svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

หมอดื้อ เผยผลวิจัยมีเพศสัมพันธ์ 21 ครั้ง/เดือน ลดเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก 20%

20 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"หมอดื้อ" หรือ "หมอธีระวัฒน์" แพทย์ดังเปิดผลวิจัย รายงานระบุว่า การมีเพศสัมพันธ์ 21 ครั้ง/เดือน ลดเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก 20% หมอธีระวัฒน์ชี้ผู้ชาย.ถึงอายุหนึ่ง จะมีปัญหาเรื่องฉี่ ระบุสาเหตุใหญ่สำคัญ คือ ต่อมลูกหมากโต และมีเยอะที่เป็นมะเร็งร้าย คอยคุกคามชีวิตคนเรา

อีกหนึ่งบทความที่ปรากฎในเพจของ หมอดื้อ หรือ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha) โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจ ระบุไว้ดังนี้ 

ปั่มปั๊ม อย่างน้อย 21 ครั้งต่อเดือน !! ลดเสี่ยงมะเร็งฯลูกหมาก ถึง 20%

หมอดื้อ เผยผลวิจัยมีเพศสัมพันธ์ 21 ครั้ง/เดือน ลดเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก 20%

จากการเสนอผลงาน ในที่ประชุมประจำปี สมาคมระบบทางเดินปัสสาวะของอเมริกา และมีตีพิมพ์ในวารสารฯ เป็นผลการศึกษาติดตาม โดยคณะศึกษา ทางระบาดวิทยามะเร็งที่บอสตัน 

ผลที่น่าตื่นเต้น คือ ความเสี่ยงเกิดมะเร็ง จะลดลงถึง 20% ถ้ามีอัตราการปั่มปั๊ม อยู่ในเกณฑ์อย่างน้อย 21 ครั้งต่อเดือน เมื่อเทียบกับผู้มีปฏิบัติการ 4 - 7 ครั้งต่อเดือน ส่วนความถี่ปั่มปั๊ม ในระดับอื่น ๆ ครั้ง จะลดเสี่ยงมะเร็งเท่าไร ก็มีแนะนำเช่นกัน

บทความ หมอดื้อ (13 มิ.ย. 2565) 

ชายเราถึงอายุหนึ่ง จะมีปัญหาเรื่อ“ฉี่” กล่าวคือ ยืนตั้งนานไม่ออกซักที ออกก็ไม่ค่อยจะพุ่ง เสร็จแล้วก็เหมือนไม่เสร็จ มีปัญหาจนไม่ค่อยอยากจะฉี่ ยอมอดน้ำเลยลุกลามไปจนเลือดข้นหนืด ไปมีปัญหาต่อไต ต่อหัวใจ อัมพฤกษ์ต่อสำหรับบุรุษเพศ 

หมอดื้อ เผยผลวิจัยมีเพศสัมพันธ์ 21 ครั้ง/เดือน ลดเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก 20%

หมอดื้อ เผยผลวิจัยมีเพศสัมพันธ์ 21 ครั้ง/เดือน ลดเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก 20%

สาเหตุใหญ่สำคัญ คือ ต่อมลูกหมากโต และมีเยอะที่เป็นมะเร็ง ถ้ายังไม่เป็น และยังไม่อยากผ่าตัด คว้านต่อม ก็มียาซึ่งเดิมเป็นยาลดความดัน แต่ความที่ทำให้หูรูดในการฉี่บานได้ เลยเอามาใช้ในการนี้ แต่ควรต้องระวังความดันตก หน้ามืด ยาประเภทนี้ ออกฤทธิ์ต้าน alpha receptor

ยาอีกกลุ่ม ทำให้ต่อมลูกหมากเล็กลง ผ่านกระบวนการยับยั้งฮอร์โมน DHT ที่มาจากฮอร์โมนเพศชาย (5-Alpha Reductase Inhibitor) เช่น ยา Finasteride (Proscar) Dutasteride (Avodart) แต่แถมผลข้างเคียง คือ ลดความต้องการทางเพศ ไม่ค่อยแข็งตัว การขับเคลื่อนน้ำกาม (ejaculation) แปรปรวน 

หมอดื้อ เผยผลวิจัยมีเพศสัมพันธ์ 21 ครั้ง/เดือน ลดเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก 20%

แต่ที่ต้องระวังเป็นสำคัญ คือ ยากลุ่มหลังนี้ ทำให้การตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมาก ที่ชื่อว่า PSA ได้ค่าลดลง จนถึงตรวจไม่เจอ เลยตายใจว่า ไม่เป็นมะเร็งทั้ง ๆ ที่เป็น 

รายงานในปี 2011 พบว่า แม้ยากลุ่มหลังนี้ จะลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้บ้าง 

แต่ถ้าเป็นแล้ว ยากลุ่มนี้ อาจกลับทำให้เป็นมะเร็ง แบบชนิดที่มีความรุนแรงลุกลามมากขึ้น

อาหารเสริมที่อ้างว่า ทำให้ต่อมเล็กลงชื่อ Saw Palmetto สกัดจากผลของ Serenoa Repens พบว่า ไม่มีประสิทธิภาพจริง และอาจทำให้การตรวจค่ามะเร็ง PSA ได้ผลลบปลอมถึงตอนนี้ มาถึงคำโบราณที่พูดกันมา ในกลุ่มผู้ชายทั้งหลายว่า หนทางสุขภาพ รวมทั้งต่อมลูกหมาก กันโต กันมะเร็ง คือ ปฏิบัติการ “ล้างท่อบ่อยๆ” (keep the pipes clean!)

และเป็นที่มาของ การศึกษาฮือฮาทั่วโลก นับแต่มีการเสนอผลงาน ในที่ประชุมประจำปีของ สมาคมระบบทางเดินปัสสาวะของอเมริกา และตีพิมพ์ในวารสาร European Urology (29 มีนาคม 2016)

หมอดื้อ เผยผลวิจัยมีเพศสัมพันธ์ 21 ครั้ง/เดือน ลดเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก 20%

ผลการศึกษา จากการติดตาม โดย คณะศึกษาทางระบาดวิทยามะเร็ง ที่ บอสตัน ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 31,925 คน ตั้งแต่ปี 1992 จนถึง 2010 โดยที่ ณ ปี 1992 อายุเกณฑ์เฉลี่ยอยู่ประมาณที่ 59 ปี ในช่วง 18 ปี ของการติดตามมี 3,839 ราย เกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก และ 384 ราย รุนแรงถึงชีวิต

ขั้นตอนในการวิเคราะห์เจาะลึก ตั้งแต่เริ่มต้นในปี 1992 มีการให้รายงานปริมาณจำนวนของ การขับเคลื่อนน้ำกาม (แทนในที่นี้ด้วยปั่มปั๊ม) ในช่วงเวลาตั้งแต่อายุ 20 - 29, 30 - 39, 40 - 49 และ 50 เป็นต้นไป ทั้งนี้มีการวิเคราะห์ของปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจมีส่วนให้เกิดมะเร็ง

หมอดื้อ เผยผลวิจัยมีเพศสัมพันธ์ 21 ครั้ง/เดือน ลดเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก 20%

ผลที่น่าตื่นเต้น คือ ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง จะลดลงถึงประมาณร้อยละ 20 ถ้ามีอัตราการปั่มปั๊ม อยู่ในเกณฑ์อย่างน้อย 21 ครั้งต่อเดือน เมื่อเทียบกับผู้มีปฏิบัติการ 4 - 7 ครั้งต่อเดือน 

 

การลดความเสี่ยงของมะเร็ง จะพบได้ในกลุ่มที่มีปฏิบัติการถี่ ทั้งทุก ช่วงอายุ เหตุผลที่ใช้อัตรา 4 - 7 ครั้งต่อเดือน เป็นบรรทัดฐานในการเปรียบเทียบ เนื่องจากมีน้อยมาก ที่กลุ่มคนในการศึกษานี้ ปฏิบัติในช่วง 0 - 3 ครั้งต่อเดือน จึงตัดออกไป

สำหรับปั่มปั๊ม น้อยกว่า 21 ครั้ง อย่าเพิ่งเสียใจ ถ้าอัตรา 8 - 12 ครั้งต่อเดือนในช่วง 40 - 49 ปี จะมีความเสี่ยงลดลง 10% และถ้าอยู่ในอัตรา 13 - 20 ครั้งต่อเดือน ในช่วงอายุนี้ จะมีความเสี่ยงลดลง 20% (มีนัยสำคัญทางสถิติ P trend <.0001)

เมื่อดูลึกละเอียดลงของกลุ่มปั่มปั๊ม 21 ครั้ง พบว่ากลุ่มนี้ กลับไม่ค่อยเป็นกลุ่มรักสุขภาพนัก กินเยอะ ดื่มเยอะ มีโอกาสเป็นโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์มาก และดูดบุหรี่เยอะ แต่กลุ่มนี้ ไม่ได้ตายเร็วขึ้น เนื่องจากสาเหตุอื่น ๆ 

กลไกของการป้องกันมะเร็งต่อม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดทั้งนี้เป็นได้ที่ ต่อมลูกหมากสะสมสารพิษ ที่จะก่อมะเร็งไว้ (prostate stagnation ) และการขจัดชะล้าง โดยการขับเคลื่อนออกไป อาจจะลดความเสี่ยง แต่ทั้งนี้อาจเป็นผลอื่น ๆ จากการที่มีการขับเคลื่อน หรือการออกกำลังปั่มปั๊ม อาจจะปรับเปลี่ยนสภาพ สภาวะแวดล้อมในเนื้อเยื่อต่อม อีกทั้งปฏิบัติการ อาจก่อให้เกิดความหรรษาสุข อย่างฉับพลันในวินาทีนั้น ก่อให้เกิดการสั่งงานผ่านสมอง มายังระบบภูมิคุ้มกัน

ข่าวนี้ ยังปรากฎ ใน Harvard news 2022

จะอย่างไรก็แล้วแต่ 21 ครั้งต่อเดือน เท่ากับมากกว่า 5 ครั้งต่ออาทิตย์ จัดเวลาให้ดีนะครับ อาจจะเสียชีวิตซะก่อน เกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก

อีกชุดบทความที่ทีมข่าวนำมาฝากกัน โดยนำมาจากเพจดัง Hello คุณหมอ ในบทความดีๆ ชุดนี้ได้เผยถึง มีเพศสัมพันธ์บ่อย ส่งผลต่อสุขภาพคู่รักอย่างไร?? อยากรู้ข้อดีแล้วใช่ไหม คอข่าว คนรักครอบครัว รีบอ่านเลยนะจ้ะ รับรองดีแน่นอน! ฟันธง

การมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ อาจช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคู่รักให้รู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น รวมถึงอาจมีประโยชนต่อสุขภาพโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม นอกจากนั้น ยังช่วยในเรื่องของการบรรเทาความเครียด ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ทำให้คุณภาพในการนอนหลับดีขึ้น แต่การมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ โดยที่ไม่ป้องกันก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน

หมอดื้อ เผยผลวิจัยมีเพศสัมพันธ์ 21 ครั้ง/เดือน ลดเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก 20%

ประโยชน์ของการมีเพศสัมพันธ์บ่อย

การมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ อาจส่งเสริมให้สุขภาพหัวใจแข็งแรง และยังสร้างความสุขให้แก่จิตใจได้ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ร่างกายรับมือกับภาวะต่าง ๆ ต่อไปนี้ได้ด้วย

เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์บ่อยจะมีสารภูมิต้านทานที่ชื่อว่า อิมมูโนโกลบูลินเอ (Immunoglobulin A หรือ IgA) เพิ่มขึ้นมากกว่าผูู้ที่ไม่ค่อยมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอิมมูโนโกลบูลินเอเป็นแอนติบอดีที่ทำหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกาย ด้วยการหลั่งสารน้ำออกมานอกร่างกาย โดยพบได้ในส่วนของเนื้อเยื่อช่องคลอด ต่อมน้ำลาย น้ำนม เหงื่อ อสุจิ เป็นต้น


บรรเทาความเครียด
ขณะที่กำลังมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้อารมณ์ดี นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายกำลังปลดปล่อยสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) และอ็อกซิโทซิน (Oxytocin) ส่งผลทำให้ความเครียดหรือเรื่องที่ไม่สบายใจลดลง

ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
การมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ อาจป้องกันโรคมะเร็งได้ เนื่องจากการหลั่งของเหลว (Ejaculate) หรืออสุจิทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยลง ทั้งนี้ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม


ทำให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น
หลังจากมีเพศสัมพันธ์เสร็จร่างกายอาจอ่อนเพลีย ส่งผลให้นอนหลับได้เต็มอิ่มและหลับได้สนิทขึ้น ซึ่งนั่นเป็นผลมาจากการที่ร่างกายหลั่งสารอ็อกซิโทซิน (Oxytocin) และสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ออกมา นอกจากนั้น โพรแลคติน (Prolactin) ในเลือดจะเริ่มทำการไหลเวียนจึงทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายจนเคลิ้มหลับไปในที่สุด

 

รู้ทัน..ผลเสียของการมีเพศสัมพันธ์บ่อย
การมีเพศสัมพันธ์ที่บ่อยจนเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในด้านต่าง ๆ ดังนี้

การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์บ่อยหรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย อาจเกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เนื่องจากแบคทีเรียในช่องคลอดเกิดการจับตัวเป็นก้อนและเดินทางเข้าสู่ท่อปัสสาวะ ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดขณะปัสสาวะ

อ่อนเพลีย
แม้การมีเพศสัมพันธ์บ่อยอาจช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น แต่ก็ส่งผลให้ร่างกายมีความอ่อนเพลียด้วยเช่นกัน เนื่องจาก การมีเพศสัมพันธ์เป็นการใช้พลังงานในการทำให้คู่รักถึงจุดสุดยอด ท้งยังใช้ระยะเวลานานพอสมควร ซึ่งอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดความอ่อนล้า เมื่อตื่นขึ้นมาความอ่อนล้าของกล้ามเนื้ออาจทำให้รู้สึกไม่สดชื่นและอยากนอนต่อ จนอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีอยู่ด้วยกันหลาประเภท เช่น หนองใน พยาธิในช่องคลอด โรคซิฟิลิส โรคเอดส์ ซึ่งสามารถติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ดังนั้น เมื่อมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนควรป้องกันด้วยการสวมถุงยางอนามัย ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ รวมถึงควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ โดยเฉพาะคู่รักที่ต้องการมีลูก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสุขภาพเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยได้รับผลกระทบจากโรคต่าง ๆ ที่จะตามมา

หมอดื้อ เผยผลวิจัยมีเพศสัมพันธ์ 21 ครั้ง/เดือน ลดเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก 20%

ขอขอบคุณที่มา Helloคุณหมอ

ขอขอบคุณที่มา: หมอธีระวัฒน์ 

อยากให้อ่าน >>

ปิดท้ายกับอีกโพสต์ที่เรียกว่า..สุดปัง!!


 

logoline