svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ปธ.กกต. ขอบคุณปชช.ร่วมใช้สิทธิเลือกตั้ง เล็งคลี่ปมหุ้นสื่อ "พิธา"

15 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ปธ.กกต." ปลื้มมีจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ก้าวไกลอันดับ 1 คว้า 151 ที่นั่ง ผลเลือกตั้งยังไม่ 100% มีหน่วยเลือกตั้งนครปฐมต้องเลื่อนลงคะแนน เหตุพายุกระหน่ำ เร่งรับรองให้เสร็จภายใน 60 วัน เล็งพิจารณาปมถือหุ้นสื่อ "พิธา" หลังอนุคกก.รับไม่รับคำร้อง

15 พฤษภาคม 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. แถลงข่าวสรุปภาพรวมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปี 2566ว่า ในวันเลือกตั้งมีผู้มาใช้สิทธิ์ทั้งหมด 39,293,867 หรือคิดเป็นร้อยละ 75.22 ภาพรวมผู้การใช้สิทธิ์ทางประเทศถือได้ว่า เป็นจำนวนสูงสุดที่ กกต. เคยจัดการเลือกตั้งมา เมื่อเทียบกับครั้งก่อนหน้านี้จำนวนผู้ใช้สิทธิ์ผู้เลือกตั้งจะอยู่ที่ร้อยละ 74.87

เพราะฉะนั้นถือว่า เป็นตัวเลขที่น่ายินดี ดังนั้นจึงขอขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ์อย่างมากที่สุด สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจในการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง และทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมายมากยิ่งขึ้น กกต. จะพยายามทำงานให้ดีที่สุดต่อไปจะปรับปรุงขึ้นเรื่อยๆ และขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน

ทั้งนี้ จากการรวบรวมคะแนนหน้าหน่วย ทั้ง 95,137 หน่วย เจ้าหน้าที่พยายามอยากให้ชัดเจนในช่วงเวลา 22.00-23.00 น. แต่ปรากฏว่า การรายงานผลเกิดความล่าช้า จึงขออภัยซึ่งภายใต้ความพยายามของผู้ปฏิบัติ ที่จะทำให้มั่นใจว่า การรายงานผลที่รวดเร็วจะต้องถูกต้องเป็นหลัก ถ้ารวดเร็วแล้วผิดเราไม่อยากทำอีก แต่ครั้งนี้ต้องขอขอบคุณประชาชน ที่ออกมาใช้สิทธิ์และสื่อมวลชนที่ใช้ข้อมูลจาก ETC Report ในการรายงานผล ซึ่งขณะนี้ ผลคะแนนมีมากถึงร้อยละ 99 แล้ว

โดยสรุปส.ส.แบบเขต อันดับ 1 พรรคก้าวไกล 112 ที่นั่ง อันดับ 2 พรรคเพื่อไทยได้ 112 ที่นั่ง อันดับ 3 พรรคภูมิใจไทยได้ 68 อันดับ 4 พรรคพลังประชารัฐได้ 39 อันดับ 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ 23 ที่นั่ง อันดับ 6 พรรคประชาธิปัตย์ 22 ที่นั่ง อันดับ 7 พรรคชาติไทยพัฒนา 9 ที่นั่ง อันดับที่ 8 พรรคประชาชาติ 7 ที่นั่ง อันดับ 9 พรรคไทยสร้างไทย 5 ที่นั่ง อันดับ 10 พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 ที่นั่ง อันดับ 11 ชาติพัฒนากล้า 1 ที่นั่ง

ปธ.กกต. ขอบคุณปชช.ร่วมใช้สิทธิเลือกตั้ง เล็งคลี่ปมหุ้นสื่อ "พิธา"

ส่วน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จะมีพรรคการเมืองที่ได้เก้าอี้ไป ทั้งหมด 17 พรรคการเมือง ประกอบด้วย 

พรรคก้าวไกลได้ 39 ที่นั่ง

พรรคเพื่อไทย ได้ 29 ที่นั่ง

พรรครวมไทยสร้างชาติได้ 13 ที่นั่ง

พรรคภูมิใจไทยได้ 3 ที่นั่ง

พรรคประชาธิปัตย์ได้ 3 ที่นั่ง

พรรคประชาชาติได้ 2 ที่นั่ง

และพรรคพลังประชารัฐ , พรรคเสรีรวมไทย , พรรคไทยสร้างไทย , พรรคประชาธิปไตยใหม่ , พรรคใหม่ ,พรรคชาติพัฒนากล้า ,พรรคท้องที่ไทย ,พรรคชาติไทยพัฒนา , พรรคเป็นธรรม ,พรรคพลังสังคมใหม่ ,พรรคครูไทยเพื่อประชาชน ได้พรรคละ 1 ที่นั่ง

ปธ.กกต. ขอบคุณปชช.ร่วมใช้สิทธิเลือกตั้ง เล็งคลี่ปมหุ้นสื่อ "พิธา"

อย่างไรก็ตาม ผลการนับคะแนนจะยังไม่ครบ 100% เนื่องจากมีหน่วยเลือกตั้งที่ 10 หมู่ 8 ต.บางแขม จ.นครปฐม เกิดเหตุการณ์มีพายุฝน ต้องหยุดการออกเสียงลงคะแนน เต็นท์ล้มเสียหายไม่สามารถดำเนินการเลือกตั้งต่อได้ ส่วนการกระทำผิดกฎหมาย

พบว่า มีกรณีจำหน่ายสุรา 7 ราย กรณีถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้ว 4 ราย กรณีฉีกบัตรหรือทำลายบัตร 24 ราย ส่วนคำร้องที่ได้รับรายงานขณะนี้มีทั้งหมด 168 เรื่อง เรื่องซื้อเสียง 59 เรื่อง เรื่องหลอกลวงใส่ร้าย 58 เรื่อง เรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยไม่ชอบ 18 เรื่อง และอื่นๆคือเรื่องการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง

สำหรับการรายงานผลในครั้งนี้ถือว่า ข้อมูลถูกต้องมากที่สุด และถ้าหากมีอะไรผิดพลาดก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบคะแนนให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน และกกต.จะประกาศผลอย่างเป็นทางการไม่เกิน 60 วัน  ซึ่งจะต้องพิจารณาตามข้อร้องเรียน และข้อเท็จจริงว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด

ส่วนกรณีการติดป้ายประชาสัมพันธ์เบอร์ผู้สมัครไว้ที่บอร์ดหน้าหน่วยเลือกตั้งนั้นก่อนหน้านี้ กกต. เคยแจ้งว่า จะมีการติดไว้ในหน่วยเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนที่มาใช้สิทธิ์สามารถมองเห็นได้ง่าย แต่เมื่อถึงวันเลือกตั้งกลับไม่เป็นเช่นนั้น บางพื้นที่มีการติดป้ายไวนิลไกลจากหน่วยเลือกตั้งทำให้มองไม่เห็น นายอิทธิพรกล่าว ชี้แจงว่า กกต. ได้แจ้งให้ปฏิบัติครบถ้วนแล้ว ว่าให้ติดในพื้นที่ที่มองเห็นได้ง่ายในระยะ 3-5 เมตร แต่การปฏิบัติอาจมีการปฏิบัติไม่ทั่วถึง ขึ้นอยู่กับบางพื้นที่ แต่ก็พยายามแก้ปัญหาว่าให้ติดในพื้นที่ที่ให้เห็นชัดที่สุด

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การแจกใบแดง ใบดำ ใบเหลือง นั่นจะเกิดขึ้นหากพบ การกระทำผิด หลังจากการประกาศผลรับรองแล้วซึ่งจะต้องยื่นให้ศาลฎีกาตัดสิน ส่วนใบส้ม กกต. จะเป็นคนวินิจฉัย หากพบว่า มีการกระทำผิด ซึ่งจะต้องให้ก่อนการประกาศผลรับรอง

พร้อมกันนี้ นายอิทธิพร กล่าวถึงการนัดประชุมด่วนวินิจฉัยกรณีกปน.ทำบัตรเลือกตั้งฉีกขาด แล้วยังให้ผู้ใช้สิทธิ์ใช้บัตรลงคะแนนได้ตามปกติว่า ในวันเลือกตั้งการวินิจฉัยเบื้องต้นเป็นอำนาจของ กปน. แม้จะมีการแปะสติ๊กเกอร์ แต่เมื่อกปน.มีการประชุมกันแล้วว่า เหตุการณ์เกิดจากความผิดพลาด และไม่มีเจตนา จากการที่กกต.ได้นัดประชุมจึงมีเห็นมีมติและเห็นพ้องต้องกันว่า  เป็นอำนาจของ กปน.ในการปฏิบัติหน้าที่โดยถูกต้อง

กรณีการนับคะแนนที่เขตบางพลัดห้ามให้ประชาชนดูการนับคะแนนและเอาคะแนนไปนับข้างในเขตนั้น นายอิทธิพร กล่าวชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่การนับคะแนน แต่เป็นการนำส่งอุปกรณ์การหน่วยนับคะแนนมาส่งที่เขต บางกอกน้อยซึ่งเป็นเขตหลัก ไม่ใช่เขตบางพลัด ซึ่งในพื้นที่มีประชาชนให้ความสนใจไปดูจำนวนมาก จึงไม่ใช่การนับคะแนนใหม่

อย่างไรก็ตาม กรณีเขตลาดกระบังมีการคัดค้านในช่วงการนำส่งอุปกรณ์ที่เขตเช่นเดียวกัน ทำให้ไม่สามารถนับคะแนนใหม่ได้เนื่องจากการทักท้วงคะแนนจะต้องทักท้วงหน้าหน่วยเลือกตั้งเท่านั้นไม่สามารถทักท้วงที่เขตได้

นอกจากนี้ นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงกรณีคำร้องถือหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าจะมีผลต่อการรับรองหรือไม่ ว่า เมื่อมีคนยื่นคำร้องแล้วก็เสมือนกับการจะเข้าสู่กระบวนการพิจาณา ซึ่งเหมือนกับกระบวนการศาล กกต.ก็จะพิจารณาว่าจะรับไว้เป็นคำร้องหรือไม่ หากรับก็ต้องสืบสวนไต่สวน สอบหาข้อเท็จจริง และต้องให้คณะอนุวินิจฉัยอีกครั้ง ก่อนจะเข้าสู่ที่ประชุมกกต. ต่อไป

logoline