
04 มีนาคม 2568 ร้อง "กัน จอมพลัง" ช่วยเหลือ หลังเข้าไปพัวพันกับ น้องหญิง ท่านพี่ "คลื่นพลังบุญ" โดย นายเอ (นามสมมติ) อายุ 58 ปี พาลูก 2 คน มาขอความช่วยเหลือจาก กันจอมพลัง เพื่อช่วยพาไปหาแม่ หลังจากไม่สามารถติดต่อภรรยาได้ ตั้งแต่ไปอยู่กับ น้องหญิง ท่านพี่ "คลื่นพลังบุญ" ทางลูก ๆ พยายามติดต่อไปทุกวัน แต่ไม่มีการตอบรับ หนำซ้ำภรรยายังให้ตำรวจกลับมาที่บ้านพร้อมกับขนของมีค่าและโฉนดที่ดินออกไปด้วย ทำให้ลูกคิดถึงแม่และกลัวจะไม่มีที่อยู่
นายเอ เปิดเผยว่า ปกติแล้วภรรยาของตนค่อนข้างมีความเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว จนกระทั่งเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว ได้ดูรายการโหนกระแสที่น้องหญิง-ท่านพี่ มาออกอากาศ จนเริ่มรู้สึกว่ามีความเลื่อมใส พูดกับตนว่า 2 คนนี้ต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็น จึงตัดสินใจชวนตนไปหาทั้งคู่ ที่บ้านของ คุณซาร่า หนึ่งในลูกศิษย์ที่ จ.ชลบุรี
เมื่อไปถึงก็ได้ฟังธรรม ซึ่งลักษณะการเทศน์ธรรมของพวกเขาเป็นลักษณะทั่วไป แต่เมื่อไปหาหลายครั้ง ก็พบว่าเนื้อหาของการเทศน์ธรรมแปลกไป ประมาณว่า ไม่ต้องสนใจคนที่อยู่รอบข้าง ให้หมั่นทำบุญให้ญาติพี่น้องในอีกหลายพันภพชาติ
นอกจากนี้ยังมีการฝังความเชื่อว่า คุณสามารถเพิ่มคลื่นพลังบุญได้ โดยการถวายปัจจัยในรูปแบบของเงินทองและทรัพย์สิน
นายเอ กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกไม่โอเค ตนและลูกๆ จึงพยายามเตือนภรรยา แต่ภรรยากลับมีความเลื่อมใสมากขึ้น ถึงขนาดที่เริ่มไปไหนมาไหนด้วยกัน ซัพพอร์ตเรื่องเงินเช่น ค่ารถตู้ ค่าที่พัก และต่อมาเขาพยายามพูดให้เห็นว่าตนและญาติที่ตักเตือนเป็นศัตรู
กระทั่งต่อมาทราบว่า ภรรยามีการนำโฉนดที่ดินบ้านติดตัวออกไป ทำให้เกิดการทะเลาะกัน จนกระทั่งเมื่อ 1 เดือนที่แล้วภรรยาพยายามกลับมาเอาทรัพย์สินเพิ่ม โดยมีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่สามารถเข้าบ้านของตนเองได้ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมางัดบ้าน แต่ปรากฏว่า ในวันนั้นตนได้เอาทรัพย์สินออกไปด้วย ทำให้ภรรยาไม่สามารถนำทรัพย์สินออกไปได้ ทำให้ภรรรยาไม่พอใจและโกรธอย่างมาก จนเกิดการทะเลาะกัน
"ผมบันดาลโทสะ ไล่ภรรยาออกจากบ้าน แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเลิกรากัน มองว่าการกระทำของกลุ่มคนเหล่านี้ทำให้ครอบครัวแตกแยกมีปัญหากัน"
นายเอ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ภรรยาเคยประกอบอาชีพสุจริต ขายพิซซ่า ก่อนจะเข้าไปร่วมกลุ่มนี้ก็ได้มีการขายซุ้มพิซซ่าทิ้งและได้เงินติดตัวไป 20,000 บาท ส่วนลูกสาววัย 15 ปี ที่ปกติต้องนอนกับแม่ทุกคืน ตอนนี้ได้แต่นอนร้องไห้คิดถึงแม่ ส่วนตัวจึงกลัวว่าลูกจะกลายเป็นเด็กที่มีปัญหาสุขภาพทางจิต หรือโรคศึมเศร้า
ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ กลัวว่ากลุ่มคนเหล่านี้อาจจะหลอกล่อให้ภรรยาตนนำโฉนดที่ดินไปซื้อขายจำนองเพื่อนำเงินมาต่อสายป่านให้กลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งจะกลายเป็นว่าตนอยู่บ้านเฉยๆ แต่อาจจะถูกไล่ออกจากบ้านได้ เนื่องจากตนและภรรยาไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรสกัน
นอกจากทรัพย์สินแล้วยังพบว่า นาฬิกาที่ภรรยาซื้อให้ตนหายไป และนาฬิกาเรือนดังกล่าวอยู่ในไลฟ์ที่นายโดม คนติดตาม ท่านพี่-น้องหญิง ใส่อยู่ ทำให้ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะมันคือนาฬิกาครบรอบในหลวงราชการที่ 9 ที่ภรรยาซื้อให้
ส่วนตัวเชื่อว่า ภรรยาถูกหว่านล้อม โดนมอมเมาด้วยคำพูด และถูกกักขัง จึงอยากฝากไปบอกกลุ่ม ท่านพี่-น้องหญิงว่า ถ้าหากเป็นอย่างที่คุณพูดจริง ว่า ปฎิบัติธรรม ละกิเลส เหตุใดจึงต้องการทรัพย์เงินทองในรูปแบบปัจจัย นอกจากนี้ยังมีความอิจฉาริษยา โดยจะเห็นได้ชัดเจน จากที่มีการกล่าวร้ายถึง คุณซาร่า และตนอยากจะให้เขาปล่อยภรรยาตนออกมา
นอกจากนี้ นาย เอยังเปิดเผยว่า ตนเองนั้นคือช่างปั้น ที่ได้รับการจ้างวานจากคุณซาร่า ให้ปั้นรูปปั้นของน้องหญิงกับท่านพี่ โดยหลังจากที่ตนเองและภรรยาได้ไปพบกับน้องหญิงที่บ้านคุณซาร่า คุณซาร่าถามว่า พวกตนทำอาชีพ ทำงานทำการอะไร ตนจึงบอกไปว่าเป็นช่างปั้นหุ่น
คุณซาร่า จึงบอกว่างั้นดีเลยอาจารย์น้องหญิงและท่านพี่มี Project ที่จะปั้นหุ่นของตัวเองขึ้นมา พอครั้งที่ 2 ตนและภรรยาก็เดินทางไปหา อาจารย์น้องหญิงและท่านพี่อีกครั้งเพื่อไปฟังการแสดงธรรมและไปดูการรักษาอาการเจ็บป่วยให้กับลูกศิษย์
จนกระทั่งครั้งที่ 3 เป็นงานเลี้ยงกลุ่มแฟนคลับอาจารย์น้องหญิงและท่านพี่ตนและภรรยาก็ไปร่วมงานด้วยทำให้ครั้งนี้ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องปั้นหุ่นตนและภรรยาได้พูดคุยกับอาจารย์น้องหญิงและท่านพี่โดยตรง วันรุ่งขึ้นจึงมีการถ่ายรูปและเริ่มงานปั้นหุ่น ตกลงราคาตัวละ 35,000 บาท 2 ตัวจบที่ 70,000 บาท
ตอนแรกอาจารย์น้องหญิงและท่านพี่ไม่เร่งงานให้ปั้นไปเรื่อยๆขอให้ออกมาดีและสมบูรณ์แบบที่สุด แต่พอตนลงมือปั้นไปได้ระยะหนึ่งก็มาเร่งงาน สุดท้ายตนปั้นเสร็จและส่งมอบงานจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินสักบาท อ้างว่างานไม่ได้คุณภาพและช่างไม่มีฝีมือ
ขณะที่ "กัน จอมพลัง" เผยว่า เบื้องต้นจะช่วยตามหาแม่ของเด็ก ซึ่งเชื่อว่าวันนี้ที่ทางคุณพ่ออกมาขอความช่วยเหลือนั้น ตนมองว่าไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกับแม่ แต่แค่ต้องการอยากให้ลูกได้เจอแม่เท่านั้น ส่วนจะมีปัญหาอะไรก็ให้มาคุยหารือกัน
เปิดแชท "พี่โดม" น่ากังวล
ต่อมาทีมข่าวได้รับภาพแชทระหว่าง นายโดม ผู้ติดตามน้องหญิง คลื่นพลังบุญ กับ นางสาวบี (นามสมมติ) ภรรยาของนายเอ ผู้เสียหาย โดยพบว่าในแชทได้มีการสอบถามเรื่องความเชื่อต่าง ๆ กับนายโดม ซึ่งนายโดม ได้มีการตอบกลับ และอ้างคำสอนของน้องหญิง คลื่นพลังบุญต่าง ๆ กลับไป เช่น "อาการที่เกิดแสบท้องของนางสาวหลี เกิดจากวิญญาณหิว ให้เชิญมารับบุญกับอาจารย์" รวมทั้งมีการอ้างให้ นางสาวบีรักษากายวาจาใจ
ส่วนแชทต่อมานายโดม ได้มีการคุยในเชิงชู้สาว โดยในโดมได้มีการพิมพ์หานางสาวบีว่า "เวลาดูนาฬิกา เหมือนน้องมาเดินเกาะแขนเลย" ซึ่งนาฬิกาดังกล่าวก็เป็นนาฬิกาของนายเอ ผู้เสียหาย ที่นางสาวบี ได้ซื้อให้เป็นของขวัญ และ "พี่โดมมีน้องจับมืออยู่ตลอดเวลา" "มีบางคนยิ้มหน้าบ้านเลย แอบดีใจจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจ" รวมทั้งยังมีการส่งเพลงในลักษณะจีบกันอีกด้วย