เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนอาจจะประสบอยู่กับ "อาการปวดหัว"
จนบางครั้ง อาการปวดหัวนี้มีอาการหนักขึ้นๆๆๆ จนถึงขั้น ปวดหัวเรื้อรัง กินยาพาราบรรเทาอาการแต่ก็ยังไม่หายปวดหัวสักที จนคิดว่านี่อาจจะเป็นผลจากอาการ "ความเครียดสะสม"
ถ้าหากใครมีอาการแบบนี้แนะนำควรรีบพบแพทย์โดยด่วน เพื่อตรวจร่างกายและทำการหาสาเหตุโดยด่วน ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกันผู้ป่วยรายนี้ ที่มีอาการปวดหัวเรื้อรังมานับปี ก่อนจะพบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง จนต้องเข้ารักษาโดยการผ่าตัด
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Arak Wongworachat เรื่องราวกรณีตัวอย่างของผู้ป่วยชายวัย 60 ปีคนหนึ่ง ที่มีอาการปวดหัวเรื้อรังมานับปี ก่อนจะพบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง โดยระบุว่า
"กรณีตัวอย่าง ปวดหัวเรื้อรังกว่า 1 ปี ตรวจพบเป็นเนื้องอกในสมอง ผู้ป่วยชายอายุ 60 ปี เศษ ให้ประวัติปวดศีรษะต่อเนื่องมากว่า 1 ปี ในระหว่างนั้นกินยาแก้ปวดพารา พอได้บรรเทา คิดว่าตนเองปวดหัวจากภาวะเครียด หรือการทำงานที่เหนื่อยล้า พอนานวันอาการปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องกินยาพาราบ่อยขึ้น ถี่ขึ้น ต่อมาเริ่มมีตาพร่ามัว และสังเกตตนเอง เวลาปวดหัวมักมีอาการหูอื้อตามมาด้วย ไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แนะนำให้ส่งพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูกที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
แพทย์ได้ตรวจอาการเบื้องต้น สงสัยอาจมีความผิดปกติทางสมอง จึงส่งตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง พบเป็นเนื้องอกในสมอง ขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร จึงส่งปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ระบบประสาท ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
แพทย์สั่งให้รับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาลทันที วางแผนผ่าตัด การผ่าตัดเนื้องอกในสมอง ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ระดับสูงของแพทย์ รวมถึงทีมงาน ไม่เพียงแต่ทำให้อาการปวดหัว อาการผิดปกติอื่นๆทางสมองหายเป็นปกติ จะต้องไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา หากก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ ยิ่งอาจมีผลกระทบต่อร่างกายมากเท่านั้น ใช้เวลาผ่าตัดกว่า 2 ชั่วโมง สำเร็จด้วยดี หลังผ่าตัดไม่มีแขนขาอ่อนแรง ไม่ปวดศีรษะ ตามองเห็นชัดดี อาการหูอื้อลดลง จนหายเกือบเป็นปกติ
หากมีอาการปวดหัวเรื้อรัง มีอาการตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน พูดลำบาก พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง
อย่าละเลย รีบปรึกษาแพทย์ #ทีมโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์"
ขอขอบคุณที่มา: Arak Wongworachat
เปิด 4 วิธีบรรเทาอาการปวดหัวแบบต่างๆ ให้ดีขึ้น
ตรวจอาการปวดหัวด้วยตัวเองให้ทราบถึงสาเหตุของอาการปวดหัวเบื้องต้น
สาเหตุกลุ่มอาการ ปวดหัวนั้น อาจมาจากหลายสาเหตุ แต่โดยมากจะเกิดจากผลของอาการติดขัดทางเดินเลือดลมเพราะกล้ามเนื้อเส้นเอ็นบีบรัดเส้นเลือดและเส้นประสาทและอีกสาเหตุหนึ่งคือความเครียดที่เกิดขึ้น ซึ่งบางครั้งเกิดโดยไม่รู้ตัว
ปวดหัวตึงๆ สาเหตุมาจาก เลือด ลมติดขัดเนื่องจากมีไขมันมากในเลือด (ความดันโลหิตสูง) อาการจะมีการปวดตึงๆทั่วหัว ร้าวลงไปถึงที่ท้ายทอย เรามักสังเกตได้ว่า อาการนี้จะเด่นชัดตอนเราตื่นนอนในตอนเช้า (แต่บางรายผู้ที่มีความดันสูงอาจไม่มีอาการนั้นเนื่องจากคอ บ่า ไหล่ ยังไม่ตึง ติดขัดทางเดินเลือดลม) และถ้าความดันสูงขึ้นมากๆอาจจะทำให้เกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตกได้ ค่าความดันคือค่าที่เกิดจากหัวใจบีบตัวและคลายตัวของหัวใจ การตรวจวัด เป็นค่ามาตรฐาน มี 2 ค่า คือ
ความดันเมื่อหัวใจบีบตัวเพื่อส่งเลือดไปทั่วร่างกาย คือค่าความดันตัวบนของคนปกติจะเท่ากับ120มม.ปรอท
หัวใจคลายตัวจะได้ความดันตัวล่างในคนปกติเท่ากับ80มม.ปรอท หากวัดได้ค่าตัวบนมากกว่า140มม. ปรอท และค่าความดันตัวล่างมากกว่า90มม.ปรอทวัดค่าอย่างน้อย 2 ครั้ง ถ้ายังเกินอยู่ จะถือว่าอยู่ในภาวะความดันโลหิตสูง
วิธีดูแลตัวเอง ควรควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วน เลี่ยงไขมันสัตว์ อาหารเค็ม งดสุรา บุหรี่ และสามารถใช้สมุนไพรลดความดันได้เช่น เห็ดหลินจือ ขึ้นฉ่าย ใบบัวบก หรือใช้พวก ขิง กระเจี๊ยบ ที่สามารถช่วยลดไขมันในเลือดและบำรุงหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์แผนไทยหรือเภสัชกรแผนไทยก่อนใช้ยาสมุนไพรทุกครั้ง
2. ปวดหัวตื้อๆ เนื่องมาจากความเครียดหรือมีอาการไข้ สังเกตอาการคือจะปวดตื้อๆ ที่ขมับทั้งสองข้างรวมถึงกลางหน้าผาก เหมือนมีอะไรมาบีบรัดจนหนักหัวและจะหายไปเองในระยะเวลา2-8ชั่วโมงขึ้นอยู่กับความเครียด
วิธีดูแลตัวเอง เนื่องจากความเครียดควรปรับวิธีคิด ไม่ควรเครียดและพยายามสงบใจ หาเวลาว่างออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขออกมาหรือทานชาประเภทดอกไม้ หรือยาหอมที่ส่วนประกอบของดอกไม้เยอะๆ เช่น ยาหอมเทพวิจิตร จะทำให้จิตใจสงบลงและทำให้นอนหลับง่ายขึ้น เพื่อป้องกันภาวะความเครียด
ขณะเกิดอาการปวดหัวตื้อๆ จากความเครียด มียาสมุนไพรที่ชื่อว่าจันทน์ลีลาใช้ร่วมกับยาหอมเทพวิจิตรสามารถทานแทนพาราเซตามอนเพื่อลดอาการปวดหัวได้(ยาพาราเซตามอนเป็นสารเคมีนอกจากช่วยให้หายปวดแล้วยังมีผลข้างเคียงถ้ากินมากๆตับจะอักเสบได้) การนอนหลับพักผ่อนจะช่วยให้ลดการปวดหัวได้มากสำหรับอาการปวดหัวตื้อๆ จากอาการไข้มียาสมุนไพรที่ชื่อว่าจันทน์ลีลาใช้ร่วมกับยาสมุนไพร 5 ราก เพื่อลดอาการปวดและตัดไข้ทั้งปวง ควรปรึกษาแพทย์แผนไทยหรือเภสัชกรแผนไทยก่อนใช้ยาสมุนไพรทุกครั้ง
3. ปวดหัวตุ๊บๆ เนื่องมาจากไมเกรนสังเกตอาการคือ จะปวดหัวข้างใดข้างหนึ่งบางรายอาจปวดทั้งสองข้างปวดตุ๊บๆเป็นจังหวะ จะมีอาการอยู่ประมาณ 4-8 ชั่วโมง และอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วยบางครั้งออกไปข้างนอกเจอสิ่งกระตุ้นเช่น แสงแดดแรงๆสว่างจ้ากลางแจ้ง ก็เกิดอาการได้
วิธีการดูแลตัวเอง ใช้ยาหอมนวโกฐชงทานทุกวันสามารถช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรนได้มีผลงานวิจัยยาหอมนวโกฐช่วยลดความรุนแรงอาการปวดหัวไมเกรนและอาการจะห่างไปเรื่อยๆการนอนหลับพักผ่อนจะช่วยให้ลดการปวดหัวได้ควรปรึกษาแพทย์แผนไทยหรือเภสัชกรแผนไทยก่อนใช้ยาสมุนไพรทุกครั้ง
4. ปวดตึงๆ ที่เบ้าตาอาการจะปวดตึงๆและร้าวมาที่หัวตาปวดแบบนี้คืออาการสายตามีการเปลี่ยนแปลงหรือผิดปกติเช่นสายตาอาจมีค่าสั้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากการใช้กล้ามเนื้อตาหนักเกินไปจนจุดโฟกัสจอตาเปลี่ยนไป
วิธีการดูแลตัวเอง ควรพักผ่อน ลดการใช้สายตา และทานยาหอมเทพวิจิตร ยาหอมเทพวิจิตรจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย หรือใช้ยาสมุนไพรจากดอกดาวเรือง เพราะดอกดาวเรืองเป็นแหล่งรวมของวิตามินเอ มีสรรพคุณช่วยบำรุงสายตาควรปรึกษาแพทย์แผนไทยหรือเภสัชกรแผนไทยก่อนใช้ยาสมุนไพรทุกครั้งหากมีปวดตาเพิ่มขึ้นให้ไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจตารักษาต่อไป
ขอขอบคุณที่มา: จินตะวันเฮิร์บ