแพร่ภาพจากไอทีวีเลยในทุกช่องทาง


ผมจึงต้องการให้ท่านสอบถามข้อเท็จจริงในบทบาทหลังปี 2550 ของไอทีวีให้ปรากฏก่อนจะมีคำวินิจฉัย ในกรณีคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าไอทีวีเป็นสื่ออยู่ถึงตอนไหนกันแน่ๆ ผมไม่ใช่ติ่งคุณพิธา และพรรคการเมืองใดๆ ถ้าจะเป็นติ่งจากประวัติการทำงานผม คือมีติ่งเดียว คือติ่งความยุติธรรม เว้นแต่ท่านสามารถพิสูจน์ให้ผมและเพื่อนๆ ได้ว่า 16 ปีมานี้ คนไทยยังได้รับชมสื่อจากช่องไอทีวีอยู่โดยที่พวกผมไม่รู้มาก่อน ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ ก็ควรทำให้ทุกอย่างโปร่งใสและยุติธรรม

อย่าเอาสื่อที่พวกผมรัก เคยเอาชีวิตไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาเป็นแพะทางการเมือง อย่าสร้างตราบาปให้กับสื่อที่ถูกปิดไปอีกเลยครับ

ถ้าท่านต้องการไต่สวนผม ผมพร้อมจะไป

แต่ขอให้แจ้งล่วงหน้านิดหน่อย เพราะส่วนใหญ่ผมอยู่แต่ในสวนของผมครับ……"

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน 

อีกฟากฝั่งหนึ่งความคิดเห็นจากพิธีกรชื่อดัง ‘ต๊ะ นารากร ติยายน’ สาวเก่งอีกคนในวงการทีวี ในฐานะที่เคยร่วมงานกับ สถานีโทรทัศน์ iTV  ได้โพสต์เล่าเรื่องราววินาทีที่ iTV โดนปิดโดยระบุข้อความว่า  

“ เย็นวันนั้นที่กระดาษแผ่นหนึ่งไหลออกจากเครื่องรับแฟกซ์  ต๊ะจำได้ว่ากำลังเดินขึ้นบันไดไปห้องแต่งตัว  เพื่อเตรียมอ่านข่าว HotNews ตามปกติ  พอเห็นกระดาษแฟกซ์ก็เอื้อมมือไปหยิบ คิดว่าจะได้เอาไปให้บก.ที่ห้องข่าว

ใครจะคิดว่าอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ในสมัยนั้น จะเซ็นต์คำสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ และส่งมาทางแฟกซ์  ในคำสั่งนั้นระบุว่า “ ปิดสถานีภายในเวลา 24.00 น.”

พวกเราทุกคนรับรู้คำสั่งนั้นพร้อมกัน   ในเวลาที่เร่งรีบกับการเตรียมออกอากาศข่าวค่ำ  แน่นอนว่าพวกเราไม่ละทิ้งหน้าที่ ทุกคนตั้งใจทำงานของตัวเองอย่างดีที่สุด  อาจจะดีกว่าคืนที่ผ่านมาด้วยซ้ำ  เพราะรู้ดีว่าเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเรา  กับงานที่รัก และทีวีเสรีที่เป็นดั่งชีวิตของคนข่าวไอทีวีทุกคน

ต๊ะ เริ่มต้นการอ่านข่าวคืนนั้นด้วยการทักทายผู้ชมตามปกติ  อ่านข่าวตามลำดับรันดาวน์  พอถึงเบรคสุดท้ายต๊ะก็เริ่มบอกผู้ชมว่า

“นี่เป็นคืนสุดท้ายของทีไอทีวี (ตอนนั้นไอทีวีถูกเปลี่ยนเป็น TITV) พวกเราทุกคนเก็บของหมดแล้ว พอถึงเวลาเที่ยงคืนพวกเราจะต้องออกจากสถานีแห่งนี้ตามคำสั่ง  เราไม่รู้จะได้กลับมาอีกมั้ย  ดิฉันขอเป็นตัวแทนเพื่อนๆทุกคนกล่าวคำว่า ลาก่อน ”
 

ล่าสุด เพจดังฐานเศรษฐกิจ รายงานข่าวว่า 

สถานะ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 

จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2541 ทุนจดทะเบียน 7,800 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจประเภทการเผยแพร่ภาพยนตร์วีดิทัศน์และรายการโทรทัศน์ ข้อมูลการส่งงบการเงินล่าสุด ปี 2564 จากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า มีรายได้รวม 22,993,678 บาท รายจ่ายรวม 10,248,139 บาท มีกำไรสุทธิ 10,177,063 บาท

คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้มีมติให้เพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่เคยทำการซื้อขาย ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 

อ่านข่าวนี้ >>

ย้อนประวัติ "iTV" ไอทีวี หลัง พิธา ถูกร้อง ขาดคุณสมบัติ ปมถือหุ้นสื่อ

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน  ต่างชาติลุ้น ‘พรรคก้าวไกล’ จัดตั้งรัฐบาล ชี้ไม่การันตีเส้นทางสู่อำนาจ

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จาก พรรคก้าวไกล ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าวกับเว็บไซต์ National Public Radio ของสหรัฐฯว่า

“แนวทาง 3D ได้แก่ ปลอดทหาร ทำลายอำนาจผูกขาด และกระจายอำนาจ”  โดยเขาระบุด้วยว่า นี่เป็นวิธีที่ทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย และเป็นจุดจบของ “การนำทหารออกจากการเมือง เพื่อไม่ให้เกิดรัฐประหารเฉลี่ยทุกๆ 7 ปี

ปิดฉากการปกครองของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารที่เข้ามามีอำนาจในประเทศไทยนาน 9 ปี โดยผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการแสดงให้เห็นว่าพรรคก้าวไกล พรรคฝ่ายค้านสามารถคว้าชัยชนะท่วมท้น

สื่อสหรัฐฯ ระบุว่า ความแข็งแกร่งของพรรคก้าวไกลก็จริง แต่ไม่มีอะไรรับประกันเส้นทางสู่อำนาจ แม้วันนี้ยังไม่มีรายงานทุจริตระหว่างการลงคะแนนเลือกตั้งปี 2566 แต่ฮิวแมนไรท์วอทช์เรียกการเลือกตั้งนี้ว่า มีข้อบกพร่องโดยพื้นฐาน” อยู่แล้ว ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งจัดทำขึ้นหลังการรัฐประหารในปี 2557 
ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา มีการรัฐประหาร 2 ครั้ง ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้นายกรัฐมนตรี 3 คน และยุบพรรคฝ่ายค้านหลายพรรค ซึ่งการยุบพรรคถือเป็นภัยคุกคามที่มีนัยสำคัญต่อการเลือกตั้งครั้งนี้

ขณะที่พรรคเพื่อไทย หนามยอกอกรัฐบาลทหาร โดยมีทักษิณ ชินวัตรเป็นศัตรูตัวฉกาจ และแพทองธาร ชินวัตร เป็นหนึ่งในแกนนำพรรคที่สำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้ 

ปัจจุบัน พ่อและอาสาวของแพทองธารยังคงถูกเนรเทศ หลังทหารขโมยอำนาจจากตำแหน่งนากยรัฐมนตรี โดยกองทัพอ้างข้อหาว่าพวกเขาคอร์รัปชัน 

อย่างไรก็ตาม คาดจะทราบผลอย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์นี้ โดยจะเสนอชื่อประธานรัฐสภาและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภายในเดือน ก.ค.นี้ 

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน 

ขอขอบคุณที่มา กรุงเทพธุรกิจ 

ย้อนอ่านเรื่องราวดี 
ข้อคิดจาก "จตุรงค์ สุขเอียด" ในวันที่วงการสื่อหมองหม่น

 

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน 
..

เฟซบุ๊ก จตุรงค์ สุขเอียด  

เรื่องส่วนตัวของผม ในวันที่ฟ้าวงการสื่อหมองๆหม่นครับ....วันที่ผมมากรุงเทพฯ เมื่อปี 37 จำได้ว่าขอเงินแม่มาได้พันกว่าบาท จึงขึ้นรถไฟมาอาศัยเพื่อนอยู่แฟลตคลองจั่น

ผมจำได้ว่า ตกงานอยู่ 3-4 เดือน จนพี่จอม เพชรประดับ แนะนำให้ไปสมัครงาน ที่โต๊ะการศึกษา นสพ.มติชน ผมทำไม่ได้แม้แต่พิมพ์ดีด

แต่ก็ได้รับโอกาสให้ทดลองงานฟรีอยู่เกือบครึ่งเดือน จนได้งานทำ แล้วรุ่นๆพี่ (ดี้ ภาวิณี เจริญยิ่ง พี่ปฎิวัติ วสิกชาติและพี่ต่อศักดิ์ ประศาสน์ศิลป์ ) ก็สอนอบรมมาได้เป็นนักข่าว นสพ.เงินเดือนก็จับต้นชนปลายไม่ถึงไหน

ผมลาออกกลับไปบ้านแล้วบวชอยู่ จนมีการตั้งค่ายไอทีวี ขึ้นมา พี่ๆจากมติชนก็ย้ายมาด้วยจึงชวนกลับขึ้นมาอีก

ผมพบว่า เส้นทางข่าวทีวีมันโหดร้ายมากสำหรับ คนพูดทองแดงและลิ้นแข็งอย่างผม ผมอายและกลัวมาก จึงได้แต่ทำข่าวหลังกล้องอยู่หลายปี ทำแต่ข่าวให้คนอื่นๆ อ่านให้

ผมใช้ความขยันแทนการเลือกทำงานเอาหน้า บางวันจึงมีหมายข่าวด่วนให้ทำ 5-6 หมาย ผมก็ไปทุกสาย เพื่อให้มีที่ยืนในไอทีวี เพราะเปิดหน้าและลงเสียงไม่ได้

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน 

ทำให้หลาย บ.ก.เรียกใช้งานได้ข้ามสายมาตลอด

ข่าวที่ยาก ที่ซุ่มก็ต้องไปทำเพื่อทดแทนกับการเปิดหน้าอ่านเองไม่ได้

จนผมได้รับการอบรมการลงเสียงเรื่อยมา

แล้วสิ่งหนึ่งที่ผมทำมาตลอดคือฟังผู้รู้สอน จนผมมีงานที่แปลกแหวกแนวขึ้นทุกวัน จนเมื่อผมลงเสียงเองได้ มีคนทักว่า ถ้าเสียงคนนี้มาก็ต้องหันมาดูก่อน เพราะเป็นเรื่องไม่ปกติแน่

จนมีการเปลี่ยนพิธีกรถอดรหัส จากหัวหน้าผมคือพี่ก่อเขตต์ จันทร์เลิศลักษณ์ ซึ่งเป็นครูคนสำคัญของผมด้วย ออกไป ก็ขอให้ผมทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่นั้นแทน ผมบ่ายเบี่ยงอยู่นานแต่ที่สุด คุณกิตติ สิงหาปัดก็แนะนำให้ทำไป

 

ผมจึงเริ่มอยู่หน้าจอ มากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสำคัญมาตลอด ว่า อาชีพนักข่าว อย่าทิ้งสนามข่าว เพราะสนามข่าวคือตัวตนที่แท้จริงหากจะอยู่ในอาชีพนี้

ตลอด 20 กว่าปีผ่านมา ผมจึงยึดแนวทางนี้และความศักดิ์สิทธ์ของอาชีพนี้ คือ ไม่รับสินบน และไม่รับของ ขอของ ใช้เส้นสายหรืออะไร ที่จะเป็นประโยชน์ส่วนตน อันที่จะทำให้เกิดข่าวเกรงใจกันภายหลัง

ยิ่งผมทำผมก็ได้รับโอกาสมากขึ้น ทั้งจากพี่วสันต์ ภัยหลีกลี้ สมัยเป็นผอ.อสมท. จึงทำรายการเอง ชื่อห้องสืบสวนหมายเลข 9 ได้รับโอกาส จากคุณประวิทย์ มาลีนนท์ ทำรายการตรงจุดเกิดเหตุ และพี่สำราญ ฉัตรโท ให้มาเป็นโปรดิวส์เซอร์เรื่องเด่นเย็นนี้ และได้รับเป็นบ.ก.ข่าว 3 มิติ ให้กับพี่กิตติ ที่ย้ายจากช่อง 9 มาอยู่ช่อง 3

วันนี้ชั้นวางถ้วยรางวัลมีทุกสถาบันที่นักข่าวอาชีพมีอยู่ในบ้านผม มีบ้านหลังใหญ่ๆ จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน 

แต่ผมมาคิดว่า ชีวิตย่อมสูงสุดก็ลงต่ำ สำหรับคนที่อยู่ต่ำอยู่แล้วไม่มีอะไรเคยสูงสุด

ลูกสาวถามว่า ทำไมจะขายบ้านไปซื้อที่ ผมว่า อาชีพนักข่าว มีที่ทำกินอยู่ในอากาศ จับต้องไม่ได้ จะยกเป็นมรดกให้หนูกับน้องก็ไม่ได้ มันไม่มีตัวตน

สำหรับพ่อพอแล้ว จึงจะไปหาซื้อดินดี ปลูกต้นไม้ ไว้ให้ ลงปลูกเสียตอนนี้ 10-15 ปีหนูกับน้องเรียนจบมา ผลผลิตก็จะเริ่มออกมาให้เก็บเกี่ยวพอดี ไปเรียนรู้วิธีจัดการมาก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องลำบากแบบที่พ่อทำมา

ผมเล่ามาเพื่อขอให้กำลังใจสำหรับน้องๆ นักข่าว ที่อาจจะกำลังอยู่ในวิกฤติสื่อ ถ้ารักในเส้นทางนี้ ก็ต้องแสดงความขยันตั้งใจจริงให้นายจ้างเขาเห็นอุดมการณ์ เพราะอุดมการณ์กินได้จริงๆ

แต่สำหรับคนที่อาจจะเปลี่ยนเส้นทางผมคิดว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงชี้นำแนวทางไว้ให้อยู่แล้ว อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลงเลย เส้นทางใหม่อาจสวยงามกว่าที่เดิมๆ ก็เป็นได้

อย่าเสียใจกับการเปลี่ยนแปลง แต่ขอให้มีความมุ่งมั่นกับก้าวย่างใหม่ๆ บาดแผลทุกแผลย่อมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่จิตใจเรามากขึ้น

ผมก็พร้อมเสมอที่จะทำในสิ่งที่หัวใจของตัวเองคิดว่า ดีที่สุดสำหรับตัวเองและเพื่อนมนุษย์

ต้นทุนของแม่พันกว่าบาท มันต่อยอดได้มากมายมหาศาลแล้วครับ

(ขอกราบอภัยสำหรับผู้มีพระคุณที่ผมเอ่ยชื่อถึง แต่ทั้งนี้เป็นผู้มีส่วนทำให้ผมมีวันนี้ได้ จึงกล่าวเพื่อขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี่)

(คืนนี้ดูข่าว 3 มิติด้วยนะครับ เปิดใจสะใภ้เล่าต๋า แสนลี่ ครอบครัวค้ายาเสพติดจริงหรือไม่)

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน 

เครดิตที่มา https://www.facebook.com/joyjaturong/posts/1279368565416942

เครดิตภาพ จาก MARS มา ณ โอกาสนี้ 

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน 

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน 

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน 

จตุรงค์ สุขเอียด อดีตบก.ไอทีวี ส่งโพสต์สนั่นโซเชียล ลั่นพร้อมเป็นพยาน 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >>

ปธ.กกต. ขอบคุณปชช.ร่วมใช้สิทธิเลือกตั้ง เล็งคลี่ปมหุ้นสื่อ "พิธา"

"ส.ว.กิตติศักดิ์" ลั่น สเป็กนายกฯ ต้องจงรักภักดี ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์

logoline